ภรรยาเล่านาทีช้างป่าดงใหญ่บุรีรัมย์กระทืบและใช้งาแทงสามีจนไส้ทะลัก แม้พยายามตะโกนเรียกและใช้สิ่งของเคาะรถเพื่อให้ช้างหันมาสนใจตนเองแทนแต่ไม่เป็นผลเห็นสามีสิ้นใจต่อหน้าต่อตา พร้อมเผยหากตนเองไม่แกล้งนอนนิ่งและคลานเข้าไปใต้ท้องรถสิบล้อก็คงไม่รอดเหมือนกัน ด้านแม่หนุ่มเคราะห์ร้ายวอนหน่วยงานรัฐหามาตรการป้องกันไม่อยากให้เกิดซ้ำอีก ขอให้ลูกชายเป็นศพสุดท้าย
21 มิ.ย.62 จากกรณีที่เกิดเหตุสลดช้างป่าดงใหญ่ ไล่เหยียบและใช้งาแทงนายสุรศักดิ์ พิจารณาครบุรี อายุ 26 ปี ชาวบ้าน ต.หนองบัว อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตเมื่อกลางดึกก่อนรุ่งสางของวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะไปนอนเฝ้าไร่มันสำปะหลัง บริเวณด้านทิศใต้บ้านคลองหิน ม.4 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ส่วน น.ส.สุรีรัตน์ ทบวงศรี อายุ 27 ปี ภรรยา ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย แต่โชคดีรอดชีวิตมาได้
ซึ่งล่าสุดญาติได้นำศพนายสุรศักดิ์ ที่ถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต ไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่บ้านหนองน้ำขุ่น หมู่ 1 ต.หนองบัว อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว โดยเฉพาะนางรจนา พิจารณาครบุรี อายุ 44 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นั่งร้องไห้หน้าร่างไร้วิญญาณของลูกชายปานใจจะขาด ขณะที่ญาติและเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวได้ทยอยเดินทางมาเคารพศพอย่างต่อเนื่อง
น.ส.สุรีรัตน์ ทบวงศรี ภรรยาผู้เสียชีวิต ได้เล่านาทีที่เห็นช้างป่าทำร้ายสามีว่า ช่วงกลางดึกขณะกำลังนอนเฝ้าไร่มันอยู่ในมุ้งกับสามี ก็ได้ยินเสียงช้างป่าเดินผ่านมาและรู้สึกว่าช้างเหยียบที่ขาของตน จึงได้ปลุกสามี จากนั้นช้างป่าก็ใช้งวงรื้อมุ้งสามีจึงวิ่งหนี ส่วนตนก็ทำทีนอนนิ่งอยู่กับทีก่อนจะค่อยๆ คลานเข้าไปใต้ท้องรถสิบล้อ แต่ช่วงที่สามีวิ่งหนีเกิดสะดุดล้มช้างป่าจึงได้ไล่เหยียบทั้งกระทืบซ้ำ และใช้งาแทงสามีถึงแม้ตนจะพยายามตะโกนเรียกและใช้สิ่งของเคาะรถสิบล้อที่หลบอยู่ เพื่อให้ช้างหันมาสนใจตนเองแทน เพราะหวังว่าช้างจะปล่อยสามี แต่ก็ไม่เป็นผลช้างป่าได้หันมาตนเองแต่ไม่ยอมปล่อยสามี ยังทำร้ายซ้ำต่อหน้าต่อตาแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ หลังจากช้างเดินหายไปในป่า จึงตัดสินใจเดินออกไปดูสามีก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงได้โทรศัพท์บอกญาติให้มาช่วย เสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวด้วย
ด้านนางรจนา พิจารณาครบุรี อายุ 44 ปี เล่าทั้งน้ำตาว่า หลังจากลูกสะใภ้โทรบอกว่าลูกชายถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิตก็ตกใจมาก และรีบบอกญาติให้พาออกไปยังจุดเกิดเหตุพอไปถึงเห็นสภาพศพลูกชายถึงกับเข่าทรุดเพราะรับไม่ได้ ไม่คิดว่าลูกจะถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิตเพราะจุดเกิดเหตุก็ไม่ได้อยู่ใกล้ป่า จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หามาตรการป้องกันไม่ให้ช้างออกมานอกเขตป่า เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก ขอให้ลูกชายเป็นศพสุดท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี