ด่วน!!! คุก 1 ปี‘เปรมชัย’ไม่รอลงอาญา คดีติดสินบนจนท.
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 11 มิ.ย.62 ที่ ห้องพิจารณาคดี 1 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงคราม ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีติดสินบนเจ้าพนักงานหมายเลขดำ อท.10/2561 - คดีหมายเลขแดง อท.13/2562 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 7 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต" อายุ 64 ปี ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) และนายยงค์ โดดเครือ" อายุ 66 ปี คนขับรถของนายเปรมชัย เป็นจำเลยที่ 1-2 ฐานกระทำความผิดต่อเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ประกอบมาตรา 83 และขอให้นับโทษของนายเปรมชัย จำเลยที่ 1 ต่อจากโทษจำคุก ในคดีอาญาหมายเลขแดง อ.63/2562 ของศาลจังหวัดทองผาภูมิ (คดีร่วมกันครอบครองซากสัตว์ป่า-ล่าเสือดำ) และโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1143/2561 (คดีร่วมภรรยาครอบครองงาช้างแอฟริกา 2 คู่) , อ.1144/2561 (คดีครอบครองอาวุธปืนไรเฟิล) ของศาลอาญา รวมทั้งให้นับโทษตำคุกนายยงค์ จำเลยที่ 2 ต่อจากโทษคดีอาญาหมายเลขแดง อ.63/2562 ของศาลจังหวัดทองผาภูมิด้วย (คดีร่วมกันครอบครองซากสัตว์ป่า-ล่าเสือดำ)
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธต่อสู้คดี
ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ฝ่าย โจทก์มีนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศรด้านตะวันตก เป็นประจักษ์พยาน เบิกความยืนยันข้อความที่นายเปรมชัยจำเลยที่ 1 พูดกับนายวิเชียรว่า “จะให้นายนพดล พฤกษะวัน มาเคลียร์ มีหนทางช่วยเหลือกันได้ไหม มีเงื่อนไขอะไรไหม ถ้าปล่อยพวกผมอยากได้อะไร ผมก็จะหามาให้”
นอกจากนี้ยังมีพยานโจทก์ปากอื่น เบิกความสนับสนุนว่า นายเปรมชัย พูดข้อความดังกล่าวกับนายวิเชียรจริง
เมื่อพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ที่ "นายเปรมชัย" จำเลยที่ 1 พูดต่อ "นายวิเชียร" ภายหลังที่ถูกจับขณะที่มีการสอบถามข้อเท็จจริงภายในอาคารนิทรรศการและศูนย์บริการของสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรดันตะวันตก ที่ควบคุมตัว "นายเปรมชัย" จำเลยที่ 1 กับพวกแล้ว ศาลเห็นว่าเป็นสถานที่ไม่กว้าง ไม่มีเสียงแวดล้อมอื่นใดรบกวน การพูดในขณะที่ถูกควบคุมตัวอยู่นั้น "นายเปรมชัย" จำเลยที่ 1 และ "นายวิเชียร" กับพยานโจทก์ ย่อมอยู่ใกล้กันมีโอกาสได้ยินข้อความที่พูด อีกทั้งข้อความดังกล่าวเป็นข้อควานที่สั้นๆ ไม่ยืดยาว ย่อมอยู่ในวิสัยที่น่าจะจดจำได้ ประกอบกับพฤติการณ์ "นายเปรมชัย" พูดหลังจากทีโดยจับ แม้ข้อความจะไม่ได้ระบุว่าจะให้อะไรโดยตรงก็ตาม แต่ก็น่าจะสื่อได้ว่า "นายเปรมชัย" ต้องการให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเป็นการตอบแทนเพื่อให้ปล่อยตัวไป
การกระทำของ "นายเปรมชัย" จำเลยที่ 1 นั้น จึงมีลักษณะเป็นการขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ อันมิชอบด้วย อันเป็นความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ตามฟ้องโจทก์
ส่วน "นายยงค์" จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นคนขับรถ ได้พูดคุยกับนายจิตติ สวัสดิ์สาย และนายศุภกิต พรหมมี พยานโจทก์ ก็เป็นการสนทนาพูดคุยระหว่างกันเองโดยลำพังเท่านั้น จึงฟังไม่ได้ว่า "นายยงค์" จำเลยที่ 2 ร่วมกับ "นายเปรมชัย" จำเลยที่ 1 ที่ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานฯ "นายยงค์" จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดตามฟ้องโจทก์
พิพากษาว่า "นายเปรมชัย" จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ให้จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา และ ให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษจำคุกคดีในศาลจังหวัดทองผาภูมิด้วย ในส่วนของ นายยงค์" จำเลยที่ 2 พิพากษายกฟ้อง
ส่วนที่โจทก์ ขอให้นับโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1143/2561 , อ.1144/2561 ของศาลอาญาด้วยนั้น เนื่องจากคดีทั้งสองศาลอาญายังไม่มีคำพิพากษา ให้ยกคำขอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีร่วมกันครอบครองซากสัตว์ป่า-ล่าเสือดำในศาลจังหวัดทองผาภูมิ กาญจนบุรีนั้น ศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 มี.ค.62 ให้จำคุก "นายเปรมชัย" เป็นเวลา 16 เดือน ดังนั้นเมื่อนับโทษต่อจากคดีนี้ รวมจำคุก "นายเปรมชัย" 1 ปี 16 เดือน
ส่วนนายยงค์ คนขับรถของนายเปรมชัย คดีร่วมกันครอบครองซากสัตว์ป่า-ล่าเสือดำ ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ให้จำคุก 13 เดือน ซึ่งขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างอุทธรณ์ชั้นศาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี