กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเจ้าภาพจัดเลือกตั้งนายกสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทย คนแรกของประเทศไทย มีตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนแปลงใหญ่ทั่วประเทศ เข้าร่วม โดยนายฉัตรกมล มุ่งพยาบาล จังหวัดชุมพร ได้รับการแต่งตั้ง เป็นนายกสมาพันธ์คนแรก พร้อมเปิดเผยวิสัยทัศน์ สร้างความเข้มแข็ง มั่นคงและประสานประโยชน์ความร่วมมือเพื่อชาวสวนทุเรียนให้เกิดความยั่งยืนในอาชีพ
นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ตระหนักถึงแนวโน้มขยายพื้นที่ปลูกทุเรียนทั้งประเทศ ในรอบ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2557 - 2561 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 655,505 ไร่ เป็น 839,725 ไร่ โดยมีเกษตรกรที่มีความสามารถโดดเด่นเป็นเกษตรกรต้นแบบที่ดี (best practice) พร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเกษตรกรที่ปลูกทุเรียน ซึ่งกระจัดกระจายหลายภาคทั่วประเทศ กรมจึงเล็งเห็นความสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งองค์กรเกษตรกรชาวสวนทุเรียนไทย ตลอดจนสร้างมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ เพื่อให้ทุเรียนเป็นต้นแบบพัฒนาบริหารจัดการผลไม้ด้วยความสามารถขององค์กรเกษตรกรเอง มีภาครัฐสนับสนุนอย่างไรก็ดี กรมเป็นเพียงจุดเริ่มต้นให้ชาวสวนตั้งสมาพันธ์ เพื่อกำหนดแนวทางบริหารจัดการ ระเบียบ กติกากันเอง โดยกรมสนับสนับสนุนด้านวิชาการ ขณะนี้ได้เลือกตั้งและได้นายกสมาพันธ์ คนแรกของประเทศไทยแล้ว ก็คาดหวังว่า การจัดตั้งสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยครั้งนี้ จะทำให้เกิดการผลิตทุเรียนคุณภาพสร้างมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ถือเป็นการพัฒนาเกษตรกรรมของประเทศ ด้วยวิถีทางแห่งนวัตกรรม เพิ่มมูลค่าและมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนตามนโยบายเกษตร 4.0
นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร
ด้าน นายฉัตรกมล มุ่งพยาบาล นายกสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยคนแรกของประเทศ เปิดเผยว่า การจัดตั้งสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทย ถือเป็นมิติใหม่ของวงการทุเรียนของที่มีการขับเคลื่อนโดยเกษตรกรทุกภาคส่วน ภายใต้บริบทการขับเคลื่อนต่อยอดจากการส่งเสริมในระบบเกษตรกรแปลงใหญ่ ของกรมส่งเสริมการเกษตร เนื่องจากวันนี้ ทุเรียนถือว่าเป็นพืชที่เป็นโอกาสของพี่น้องเกษตรกรที่มีมูลค่าในตัวสินค้าสูง วันนี้เกษตรกรชาวสวนทุเรียนทั่วประเทศกว่า 20 จังหวัด มีส่วนร่วมเลือกตัวแทนเข้ามาบริหารจัดการในรูปแบบขององค์กรที่เป็นรูปธรรมในนาม สมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทย ซึ่งจะมีคณะทำงานที่มาจากผู้ที่มีอาชีพทำสวนทุเรียนจริงๆ จากทุกภูมิภาคร่วมอีก 18 คน
ดังนั้น ในกระบวนการขับเคลื่อนทั้งหมด จะเป็นการกระจายทุกความการพัฒนาไปให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ จะไม่มีคำว่าทุเรียนภาคใต้ ทุเรียนภาคกลาง นนทบุรี จันทบุรี ระยอง ตราด หรือแม้แต่ ศรีสะเกษแต่จะขับเคลื่อนในลักษณะองค์รวมคือ ทุเรียนไทย วางแนวทางขับเคลื่อนเพิ่มศักยภาพพี่น้องเกษตรกรที่อยู่ในแปลงใหญ่ให้มีประสิทธิภาพอย่างเต็มศักยภาพ โดยสมาพันธ์จะขับเคลื่อนเพิ่มเติมในส่วนที่ขาด เพื่อให้สมาชิกทั้งที่อยู่ในระบบเกษตรกรแปลงใหญ่และเกษตรกรชาวสวนทุเรียนทั่วไปมีความมั่นคงในอาชีพ ภายใต้วิธีคิดเดียวกันคือ “ต้องมีจรรยาบรรณวิชาชีพ” และจะทำอย่างไรในฐานะองค์กรที่เป็นผู้นำทางอาชีพเรื่องของทุเรียน แล้วตอบโจทย์ในเรื่องของมาตรฐานสินค้าให้ได้มาตรฐาน GAP และการบริหารจัดการเรื่องของต้นทุน เพราะหากเราบริหารต้นทุนการผลิตแล้วยึดโยงกับคุณภาพได้ ส่วนตัวมั่นใจว่าสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยจะเป็นองค์กรแรก และเป็นองค์เดียวที่พี่น้องเกษตรกรชาวสวนทุเรียนสามารถพึ่งพาได้
นายฉัตรกมล มุ่งพยาบาล นายกสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยคนแรกของประเทศ
นายฉัตรกมล กล่าวอีกว่า สิ่งแรกที่สมาพันธ์ฯ จะต้องดำเนินการนับจากนี้ คือ การบริหารจัดการไปสู่ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ภายใต้กรอบของคณะกรรมการที่มีความรู้ความสามารถจากทุกภาค หรือแม้กระทั่งที่เป็นพื้นที่ปลูกทุเรียนใหม่อื่นๆ หวังว่าเกษตรกรต้องพัฒนาตัวเอง และเป็นที่ยอมรับของประเทศคู่ค้าภายใต้มาตรฐานเดียวกัน เพราะในอนาคต เราอาจได้รับผลกระทบจากความผันแปรในเรื่องราคา การตั้งสมาพันธ์ จึงจะช่วยตอบโจทย์ทั้งเรื่องวิธีคิดของเกษตรกรทั้งที่อยู่ในหรือนอกแปลงใหญ่ที่ต้องมีวิธีคิดเหมือนกันเรื่องการผลิตทุเรียนให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของคู่ค้า ถ้าคู่ค้ายอมรับในตัวสินค้า เราก็ยังคงเป็นเจ้าของตลาดทุเรียนได้ อีกทั้งเราต้องวิเคราะห์พื้นฐานของการผลิตทุเรียน ทั้งด้านเทคโนโลยีการผลิต และการกระจายตัวสินค้า และสุดท้ายที่เกษตรกรจะอยู่ได้คือ บริหารต้นทุนการผลิต อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ได้รับการไว้วางใจจากพี่น้องชาวสวนทุเรียนให้ทำหน้าที่นายกสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยเป็นคนแรก ก็จะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ภายใต้วิสัยทัศน์ ”สร้างความเข้มแข็ง มั่นคง และประสานประโยชน์ความร่วมมือ เพื่อชาวสวนทุเรียนให้เกิดความยั่งยืนในอาชีพ” และมุ่งหวังว่าสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทย จะเข้าไปทำหน้าที่เพื่อพี่น้องเกษตรกรชาวสวนทุเรียนให้เกิดความยั่งยืนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี