กองทัพเรือ จัดพิธีบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่และเซ่นไหว้แม่ย่านางเรือพระราชพิธี ในพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในวันที่ 24 ต.ค.นี้
11 กรกฎาคม 2562 เวลา 07.00 น. พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ พิธีสงฆ์ และเซ่นไหว้แม่ย่านางเรือพระราชพิธี ในพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี ถนนอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร โดยมีเรือร่วมในพิธี ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช พระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เรือพระที่นั่งอเนกชาติภัชงค์ เรือเอกชัยเหินหาว เรือครุฑเตร็จไตรจักร เรือกระบี่ปราบเมืองมาร และเรืออสุรวายุภักษ์
จากนั้นเวลา 10.00 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปเป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ พิธีสงฆ์และเซ่นไหว้แม่ย่านางเรือพระราชพิธี ประกอบด้วย เรือเอกชัยหลาวทอง เรือกระบี่ราญรอนราพณ์ เรือรุฑเหินเห็จ เรือพาลีรั้งทวีป เรือสุครีพครองเมือง และเรืออสุรปักษี
ตามที่มีประกาศสำนักพระราชวัง เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2561 เรื่องทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งมีการเสด็จเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในช่วงการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ปลายปี พ.ศ.2562 นั้น ถือเป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เบื้องปลาย และการจัดขบวนพยุหยาราทางชลมารคในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้น รัฐบาลจึงได้มอบภารกิจในการจักขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ โดยให้กองทัพเรือเป็นหน่วยงานหลักในการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆตั้งแต่คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค มีผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานอนุกรรมการ และมีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นอนุกรรมการ เช่น กรมศิลปากร กรมเจ้าท่า กรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น
นอกจากนี้ นังมีหน่วยงานราชการในพระองค์เป็นที่ปรึกษาและอนุกรรมการ คอยให้คำปรึกษาและข้อแนะนำการปฏิบัติต่างๆแก่คณะอนุกรรมการ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สง่างาม และสมพระเกียรติ โดยการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ได้จัดเตรียมเรือพระราชพิธีรวมทั้งสิ้น จำนวน 52 ลำ โดยมีเรือที่สำคัญเป็นเรือพระที่นั่ง ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภัชงค์ นอกจากนี้ ยังมีเรือพระราชพิธีอื่นด้วย เช่น เรือรูปสัตว์ เรือดั้ง เรือแซง เป็นต้น
ทั้งนี้ในส่วนของ คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ได้ดำเนินการจัดเตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนเรือพระราชพิธีทั้ง 52 ลำนั้น นับตั้งแต่ปี พ.ศ 2555 มาจนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 7 ปี ที่ได้ว้างเว้นการจัดขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค โดยกองทัพเรือได้ร่วมกับกรมศิลปากร สำรวจสภาพเรือพระราชพิธีแล้ว มีสภาพชำรุดทรุดโทรมมาก มีรอยแตก ตัวเรือบิด ในการนี้ กองทัพเรือจึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตในการซ่อมบูรณะเรือพระราชพิธี โดยแบ่งเป็น2ส่วน ในส่วนของการซ่อมตัวเรืออยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือโดยกรมอู่ทหารเรือ ในส่วนการตกแต่งตัวเรืออยู่ในความรับผิดชอบของกรมศิลปากรโดยสำนักช่างสิบหมู่
ซึ่งปัจจุบัน ได้ดำเนินการซ่อมบูรณะเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เรือพระราชพิธีทั้ง 52 ลำ อยู่ในสภาพพร้อมเข้าร่วมพระราชพิธี และมีการประกอบพิธีบวงสรวงเรือพระที่นั่ง และเรือรูปสัตว์ จำนวน 14 ลำ ในวันนี้(11 ก.ค.)และในวันที่ 12-13 ก.ค. จะเชิญเรือพระที่นั่งและเรือรูปสัตว์ลงน้ำและลากจูงเรือเข้าเก็บที่อู่ทหารเรือธนบุรี เพื่อให้มีความพร้อมเพรียงของเรือในขบวนพระราชพิธีพยุหยาตราทางชลมารค ในวันที่ 24 ตุลาคม 2562 ทั้งนี้ เส้นทางเสด็จพระราชดำเนินเป็นเส้นทางเดียวกับที่เคยใช้มาตั้งแต่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร คือเส้นทางจากท่าวาสุกรี ถึงวัดอรุณราชวราราม
สำหรับการจัดรูปขบวนเรือพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพระยุหยาตราทางชลมารค ครั้งนี้ เป็นการจัดรูปขบวนตามรูปแบบโบราญประเพณีทุกประการ แบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย ดังนี้
ริ้วสายกลาง เป็นเรือสายสำคัญ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำ มี เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภัชงค์ นอกจากนี้มีเรืออีเหลือง เรือกลองนอก เรือแตงโม ซึ่งเป็นเรืองของผู้บังคับบัญชาการขบวนเรือ เรือกลองใน พร้อมด้วยเรือตำรวจนอก และเรือตำรวจใน
ริ้วสายใน ขนาบข้างสายเรือพระที่นั่ง มีเรือทองขวานฟ้าและเรือทองบ้าบิ่น เป็นเรือประตูหน้า เรือเสือทยานชล และเรือคำรณสินธุ์ เป็นเรือพิฆาต เรือรูปสัตว์ 8 ลำ และปิดท้ายสายในด้วยเรือเอกไชยเหินหาว และเรือเอกไชยหลาวทอง ซึ่งเป็นเรือคู่ชัก
ริ้วสายนอก ประกอบด้วยเรือดั้ง และเรือแซง สายละ 14 ลำ รวมทั้งสิ้น 52 ลำ
ด้าน พล.ร.ท.จงกล มีสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดเตรียมความพร้อมขบวนพระราชพิธี กล่าวว่า สำหรับ การเตรียมเรือพระราชพิธี และการซักซ้อมกำลังพลประจำในขบวนเรือพระราชพิธีฯ เข้าสู่การซ้อมจัดรูปขบวนเรือ ในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยฝึกซ้อมที่วัดราชาธิวาสวรวิหาร ท่าวาสุกรี แบ่งการฝึกซ้อมเป็นช่วงเช้าและช่วงบ่าย โดยได้เริ่มฝึกซ้อมไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม เป็นต้นมา และจะฝึกซ้อมต่อเนื่องไปจนถึงกลางเดือนสิงหาคม
จากนั้นจะเป็นการซ้อมย่อย ครั้งที่ 1 วันที่ 22 สิงหาคม โดยมีการใช้บทเห่เรือจริง และจะซ้อมย่อยต่อไปตามลำดับตามแผนการฝึกรวม 10 ครั้ง และจะซ้อมใหญ่เสมือนวันพระราชพิธี จำนวน 2 ครั้ง และซ้อมใหญ่ครั้งสุดท้ายในวันที่ 21 ตุลาคม โดยวันซ้อมใหญ่กำลังพลจะแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายจริง ประจำเรือแต่ละลำ เพื่อให้คุ้นเคยกับเครื่องแบบ ในการซ้อมย่อยจะมีการใช้เรือทั้งหมด 52 ลำ จากท่าวาสุกรี ไปยังวัดอรุณราชวราราม แต่ยังไม่ใช้เรือพระที่นั่ง ทางกองทัพเรือมีเรือสำหรับฝึกซ้อมแทนเรือพระที่นั่งอยู่แล้ว ทั้งนี้ เรือพระที่นั่งจะใช้สำหรับการซ้อมใหญ่ทั้ง 2 ครั้งเท่านั้น
พล.ร.ท.จงกล กล่าวต่อว่า สำหรับกำลังพล มาจากหน่วยต่างๆของกองทัพเรือจำนวน 2,200 นาย ทั้งนี้ เรือพระที่นั่งและเรือรูปสัตว์ จะอัญเชิญลงน้ำในวันที่ 12 กรกฎาคม เป็นต้นไป และเชิญไปไว้ยังกรมอู่ทหารเรือธนบุรี โดยมีลำดับการเชิญลงน้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องดูปริมาณน้ำ ขณะนี้กำลังพลประจำเรือพระราชพิธี มีความพร้อมเกือบ 100% ได้มีการฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่บนเขียง ซึ่งเป็นการฝึกซ้อมท่าต่างๆ จากนั้นนำเรือลงฝึกซ้อมในอ่างน้ำ ซ้อมการพายที่มีน้ำหนักมากขึ้น
พล.ร.ท.จงกล กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 2 ฟากฝั่งที่ริ้วขบวนผ่าน ได้ประสานทางกทม.ให้ขอความร่วมมือจัดแต่ง ประดับบ้านเรือนให้สวยงาม และในการเฝ้าชมพระบารมีขอให้ประชาชนแต่งกายสุภาพเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่จะมารับชมการฝึกซ้อมนั้น เจ้าหน้าที่จะประกาศสถานที่ให้ประชาชนได้ชมอีกครั้ง ประกอบด้วยสถานที่ทางราชการ โรงแรมที่พักริมเจ้าพระยา จะเชิญชวนให้จัดอัฒจรรย์ริมน้ำให้ได้ชื่นชมพระบารมี และจะมีการปิดการจราจรทางน้ำในบางช่วงเวลา จะมีการแจ้งให้ประชาชนทราบเป็นระยะ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี