สพฐ.เผยผลสืบฯกรณีเด็ก 5 ขวบถูกละเมิด เกิดในร.ร.จริง สั่งสพป.อุบลฯ เขต 3 ตั้งกก.สอบสวนวินัยไม่ร้ายแรง ผอ.ครูเวร ครูประจำชั้น และผู้เกี่ยวข้องแล้ว แจง ร.ร.มีมาตรการดูแลเด็กตามนโยบาย แต่อาจดูแลไม่ทั่วถึง ประมาทเลินเล่อ เผยเลขาธิการ กพฐ.สั่งทบทวนมาตรการ ดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อกำชับร.ร.อีกรอบ ด้าน นายรณณรงค์ ยัน ต้องสอบวินัยร้ายแรงครูเวร-ครูประจำชั้น เพราะปล่อยให้เด็กถูกกระทำ
17 มิ.ย. 62 ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานผลการสืบข้อเท็จจริง กรณีปู่และย่าเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ที่อ้างว่าถูกเพื่อนระดับชั้นอนุบาล เเละรุ่นพี่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ล่วงละเมิด เหตุเกิดในโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี ซึ่งจากผลการสอบของคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงฯ ที่มี นายธีร์ ภวังคนันท์ หัวหน้าศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน(ฉก.ชน.) เป็นประธานฯ ซึ่งเป็กรรมการจากส่วนกลางที่ลงไปสืบสวน ได้รายละเอียดเชิงลึก แต่ตนไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเด็ก แต่เฉพาะข้อมูลจากการที่คณะกรรมการสืบฯลงไปพื้นที่เก็บข้อมูลจากปากคำพยานจากผู้เกี่ยวข้องทั้งข้อมูลในโรงเรียน และข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการเป็นหลักที่น่าเชื่อถือได้ ทั้งนี้ พบว่าทางโรงเรียนมีมาตรการดูแลนักเรียนและปฏิบัติตามนโยบายของ สพฐ.และนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ค่อนข้างดี มีการแยกโซนเด็กอนุบาล กับเด็กประถมศึกษาชัดเจน และการพักกลางวันก็คนละเวลา เช่น เด็กอนุบาลพักก่อนเด็กประถมฯ เป็นต้น
ส่วนเหตุการณ์เกิดขึ้นก็พบว่าเกิดขึ้นในโรงเรียนจริง แต่ช่วงที่เกิดเหตุการณ์คาดว่าเป็นช่วงลอยต่อการพักเที่ยงที่ผู้อำนวยการโรงเรียน หรือครูอาจดูแลไม่ทั่วถึงเพราะเด็กมีจำนวนมาก ดังนั้น ตนได้สั่งการให้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) อุบลราชธานี เขต 3 ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลโรงเรียน ให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรง กับผู้อำนวยการโรงเรียน ครูเวร และครูประจำชั้น ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในวันเกิเหตุมีความบกพร่องมากนอ้ยแค่ไหน
“ผลสืบฯพบว่าเหตุเกิดขึ้นในโรงเรียนจริง ประกอบกับความเห็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการที่สรุปไว้ตรงกันและอัยการก็ได้ส่งฟ้องแล้ว แต่ที่ให้สอบสวนวินัยไม่ร้ายแรง เนื่องจากโรงเรียนเองก็มีมาตรการในการดูแลเด็ก ไม่ได้ประมาทเลินเล่อร้ายแรง แต่อาจจะด้วยเหตุที่เกิดในช่วงพักเที่ยง ซึ่งการตั้งกรรมการสอบวินัยไม่ร้ายแรง ผอ.โรงเรียน ยังมีผู้เกี่ยวข้อง เช่น ครูเวร ครูประจำชั้น ส่วนจะทั้งหมดกี่รายอยู่ที่ สพป.อุบลราชธานี เขต 3 ส่วนโทษของการสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรง มีตั้งแต่ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน และลดขั้นเงินเดือน” ว่าที่ ร.ต.ธนุ กล่าว
ว่าที่ ร.ต.ธนุ กล่าวต่อว่า ส่วนผลการสืบสวนข้อเท็จจริงชุดของ สพป.อุบลราชธานี เขต 3 ยังไม่รายงานเข้ามา แต่เบื้องต้นแจ้งว่ารอข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการ ส่วนการดำเนินการกับ ผู้อำนวยการ สพป.อุบลราชธานี เขต 3 กรณีไม่รายงานเรื่องมายัง สพฐ.หลังเกิดเหตุและดำเนินการล่าช้านั้น เบื้องต้น ตรวจสอบแล้วพบว่าตั้งแต่เกิดเหตุมีการผอ.เขตฯรายงานมายัง สพฐ. 1 ครั้งนานมากแล้ว แต่ระยะหลังอ้างว่ารอเอกสารจากตำรวจและอัยการ และทางโรงเรียน จึงไม่ได้รายงานมาสพฐ. ซึ่งก็ไม่ได้ผิดวินัย แต่จะว่ากล่าวตักเตือนไปว่า ต่อไปหากเกิดเหตุในลักษณะนี้จะต้องเร่งรายงานมาส่วนกลางโดยเร็ว นอกจากนี้ ดร.สุเทพ ก็สั่งการให้ นายธีร์ ภวังคะนันท์ หัวหน้าศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน(ฉก.ชน.) สพฐ. ทบทวนมาตรการที่ สพฐ.วางไว้แล้ว ว่ายังมีจุดบอพร่อง หรือมีจุดอ่อนอยู่ที่ใด เพื่อหาทางป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตข้างหน้า ทุกโรงเรียนมีคู่มือมีระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนมีอยู่แล้ว เข่น เมื่อเกิดเหตุ ใครจะทำอย่างไร จะขอความช่วยเหลือใคร และก่อนเปิดภาคเรียนก็มีการซักซ้อมกับผอ.โรงเรียน แม้กระทั่งวันเปิดภาคเรียนก็ให้ผอ.ครูมายืนรับนักเรียนและผู้ปกครองที่หน้าประตูในสับดาห์แรกของการเปิดภาคเรียน ภายในโรงเรียน ผอ.ครูก็ต้องดูและความปลอดภัยต่างๆ ทั้งห้องน้ำ ห้องส้วม โรงอาหารให้สะอาดปลอดภัย รวมทั้งเรื่องการทะเลาะวิวาทก็วางมาตรการไว้หมดแล้ว แต่ก็คงต้องกำชับลงไปอีกรอบ
ด้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ที่พาปู่-ย่า เด็กหญิงวัย 5 ขวบ นักเรียนระดับชั้นอนุบาล มาร้องเรียนให้ สพฐ.ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กล่าวว่า การที่ สพป.อุบลราชธานี เขต 3 ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรง ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุได้ และครูเวร ครูประจำชั้น และผู้ที่เกี่ยวข้อง นั้น ตนเห็นว่าสอบวินัยไม่ร้ายแรงกับผอ.โรงเรียนได้ แต่ครูเวร- ครูประจำชั้น และผู้ที่เกี่ยวข้อง จะต้องถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง เพราะครูมีหน้าที่ดูแลเด็กแล้วทำไมปล่อยให้เด็กถูกกระทำแบบนี้ได้ ดังนั้น ตนจะไปถามญาติของเด็กหญิงวัย 5 ขวบที่เสียหาย และจะให้ญาติไปยื่นให้ ผอ.เขตพื้นที่ อุบลราชธานี เขต 3 สอบวินัยร้ายแรงครูเวร-ครูประจำชั้น และผู้ที่เกี่ยวข้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี