จับไอซ์337กก.
ซุกปนยาบ้าอีกเพียบ
ขณะลำเลียงทางรถยนต์
ผ่านจังหวัดกาญจนบุรี
ผลงานทหาร-ฝ่ายมั่นคง
ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง สกัดจับไอซ์ลอตใหญ่ น้ำหนัก 337 กิโลกรัม มูลค่า 340 ล้านบาท และยาบ้าอีก 14,000 เม็ด ที่ขบวนการค้ายาเสพติดลำเลียงทางรถยนต์ผ่านมาทางจังหวัดกาญจนบุรี
ตามนโยบายการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในประเทศของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) และผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก(ผบ.ศปก.ทบ.) พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่1(มทภ.1) และผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่1(ผบ.ศปก.ทภ.1) ภายใต้การบัญชาการของ พล.ต.ฐกัด หลอดศิริ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่(ผบ.พล.ร.9) และผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์(ผบ.กกล.สุรสีห์)
ในการนี้ เพื่อให้การปฏิบัติตามนโยบายเเละข้อสั่งการฯ บังเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม โดยเร่งด่วน พ.อ.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า จึงได้สั่งการเน้นย้ำให้ หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ให้ทุกจุดตรวจ, จุดสกัดเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจค้น รวมถึงเฝ้าสังเกตบุคคล และยานพาหนะต้องสงสัย ตลอดจนจัดกำลังพลลาดตระเวนในเส้นทางตามภูมิประเทศ โดยต่อเนื่อง
จนกระทั่งเวลา 20.00 น.ของวันที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ลาดหญ้า ประจำจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ หมู่ 2 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ ตชด.135 และ จนท.ฝ่ายปกครอง อ.ทองผาภูมิ พบรถยนต์ผิดสังเกตและมีพิรุธ จำนวน 2 คัน จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถ และดำเนินการควบคุมรถดังกล่าวไว้
เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีเทา หมายเลขทะเบียน บว 9067 สุพรรณบุรี มี นายวิษณุ จันทร์มา อายุ 33 ปี ที่อยู่ 116/21 หมู่ที่ 1 ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เป็นคนขับ พบยาไอซ์ จำนวน 126 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในกระบะท้าย ซึ่งดัดแปลงเจาะเป็นช่องซุกซ่อนยาเสพติด
ส่วนผู้ต้องหาอีกหนึ่งราย คือ นายณรงค์ สุขสาระพันธ์ อายุ 36 ปี ที่อยู่ 90/3 หมู่ที่ 1 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ขับรถ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ สตาร์ด้า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บท 9484 กาญจนบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นภายในรถ พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่บริเวณที่วางเท้าโดยดัดแปลงเจาะเป็นช่องเก็บของ จำนวน 7 มัด ประมาณ 14,000 เม็ด
สอบถามนายณรงค์รับสารภาพว่าซื้อยาบ้ามาจาก นายหนึ่ง ไม่ทราบชื่อสกุลจริง เป็นชาวพม่า อายุประมาณ 30 ปี ในราคา มัดละ 50,000 บาท รวม 350,000 บาท โดยจ่ายเงินสดไปแล้ว จำนวน 175,000 บาท
ขณะที่ นายวิษณุ ให้การว่า มีรถยนต์ขับนำตนอีก 2 คัน เจ้าหน้าที่จึงได้รีบแจ้งให้ จุดตรวจที่ อ.ไทรโยค ดำเนินการสกัดกั้นรถยนต์คันดังกล่าว พบรถยนต์ยี่ห้อ นิสสัน นาวาร่า สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ฒฆ 922 กทม. และรถยนต์โตโยต้า คัมรี หมายเลขทะเบียน ฌฉ 7554 กทม. ได้ผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายทวี ตาสว่าง อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 หมู่ 10 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี 2.นายประดิษฐ์ ชวนชื่น อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/4 หมู่ 2 ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรีและ 3. นายนพรัตน์ แซ่กี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 หมู่ 2 ต.หนองกร่าง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี
จากการตรวจค้นรถยนต์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 211 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่บริเวณท้ายกระบะยี่ห้อนิสสัน ซึ่งดัดแปลงเจาะเป็นช่องเก็บของ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย
และจากการตรวจค้นตัว นายประดิษฐ์ พบเงินสด จำนวน 200,000 บาท ส่วน นายนพรัตน์ พบเงินสดจำนวน 139,000 บาท และ นายทวี ตาสว่าง พบสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง รวมทั้งแหวนทอง
สำหรับการจับกุมและขยายผลดังกล่าว ได้ของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 14,000 เม็ด มูลค่า 350,000 บาท และยาไอซ์รวม 337 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ายาไอซ์ภายในประเทศเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 340 ล้านบาท แต่หากสามารถหลุดลอดออกไปนอกประเทศ จะมีมูลค่าเกือบ 2,000 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี