เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบยิง นายยูโซะ ยะลา หรืออุสตาสซอและห์ ฝ่ายปกตรองโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลาม หรือปอเนาะพ่อมิ่ง เป็นเหตุให้อุสตาสซอและห์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ว่า ยังคงมีความตึงเครียด โดยเฉพาะเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (2 กรกฎาคม 2562) ในระหว่างที่หน่วยกำลังได้นำกำลังเชิญตัว นายมุกตาร์ วาเลาะ ซึ่งพักอาศัยและสอนศาสนาในโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลาม หรือปอเนาะพ่อมิ่ง ม.3 ต.พ่อมิ่ง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี จนเกิดความแตกตื่นในระหว่างนักเรียนที่กำลังเรียนตามปกติภายในโรงเรียน หลังจากทราบว่ามีเจ้าหน้าที่กำลังเชิญอุสตาสดังกล่าว จนเกิดภาวะตึงเครียดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินอย่างรีบเร่งเพื่อนำอุสตาสดังกล่าวออกจากพื้นที่โรงเรียนไปยังหน่วยที่หน่วยซักถาม ฉก.ทพ.43 ทั้งนี้ เพื่อขอความร่วมมือในการให้ข้อมูลเพื่อคลี่คลายคดีกรณีคนร้ายลอบยิงอุสตาสซอและห์จนได้รับบาดเจ็บในห้วงที่ผ่านมา
ด้าน พ.ต.อ.เสรี สมไพบูลย์ ผกก.สืบสวนภูธรจังหวัดปัตตานี รักษาการ ผกก.สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี เหตุยิง นายยูโซะ ยะลา ได้รับบาดเจ็บ บริเวณโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลาม หรือปอเนาะพ่อมิ่ง ว่า เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนและสอบสวนเบื้องต้นไปในแนวทางเรื่องขัดแย้งส่วนตัว เพราะจากแวดล้อมแล้วทางพนักงานสอบสวนมีความเชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องขัดแย้ง เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในบริเวณปอเนาะซึ่งยากที่คนภายนอกจะเข้าออกได้ เพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว ในเชิงสืบสวนทางเจ้าหน้าที่ต้องได้รับความร่วมมืออย่างแท้จริง แต่เนื่องจากผู้เสียหายยังไม่สะดวกในการให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่จึงมีความจำเป็นที่จะต้องความร่วมมือจากบุคคลที่ใกล้ชิดกับผู้เสียหายมากที่สุด เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีที่ประชาชนในพื้นที่ให้ความสำคัญ ทางเจ้าหน้าที่ต้องรีบเร่งสร้างความกระจ่างเพื่อคลี่คลายคดีนี้อย่างเร็วที่สุด
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ คือ นายเพาซี อูมา น้องเขย นายยูโซ๊ะ ยะลา , นายมุกตาร์ วาเลาะ เพื่อที่จะสามารถขยายผลจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ
จากกรณีเหตุตึงเครียดที่เกิดขึ้นในระหว่างเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงในพื้นที่ นำกำลังร่วมของ จ.ปัตตานี หลังได้รับคำสั่งจาก ฉก.ปัตตานี ให้เข้าไปเชิญตัว นายมุกตาร์ วาเลาะ ซึ่งพักอาศัยและสอนศาสนาในโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลาม หรือปอเนาะพ่อมิ่ง ม.3 ต.พ่อมิ่ง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังร่วมทุกฝ่าย จาก ฉก.ทพ.43 บก.ควบคุม 4 , กก.5 บก.ส.1 , สมค.ศปก.ตร.สน. , ขกท พล ร.15 ร่วมกับ ฉก.ทพ.42 , สภ.ปะนาเระ ดำเนินการเชิญตัวตามสั่งการ ที่บ้านพักภายในโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลาม ม.3 ต.พ่อมิ่ง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ตามคำสั่ง
"ผลการปฏิบัติ หน่วยได้เชิญตัว นายมุกตาร์ วาเลาะ ได้ที่บ้านพักภายในโรงเรียน และในระหว่างพูดคุยกับนายมุกตาร์ เพื่อแจ้งว่าจะเชิญไปพูดคุย และขอโทรศัพท์มาตรวจสอบ นายมุกตาร์ ได้ร้องตะโกน ทำให้นักเรียนในโรงเรียนแตกตื่นเข้าใจผิด จึงทำให้นักเรียนพยายามมาล้อมเพื่อปกป้อง เจ้าหน้าที่จึงมีความจำเป็นต้องรีบนำตัวออกจากโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลามปอเนาะพ่อมิ่ง อย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง และได้ส่งตัวให้ ฉก.ทพ.42 ขณะนี้ถูกควบคุมตัวตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก ที่หน่วยซักถาม ฉก.ทพ.43 ตามสั่งการของผู้บังคับบัญชา
ด้าน พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 (มทภ.4) ได้มีข้อสั่งการให้หน่วย ฉก.ประจำพื้นที่ และหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ดำเนินการควบคุมพื้นที่ในกรณีเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุกับอุสตาส แจ้งให้เตือนครูไทยพุทธ พระสงฆ์ และพี่น้องไทยพุทธ และหน่วยที่รับผิดชอบงานเชิงรับงาน รักษาความปลอดภัย ปฏิบัติการควบคุมพื้นที่ตามแผนอย่างเข้มงวด จัดให้มีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุในการ รปภ.โรงเรียน ครู และพระ และให้หน่วยในพื้นที่เร่งทำความจริงให้ปรากฎด้วยการหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษ รวมทั้งสร้างการรับรู้และสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านและโรงเรียนในและนอกพื้นที่ ในเหตุการณ์ที่โรงเรียนวัฒนธรรมอิสลาม หรือปอเนาะพ่อมิ่ง โดยชี้ให้เห็นถึงผู้ที่สามารถเข้าออกโรงเรียนได้โดยเสรี ซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ หรือคนไทยพุทธ เพราะในปัจจุบันมีการบิดเบือนว่ากรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวแล้วข้างต้นเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและกลุ่มคนไทยพุทธเป็นผู้ก่อเหตุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี