14 มิ.ย.62 ที่โรงแรมอัมรินทร์ลากูน จ.พิษณุโลก สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) จัดการประชุมสัมนาเชิงปฏิบัติการ ”สะพานเชื่อมโยงการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน กับการจัดการศึกษาอาชีวศึกษา” โดยมี ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) เป็นประธานการประชุม มี ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.), นายบรรจง ดีเหลือ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1, นายวิรัช ตั้งประดิษฐ์ ประหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2, ผอ.กลุ่มพัฒนาระบบการแนะแนว สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา, ศึกษาธิการภาคเหนือ17, ศึกษาธิการจังหวัดพิษณุโลก, ผอ.สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ประธานกรรมการอาชีวศึกษาจังหวัด, ผอ.สถาบันอาชีวศึกษา, ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา, ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จ.พิษณุโลก, ผอ.โรงเรียนมัธยมศึกษา จ.พิษณุโลก เข้าร่วมประชุมเสวนาฯกว่า 250 คน
ดร.บุญรักษ์ กล่าวว่า หลังจากที่ สอศ. และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน เพื่อเชื่อมโยงการจัดการการศึกษา และกำหนดนโยบายเป้าหมายในการผลิตและพัฒนากำลังคนร่วมกัน เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา และในการประชุมร่วมกันวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นการปฏิบัติเพื่อเชื่อมโยงงานระหว่างกัน เพื่อเพิ่มผู้เรียนในระดับอาชีวะฯให้มากขึ้น เพราะการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ การอาชีวะศึกษามีความสำคัญมาก แต่เนื่องจากการศึกษาของประเทศถูกแบ่งเป็นช่วงๆและแบ่งการรับผิดชอบ การเชื่อมโยงระหว่างกันจึงไม่เกิดขึ้น ทำให้มีปัญหาคือไม่มีผู้เรียนที่จะป้อนเข้าสู่วิทยาลัยอาชีวะฯได้อย่างเพียงพอ กับที่ตลาดแรงงานของประเทศต้องการ
ดร.บุญรักษ์ กล่าวต่อว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการเดินหน้าจัดการศึกษาของประเทศที่มีเป้าหมายสำคัญ โดยเราจะทำให้เด็กคนพบตัวตนได้เร็วที่สุด เพราะที่ผ่านมาเด็กระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่มีโอกาสมากนัก ซึ่งในช่วง 2-3 ปีมานี้ ที่ผมเป็นเลขาธิการ สพฐ.ก็ได้วางพื้นฐานให้เด็กไว้แล้ว โดยการทำหลักสูตรระยะสั้น แบบ Block Course และ Shopping Course เกี่ยวกับเรื่องอาชีพให้เด็กเลือกเรียนเพื่อค้นหาตัวตน ดังนั้นหลังจากการประชุมในวันนี้แล้ว ก็จะขอให้ประธานอาชีวศึกษาจังหวัด(อศจ.) เป็นเจ้าภาพเชิญ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาทั้งประถมศึกษาและมัธยมศึกษามาประชุมทำหลักสูตรระยะสั้น หรือหลักสูตรที่สอดคล้องกันระหว่าง การศึกษาขั้นพื้นฐาน กับอาชีวะฯ และสอดคล้องกับความต้องการกำลังคนของพื้นที่ และขอให้เชิญศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.) มาร่วมด้วย เพื่อจะได้นำเสนอต่อคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.) ให้การสนับสนุนเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในแต่ละจังหวัด จากนั้นจะมีการคัดเลือกจังหวัดที่จะเป็นต้นแบบในการขับเคลื่อนอย่างน้อยภาคละ 1 จังหวัด เพื่อขยายผลในเรื่องต่อไป
“สอศ.และสพฐ.จะต้องทำงานเชื่อมโยงผ่านสะพาน 5 สาย คือความเชื่อมโยงของฝ่ายบริหาร ความเชื่อมโยงระหว่างครูอาชีวะกับครูสพฐ. เด็กนักเรียนอาชีวะ กับนักเรียนสพฐ.ผู้ปกครองต้องมีทัศนคติที่ดีต่อการศึกษาสายอาชีพ และการเชื่อมโยงระหว่างชุมชนกับสถานประกอบการซึ้าถ้าเราสามารถเชื่อมโยงทุกอย่างนี้ได้ ก็จะสามารถแก้ปัญหาได้หมดและความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และผลที่จะได้ไม่เพียงแต่ สพฐและสอศ.เท่านั้น แต่ยังเป็นการผลิตกำลังคนที่ตอบโจทย์ต่อการพัฒนาประเทศด้วย” ดร.บุญรักษ์ กล่าว
ด้าน ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า การศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นรากฐานสำคัญของการจัดการอาชีวศึกษา ดังนั้น ความร่วมมือระหว่าง สพฐและ สอศ.ในครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ ที่จะบูรณาการในการทำงานร่วมกัน โดยมีโจทย์ใหญ่ คือปัญหาประเทศที่ต้องได้รับการแก้ไข โดย สพฐ.และสอศ. จะได้ร่วมมือกันจัดทำหลักสูตร ในการผลิตพัฒนากำลังคนสายอาชีพ โดยสพฐ.จะวางรากฐานการเรียนสายอาชีพให้นักเรียน เพราะการแนะแนวให้นักเรียนไปเรียนอาชีวะเป็นการแก้ไขปัญหาปลายเหตุ ไม่ได้เพิ่มผู้เรียนอย่างจริงจัง สพฐ.และสอศ.จะต้องทำลายกำแพงที่กั้นการศึกษาระหว่างกัน และสร้างสะพานเชื่อมโยงการศึกษาร่วมกัน เพื่อตอบโจทย์ของประเทศ เพราะประเทศยังขาดกำลังคนด้านอาชีวะอีกจำนวนมาก
ทั้งนี้ สพฐ.และ สอศ. ต้องร่วมมือกันปรับทัศนคติ ทำความเข้าใจให้ตรงกัน เปลี่ยนค่าแนิยมของเด็กและผู้ปกครอง โรงเรียนต้องไม่หวงเด็ก ต้องปล่อยเด็กให้ไปเรียนต่อสายอาชีพ ซึ่งหากสามารถทำลายกำแพงเหล่านี้ได้ ก็จะสามารถแก้ปัญหาการศึกษาของชาติได้อย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี