น้ำผึ้งหยดเดียว!พ่อเหยื่อมือปืนโหดเผยชนวนรัวยิง14นัด บาดหมางแค่เรื่อง‘ตักแกง’
11 กรกฎาคม 2562 มีความคืบหน้าเหตุคนร้ายปืนโหดดักยิงนายธีระพล หมัดกะเส็ม อายุ 23 ปี ชาวบ้านหมู่ 10 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา หนุ่มโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำ ด้วยปืนขนาด 9 มม. จนร่างพรุนรวม 14 นัด (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : คนร้ายโหด! ซิ่งจยย.ประกบจ่อยิงหนุ่มโรงงาน14นัดซ้อน)
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.วันที่ 10 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ญาติของผู้ตายได้จัดละหมาด และจัดพิธีฝังศพของนายธีระพล ที่กุโบร์หรือสุสานบ้านปึก พื้นที่หมู่ 10 ต.นาทับ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักไม่มากนัก ท่ามกลางความอาลัยของพ่อแม่ และญาติพี่น้อง รวมทั้งเพื่อนฝูงที่มาร่วมพิธีกันนับร้อยคน
จากการสอบถามนายเสรี หมัดกะเส็ม อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นพ่อของผู้ตาย ทราบว่า ผู้ตายเป็นลูกคนโตจากทั้งหมด 3 คนพี่น้อง และเพิ่งปลดประจำการจากทหารเกณฑ์ และมาสมัครเป็นคนงานที่บริษัทแปรรูปสัตว์น้ำได้ยังไม่ถึงเดือนเท่านั้น ก่อนที่จะเกิดเหตุสลดใจขึ้น
สำหรับสาเหตุของความขัดแย้งนั้นเกิดขึ้นมาจากเรื่องเล็กๆ แต่กลับบานปลายเป็นเรื่องใหญ่โตที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย โดยเริ่มต้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทางฝั่งของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นเครือญาติเดียวกัน ได้จัดงานทำบุญของอิสลามขึ้นที่บ้านพักที่อยู่ห่างกันไม่กี่ร้อยเมตร จากนั้นทางลูกพี่ลูกน้องของผู้ก่อเหตุได้โทร.มาหา นายธีระพล ลูกชายของตน และชวนให้ไปกินข้าวที่บ้าน แต่ลูกชายบอกไปว่าไม่ว่าง เพราะตอนเที่ยงต้องไปส่งแม่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และลูกชายได้ขอให้เอามือถือไปส่งให้นายวิรัตน์ จันอิ อายุ 32 ปี ที่สนิทกัน เพื่อจะขอคุยด้วย
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า แทนที่ปลายทางจะมีการส่งมือถือไปให้นายวิรัตน์ กลับมีการส่งมือถือไปให้นายวิโรจน์ จันอิ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของนายวิรัตน์ พูดสายแทน และทางลูกชายของตนได้บอกไปว่า วันนี้ไม่ว่างเข้าไปกินข้าวที่บ้าน ขอให้ช่วยตักแกงเอาไว้ให้ด้วย แต่แทนที่นายวิโรจน์ จะพูดจาดีๆตามประสาญาติพี่น้องกัน แต่กลับพูดจาด้วยถ้อยคำที่ว่า “ให้มาตักเอาเอง รำคาญ”
หลังจากนั้นในช่วงบ่ายโมงวันเดียวกันลูกชายจึงได้เข้าไปสอบถาม เพื่อเคลียร์เรื่องราวการพูดจาไม่เข้าหูที่เกิดขึ้น และมีปากเสียงทะเลาะวิวาทชกต่อยกันขึ้น แต่ได้มีการห้ามปราม ก่อนแยกย้ายกันไป และทางฝ่ายผู้ก่อเหตุยังได้อาฆาตแค้น และขู่บอกว่าให้ระวังตัวเอาไว้ให้ดี
พ่อของผู้ตาย เผยด้วยว่า หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นก็รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย และได้มีการเดินทางไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ที่ สภ.ควนมีด เมื่อช่วงวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
จากนั้นในช่วงประมาณเที่ยงครึ่งของวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังนั่งอยู่หน้าบ้านก็ได้สังเกตเห็นนายวิรัตน์ ขับรถจักรยานยนต์ตามลำพังมาวนเวียนอยู่หน้าบ้านตน 2 รอบ แล้วหายไป ก่อนที่ลูกชายของตน ซึ่งขับรถออกมาจากโรงงาน เพื่อมาทานข้าวเที่ยงที่บ้าน จะขับรถจักรยานยนต์ออกไปทำงานในช่วงบ่ายโมง และในระหว่างทางก่อนจะถึงโรงงานต้องจะต้องขับผ่านบ้านของนายวิรัตน์ และมีการยิงกันเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน
นายเสรี กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่อุกอาจ และรุนแรงเกินกว่าที่มนุษย์จะทำ เพราะยิงแบบบ้าคลั่งถึง 14 นัดซ้อน จนตนแทบจะจำสภาพศพ และใบหน้าของลูกชายไม่ได้เลย โดยทั้งตน คนในครอบครัว และญาติๆ ไม่มีใครรับกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ และไม่มีอะไรจะพูดกับผู้ก่อเหตุด้วย โดยขอให้ทางตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว และหากจับได้ก็สมควรให้ได้รับโทษขั้นสูงสุดถึงประหารชีวิต ซึ่งทางครอบครัวจะขอต่อสู้จนถึงที่สุด
ด้านความคืบหน้าทางด้านคดีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวน สภ.ควนมีด ได้เชิญญาติของผู้เสียชีวิตมาสอบสวนให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อทราบชนวนเหตุ และเป็นเบาะแสในการเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้าย
ส่วนพฤติกรรมในการก่อเหตุเบื้องต้นทราบว่าในช่วงที่ผู้ตายกำลังขับรถเข้าไปทำงานที่โรงงานในช่วงบ่ายนั้น ทางผู้ก่อเหตุ คือ นายวิรัตน์ ได้ดักรอผู้ตายอยู่หน้าบ้านพักของตัวเอง ซึ่งเป็นทางผ่านก่อนที่จะถึงโรงงาน ก่อนที่จะเดินออกมา แล้วชักอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ออกมายิงใส่ผู้ตายจำนวน 3 นัด และกระหน่ำยิงใส่ชุดใหญ่จนหมดแม็กอีก 11 นัด รวมทั้งหมด 14 นัด กระสุนโดนที่ศีรษะและลำตัวจนพรุน ก่อนขับรถหลบหนีไป โดยทางตำรวจชุดสืบสวนกำลังจัดกำลังออกสืบสวนไล่ล่าตัว และยังไม่ได้มีการเข้ามอบตัวแต่ออย่างใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี