นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดประชุมใหญ่ ประจำปี 2562 ของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด(ชสอ.)ว่า ผลดำเนินการของชสอ.ปีนี้มีกำไรสุทธิ 1,712 ล้านบาท ถือว่ามีผลประกอบการที่ดี แต่อีกมุมมองหนึ่งที่อยากฝากไว้คือ กระบวนการสหกรณ์ออมทรัพย์เป็นสถาบันที่สำคัญอย่างยิ่ง มีผลต่อสภาวะเศรษฐกิจของประเทศค่อนข้างมาก ปัจจุบันมีทุนดำเนินงานจัดอยู่ในอันดับ 3 ของประเทศ ฉะนั้น การดำเนินงานของ ชสอ. หรือสหกรณ์ออมทรัพย์ต่างๆต้องมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นไปตามมาตรฐานการทำบัญชี ตลอดจนมาตรฐานการทำธุรกิจที่ควรจะเป็น ซึ่งจะทำให้การดำเนินการมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน รวมทั้งเป็นที่พึ่งสมาชิกที่มีมากถึง 12 ล้านคน หรือ 1 ใน 5 ของประชากรไทย
ส่วนการบริหารจัดการเงินล้นระบบของขบวนการสหกรณ์นั้น ต้องรู้จักคำว่าดุลยภาพ หรือการนำเงินไปแสวงหาผลตอบแทน เช่น ลงทุนหรือปล่อยกู้ ที่นำมาซึ่งผลตอบแทนกลับคืนสู่สมาชิก คณะกรรมการดำเนินการต้องพิจารณาให้รอบคอบ ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่สหกรณ์หรือชุมนุมสหกรณ์จะรับได้และธุรกิจที่จะไปลงทุนต้องไม่หมิ่นเหม่หรือขัดกฎหมาย และเป็นไปตามความต้องการของสมาชิก บางครั้งผลตอบแทนที่ได้รับอาจไม่สูงเกินไป แต่มั่นคงลดความเสี่ยง จึงอยากให้ผู้บริหารสหกรณ์ทุกแห่งคำนึงถึงประเด็นนี้ อย่าไปคิดถึงกำไรสูงสุด แต่ให้คิดถึงกำไรที่มีความมั่นคง ไม่มีความเสี่ยง สมาชิกทั้งหลายมีความสุขร่วมกัน
“สหกรณ์ ถือมีความสำคัญของประเทศ เพราะเป็นการประกอบการของคนไทย เกือบ 100% ฉะนั้น ธุรกิจต่างๆที่ดำเนินการโดยสหกรณ์ เมื่อทำและเกิดผลประโยชน์ขึ้นมาหมุนเวียนอยู่ในประเทศ จึงอยากให้สมาชิกสหกรณ์ทุกคนทั่วประเทศ คำนึงถึงประเด็นความมั่นคงของชาติ ประกอบกับการดำเนินกิจการ อย่าไปมองความต้องการในผลตอบแทนอย่างเดียว แต่ถ้าคิดถึงความมั่นคงสมาชิกเป็นหลัก จะทำให้ฐานะทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ทุกแห่งมั่นคงถาวรต่อไปได้ นอกจากนั้น สมาชิกสหกรณ์ต้องเข้าใจสภาวะเป็นอยู่ปัจจุบัน ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน หรือการลงทุน ถ้าไม่มีความรู้ควรปรึกษาผู้มีความรู้ หรือผู้เชี่ยวชาญ ประกอบการตัดสินใจลงทุน ลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น”อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าว
ด้าน รองศาสตราจารย์พิเศษ พลโท ดร.วีระ วงศ์สรรค์ ประธานกรรมการ ชสอ. กล่าวว่า การบริหารงานในรอบปีบัญชีที่ผ่านมา ชสอ. มีสหกรณ์สมาชิก 1,093 สหกรณ์ มีสินทรัพย์รวม 133,289 ล้านบาท เพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อนถึง 11,257 ล้านบาท บริหารสินทรัพย์ให้เกิดกำไรสุทธิ 1,713 ล้านบาท จ่ายเงินปันผลได้ในอัตรา 5.30% และเงินเฉลี่ยคืนในอัตรา 4.00% ซึ่ง ชสอ. ได้จัดทำระบบธรรมาภิบาลในการบริหารงานตามแนวทางของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งผลการประเมินอยู่ในระดับดีเลิศ ส่งผลให้ ชสอ. รักษาระดับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือองค์กร จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ A- แนวโน้มอันดับเครดิต : คงที่ (Stable) ซึ่งแสดงถึงความแข็งแกร่งทางการเงินและการบริหารของ ชสอ. ได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ชสอ. มุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรของสหกรณ์ออมทรัพย์ ให้มีความรู้ความสามารถ ส่งเสริมให้ ระบบธรรมาภิบาล ทั้งในส่วนของคณะกรรมการดำเนินการ ผู้ตรวจสอบกิจการ และฝ่ายจัดการ พัฒนาตามเกณฑ์คุณภาพบริหารจัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ พัฒนา ชสอ. ให้มีความเจริญก้าวหน้า เป็นต้นแบบองค์กร “สีขาว สะอาด โปร่งใส” ของขบวนการสหกรณ์ ที่มีบทบาทสำคัญ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิกสหกรณ์ ให้มีความ “มั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี