26 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน บก.ปส.3 บช.ปส.ได้ควบคุมตัว นายฮวง เกาเชียง อายุ 24 ปี ชาวจีน , นายสุบรรณ มหาชานนท์ อายุ 57 ปี อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 50 พรรคเสรีรวมไทย , นายจ้อยว่า แซ่โท้ง อายุ 62 ปี และนายโชว ชิงชู่ อายุ 44 ปี ชาวจีน ผู้ต้องหาคดียาเสพติด มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 18 - 29 มิ.ย.ในความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ได้รับจ้างขนสินค้าให้คนจีนจากประเทศไทยส่งไปประเทศฟิลิปปินส์ แต่ไม่สามารถส่งขึ้นเรือเพื่อส่งออกต่างประเทศได้ จึงได้ขนถ่ายสินค้าเปลี่ยนตู้คอนเทนเนอร์ใหม่ เพื่อที่จะจองเที่ยวเรือใหม่ ในขณะที่เคลื่อนย้ายสินค้าปรากฏว่า ได้ทำกล่องสินค้าตก และมีสินค้าหลุดออกมาจากกล่อง พบว่าสินค้าดังกล่าวเป็นถุงสีทอง ลักษณะไม่ตรงกับสินค้าที่แจ้งไว้ว่าเป็นรองเท้า ซึ่งสินค้าดังกล่าวมีลักษณะคล้ายยาเสพติด เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบสินค้า
เบื้องต้นพบว่าเป็นยาไอซ์ ปะปนมากับสินค้าประเภทรองเท้า ประมาณ 34 กล่อง น้ำหนักประมาณ 985 กก.เจ้าหน้าที่จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้ทำการตรวจยึดยาเสพติดดังกล่าว และขออนุมัติครอบครองเพื่อขยายผลจับกุมผู้กระทำความผิดเครือข่าย จึงวางแผนสืบสวนจับกุม โดยให้สายลับติดต่อเจ้าของสินค้าและยาเสพติด โดยให้เจ้าหน้าที่เข้าไปอำพรางร่วมพูดคุยกับเจ้าของสินค้า ซึ่งสายลับได้แจ้งเจ้าของโกดังสินค้าให้ติดต่อเจ้าของสินค้าชาวจีนมารับสินค้าคืน เจ้าของโกดังได้แจ้งกับสายลับว่าเจ้าของสินค้าจะเดินทางจากประเทศจีนมาประเทศไทย ในวันที่ 14 มิ.ย.
ต่อมาวันที่ 14 มิ.ย.ได้รับแจ้งจากสายลับว่า ได้นัดเจรจาเรื่องการย้ายสินค้าออกจากโกดัง กับ นายสุบรรณ มหาชนนท์ , นายจ้อยว่า เเซ่โท้ง และชายชาวจีนเจ้าของสินค้า ที่โรงแรมดิเอ็มเมอรัล ย่านรัชดา ในเวลาประมาณ 20.00 น.โดยเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังรอบโรงแรม จนกระทั่งเวลา 20.15 น.นายสุบรรณได้ขับรถยนต์เข้ามาจอดบริเวณลานจอดรถของโรงแรม และมีนายจ้อยว่า นั่งรถมาด้วย จากนั้นทั้งสองคนได้เดินเข้าไปพบกับสายลับ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อำพรางมาในร้านอาหารภายในโรงแรม ต่อมานายจ้อยว่า ที่ทำหน้าที่ล่าม ได้เดินออกไปพบกับชายชาวจีนที่ด้านหน้าโรงแรม มีการเจรจาพูดคุยกันจากนั้นนายจ้อยว่า ได้เดินทางกลับมายังร้านอาหารที่นายสุบรรณ และสายลับนั่งคอยอยู่ และมีการพูดคุยกันเรื่องย้ายสินค้าออกจากโกดัง ซึ่งชายชาวจีน นายสุวรรณ และนายจ้อยว่า ตกลงรับปากว่าจะดำเนินการรับสินค้าคืนในวันที่ 15 มิ.ย.จากนั้นได้แยกย้ายกันกลับ
ต่อมาช่วงเวลา 15.50 น.ของวันที่ 15 มิ.ย.นายจ้อยว่า เเละนายสุบรรณ ได้ขับรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของห้างฮาเบอร์มอลล์ อ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ก่อนที่จะไปสมทบกับชาวจีน และมุ่งไปที่รับฝากตู้คอนเทรนเนอร์ เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนจึงได้สะกดรอยตามไปที่ลานรับฝากตู้คอนเทนเนอร์ บริษัท ชิปทูยู ดอทคอม ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และเมื่อได้มีการเปิดตู้สินค้าเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น และพบยาเสพติดของกลางจำนวนมากบรรจุอยู่ในกล่อง จึงจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 3 ว่า "ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต" ซึ่งผู้ต้องหาที่ 1 - 3 ให้การปฏิเสธ และไม่ทราบว่าสินค้าเป็นยาเสพติด
โดยชาวจีนคนดังกล่าว ซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า นายหวง เกาเซียง ให้การกับเจ้าหน้าที่สืบสวนว่า สินค้าดังกล่าวเป็นของตนเอง และนายโชว ชิงซู่ ผู้ต้องหาที่ 4 ซึ่งตอนนี้พักอยู่ที่อาคารชุดย่านรัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปควบคุมตัว ซึ่งจากการตรวจสอบห้องพักไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย โดยนายโชว ให้การยอมรับว่ารู้จักกับนายหวง และได้เดินทางเข้ามาประเทศไทยด้วยกัน ส่วนเรื่องยาเสพติดที่ถูกจับกลุ่มจำนวนดังกล่าวเป็นของผู้ใดตนไม่ทราบ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหานายโชว ฐานร่วมมียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1 - 3 ที่บริเวณลานรับฝากตู้คอนเทนเนอร์ บริษัท ชิปทูยู ดอทคอม ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และผู้ต้องหาที่ 4 ได้ที่ห้องพักอาคารชุดย่านรัชดาภิเษก
สำหรับของกลางที่ยึดได้มีดังนี้
1.ยาไอซ์บรรจุในถุงชาสีทองตราจักรพรรดิ ทำเป็นแพ็คๆ ละ 15 ถุง จำนวน 2 แพ็ค รวม 30 ถุง น้ำหนักประมาณถุงละ 1 กิโลกรัม บรรจุในถุงพลาสติกใส ห่อด้วยกระสอบอีกชั้นหนึ่ง อยู่ในกล่องกระดาษสีขาว มีอักษรเขียนภาษาไทย ว่า "ตะเกียบอนามัย" น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม จำนวน 31 กล่อง รวมของกลางจำนวน 930 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 330 กิโลกรัม
2.ยาไอซ์บรรจุในถุงชาสีทองตราจักรพรรดิ ทำเป็นแพ็คๆ ละ 10 ถุง จำนวน 2 แพ็ค รวม 20 ถุง น้ำหนักประมาณถุงละ 1 กิโลกรัม บรรจุในถุงพลาสติกใส ห่อด้วยกระสอบอีกชั้นหนึ่ง อยู่ในกล่องกระดาษสีขาว มีอักษรเขียนด้วยภาษาไทย ว่า "ตะเกียบอนามัย" น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม จำนวน 2 กล่อง รวมของกลางจำนวน 40 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 40 กิโลกรัม
3.ยาไอซ์บรรจุในถุงชาสีทองตราจักรพรรดิจำนวนหนึ่งแพค มียาไอซ์ จำนวน 15 ถุง น้ำหนักประมาณถุงละ 1 กิโลกรัม บรรจุถุงพลาสติกใสห่อด้วยกระสอบอีกชั้น อยู่ในของกระดาษสีขาว มีอักษรเขียนว่า "ตะเกียบอนามัย" จำนวนหนึ่งกล่อง รวมของกลางจำนวน 15 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 15 กิโลกรัม รวมยาไอซ์ของกลางทั้งหมด จำนวน 985 ก้อน น้ำหนักรวมประมาณ 985 กก.ราคาประมาณ 1,970,000,000 บาท โทรศัพท์มือถือนับ 10 เครื่อง พร้อมตู้คอนเทนเนอร์สีส้มจำนวนหนึ่งตู้
ในชั้นจับกลุ่มและชี้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสี่ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งสี่ถูกควบคุมตัวจะครบกำหนด 48 ชั่วโมง ในวันที่ 19 มิ.ย.แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นยังต้องสอบสวนพยานอีก 7 ปาก , รอผลการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดของกลางจากสำนักงาน ปปส. , รอผลตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้ต้องหาทั้ง 4 จากกองทะเบียนประวัติอาชญกรรม และรอผลการตรวจสอบรายการใช้โทรศัพท์ของผู้ต้องหาทั้ง 4 จากบริษัทผู้ให้บริการรวมทั้ง
ขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากเป็นขบวนการยาเสพติดรายใหญ่ มีการทำธุรกรรมทางการเงินในคดีนี้ และคดีมีอัตตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยตัวเกรงว่าจะหลบหนี
ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติของนายจ้อยว่า ผู้ต้องหาที่ 3 ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 2 ล้านบาท ขอปล่อยชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว กรณีเป็นเรื่องร้ายแรง มีลักษณะเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกัน เกรงว่าหากปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาจะหลบหนี ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง
สำหรับผู้ต้องหาอื่นๆ อีก 3 คน ไม่ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ไปคุมขังไว้ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี