สตม.ทลาย‘แก๊งจีน’แสบ ซุกคอนโดหรูตั้งกลุ่มลอบ‘โอนเงินใต้ดิน’นับ100ล้าน
13 มิ.ย.62 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ , พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ , พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รรท.รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.วิญญู อำนวยสมบัติ รอง ผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.2 บก.สส.สตม.ร่วมแถลงข่าวการจับกุมชาวจีน 9 ราย เช่าคอนโดหรู ลักลอบโอนเงินใต้ดินแก่ลูกค้าในประเทศจีน โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.62 เจ้าหน้าที่สืบสวน กก.2 บก.สส.สตม. ได้สืบสวนพบว่าที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร มีกลุ่มชาวจีนมาเช่าห้องขนาดใหญ่ 2 ห้อง มีพฤติกรรมฝังตัวอยู่ภายในห้อง ไม่ค่อยออกไปไหนมาไหนเหมือนคนปกติ จากแนวทางการสืบสวนเชื่อได้ว่าเป็นแก๊งชาวจีนลักลอบเข้ามาประเทศไทย เพื่อดำเนินการในสิ่งที่ผิดกฎหมาย
พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ จึงได้นำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการพักอาศัยของคนต่างด้าว ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ที่อาคารดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจห้องที่ 1 มีชายสัญชาติจีนมาเปิดประตูห้อง เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามวิ่งหนี เพื่อไปปิดระบบคอมพิวเตอร์ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถห้ามไว้ได้ ภายในพบชายสัญชาติจีน 7 ราย พร้อมด้วยคอมพิวเตอร์จำนวน 5 เครื่อง กำลังใช้ระบบการโอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ต โดยติดต่อลูกค้าผ่านโปรแกรมแชทออนไลน์ เพื่อทำธุรกรรมโอนเงิน เจ้าหน้าที่พบหลักฐานการโอนเงินหลายรายการ จากนั้นได้ทำการขยายผลไปสู่การตรวจห้องที่ 2 ซึ่งอยู่อีกชั้นหนึ่งของคอนโดมิเนียม พบชาวจีน 2 ราย กำลังนั่งใช้คอมพิวเตอร์จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งกำลังนั่งโอนเงินให้กับลูกค้าเช่นกัน
ชาวจีนทั้งหมดรับสารภาพว่า เดินทางเข้ามาในประเทศไทยด้วยวีซ่าประเภทท่องเที่ยว เพื่อมาลักลอบทำธุรกรรมโอนเงินออนไลน์ ได้รับค่าจ้างเดือนละประมาณ 1.5 แสนบาทต่อคน โดยทั้งหมดมีความรู้ความชำนาญด้านคอมพิวเตอร์ สำหรับการโอนเงินดังกล่าวค่าธรรมเนียมในการโอนมีราคาถูกกว่าการโอนเงินปกติ และจะไม่ถูกตรวจสอบเงินที่มาของการเงิน และยอมรับว่าเงินส่วนหนึ่งเป็นเงินที่ลูกค้าได้หรือเสียจากการพนันออนไลน์ แต่การโอนเงินดังกล่าวยังไม่ได้รับอนุญาตจากทางการจีน ซึ่งการขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมายนั้นจะทำได้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูง
จากการตรวจสอบในคอมพิวเตอร์พบว่า ยอดการโอนเงินเฉลี่ยวันละ 2.6 ล้านบาท โดยได้ดำเนินการดังกล่าวมาแล้วประมาณ 1.5 เดือน ดังนั้นกลุ่มนี้ได้ทำธุรกรรมการโอนเงินมาแล้วประมาณ 100 ล้านบาท สตม.จึงได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและบันทึกรายชื่อเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักร (Black List) อีกต่อไป จากนี้จะได้ทำการขยายผล และประสานทางการจีนเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
พล.ต.ท.สมพงษ์ ระบุว่า จากข้อมูลทางการสืบสวน สตม.ขอเรียนกับพี่น้องประชาชนว่าหากมีใครชักชวนให้ท่านโอนเงินออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ตโดยมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าหรือเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ หรือ “การโอนเงินใต้ดิน” ท่านมีความเสี่ยงในการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ และอาจสูญเสียเงินทั้งหมดไป เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นผู้ดำเนินกิจการ
# พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.อก.สตม. ประสานภาพ-ข้อมูล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี