‘บิ๊กตู่’สั่งเฝ้า56จุดเสี่ยง
ห้ามน้ำทะลักท่วมกรุง
กรมอุตุนิยมวิทยาเผยสัปดาห์สุดท้ายเดือนมิถุนายน 2562 ภาคตะวันออก - ภาคใต้ปริมาณฝนเพิ่มขึ้น ขณะที่นายกฯ สั่งทุกหน่วยงานเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร (กทม.) สั่งเฝ้า 56 จุดเสี่ยงเพื่อแก้ไขปัญหาได้ทันที
วันที่ 22 มิ.ย. 2562 กรมอุตุนิยมวิทยา เผยแพร่ประกาศพยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 22 - 28 มิ.ย. 2562 โดยลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 22-23 มิ.ย. 2562 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนใต้ คาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณอ่าวไทย
ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ และภาคตะวันออกยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง ส่วนในช่วงวันที่ 24-28 มิ.ย. 2562 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง
จึงคาดหมายว่า ในช่วงวันที่ 22-23 มิ.ย. 2562 ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกและภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 24-28 มิ.ย. 2562 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
ดังนั้นข้อควรระวังสำหรับประชาชนคือ ในช่วงวันที่ 24-28 มิ.ย. 2562 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก ซึ่งอาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันไว้ด้วย นอกจากนี้สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่ง
ในวันเดียวกัน พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในเขต กทม. ว่า จะมีการติดตั้งสถานีสูบน้ำชั่วคราวและวางแผนระบายน้ำในพื้นที่เสี่ยง 14 จุด และพื้นที่เฝ้าระวัง 56 จุด เพิ่มความถี่การเก็บขยะและสิ่งปฏิกูลในแหล่งน้ำ รวมทั้งบูรณาการระหว่างหน่วยงานเพื่อเร่งระบายน้ำบริเวณพื้นที่รอยต่อของ กทม.ให้ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาหรือทะเลโดยตรง และจัดเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าประจำสถานีสูบน้ำสำคัญ เพื่อแก้ไขปัญหาทันทีหากระบบขัดข้อง
นอกจากนี้ กรมชลประทาน กรมทางหลวง และกรมเจ้าท่า ได้เสนอแผนงานแก้ไขและปรับปรุงระบบระบายน้ำที่สามารถทำได้ทันที ใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือนรวม 32 โครงการ ครอบคลุมพื้นที่ กทม.และรอยต่อ และขุดลอกแม่น้ำท่าจีนตอนบนที่ จ.สุพรรณบุรี ส่วน กทม.จะต้องเร่งสำรวจและจัดทำบัญชีสิ่งกีดขวางทางน้ำพร้อมแผนปรับปรุงให้แล้วเสร็จในปีนี้ ทั้งนี้นายกฯ กำชับให้ทุกหน่วยเร่งดำเนินการตามแผนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และจะต้องทำงานหนักขึ้นในช่วงที่จะมีฝนตกหนัก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด
“นายกฯ ยังรับทราบด้วยว่า กทม.ได้ปรับปรุงคลองลาดพร้าว ซึ่งเป็น 1 ในคลองสายหลัก 9 แห่งแล้วเสร็จ ก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำแล้วเสร็จ 4 แห่ง จากแผน 9 แห่ง ทำแก้มลิงแล้วเสร็จ 31 แห่ง อยู่ระหว่างดำเนินการเพิ่มอีก 7 แห่ง และภายในเดือน ก.ค.นี้ จะขุดลอกคูคลอง 80 สาย ความยาว 118 กม. ขณะที่กรมทางหลวงได้ขยายท่อ ดันท่อลอดถนน และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำริม ถ.วิภาวดีรังสิตทั้ง 2 ฝั่ง และเตรียมโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบนถนนสาย 304 (แจ้งวัฒนะ) ภายในปีนี้ด้วย” พล.ท.วีรชน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี