วันที่ 2 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “ธิดารัตน์ สอนปัญญา” ได้มีการโพสต์ข้อความเตือนภัยผู้ใช้รถว่า “ระวังด้วยค่ะ วันนี้กิ๊กซวยไปหน่อย ดันเป็นรถกิ๊ก ส่วนรถอีกคันที่โดนเหมือนกันหน้าอีซูซุ ซึ่งเวลาไล่เลี่ยกัน (กิ๊กน่าจะโดนคันแรก) ขออย่าปล่อยผ่าน กิ๊กเองจะเร่งหาตัวคนทำผิดช่วยตำรวจอีกแรง” พร้อมภาพรถเก๋งที่ถูกคนร้ายปาหินใส่แตกเสียหายเกือบทั้งบานด้วย
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ไปสอบถามข้อมูลจากเจ้าของโพสต์ดังกล่าว คือน.ส.ธิดารัตน์ สอนปัญญา หรือกิ๊ก อายุ 28 ปี ปัจจุบันเป็นผู้จัดการฝ่ายขายโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงค่ำของวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากที่ขับรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีบรอนด์เทา ทะเบียน กต 8269 บุรีรัมย์ ไปจอดไว้ที่ริมถนนฝั่งตรงข้ามกับร้านฟิตเนสแห่งหนึ่งในซอยแสนสุข ต.ในเมือง อ.เมืองบุรีรัมย์ แล้วเข้าไปออกกำลังกายตามปกติเหมือนทุกวัน
กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. ได้เดินออกจากร้านฟิตเนสเพื่อจะขับรถกลับบ้าน ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นกระจกหน้ารถแตกเสียหายเกือบทั้งบาน และเมื่อตรวจสอบรอบรถก็พบก้อนหินขนาดใหญ่ตกอยู่ จึงคาดว่าน่าจะถูกทุบหรือปาหินใส่ จึงได้ไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดร้านซักรีดที่อยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ปรากฏว่าช่วงเวลาประมาณ 19.46 น. วันที่ 30 มิ.ย. ได้มีรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยคันหนึ่งไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน ซึ่งตอนแรกขับมาเลนซ้ายตามปกติแล้วจู่ๆ ก็เบี่ยงไปเลนขวาใกล้กับจุดที่รถจอดอยู่ ซึ่งขณะนั้นก็มีร้านขายของชำฝั่งตรงข้ามได้ยินเสียงดังคล้ายกระจกแตก แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเสียงที่คนร้ายใช้ก้อนหินปาใส่กระจกรถ ซึ่งเบื้องต้นก็ได้นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
น.ส.ธิดารัตน์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยมีเรื่องกับใคร จึงไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไรถึงได้ถูกปาหินใส่กระจกรถจนแตกเสียหาย แต่จากดูแล้วคาดว่าน่าจะเป็นแก๊งวัยรุ่นที่คึกคะนอง หรือพวกโรคจิตที่ชอบปาของใส่รถคนอื่น ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลที่เจ้าหน้าที่บอกกับตนเองขณะไปแจ้งความว่า เคสของตนไม่ใช่เหตุแรกที่เกิด เพราะในวันเดียวกันมีรถถูกปาหินใส่ถึง 3 ราย และก่อนหน้านี้ก็มีคนเข้าไปแจ้งความว่าถูกปากินใส่รถ ทั้งรถเก๋ง และรถกระบะ ที่จอดไว้ตามริมถนนหรือแม้กระทั่งหน้าบ้านของตัวเองแล้วเกือบ 10 ราย
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังเร่งแกะรอยภาพวงจรปิด เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นภัยต่อสังคม ส่วนรถเก๋งของตนเองที่ถูกปากระจกด้านหน้าแตกเสียหาย เบื้องต้นนำไปให้ศูนย์ตีราคาเพื่อซ่อมกว่า 10,000 บาท ซึ่งนอกจากจะเสียเงินค่าซ่อมรถเองแล้ว ยังได้รับความเดือดร้อนไม่มีรถขับไปทำงาน ต้องอาศัยรถคนอื่นช่วยรับส่ง จึงอยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งติดตามตัวมือปาหินมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วเพราะหากปล่อยไว้อาจจะไปสร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่คนอื่นอีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี