‘สาวใจเด็ด’ถูกตุ๋นซื้อหมูยกคอก โดดเกาะกระบะสู้ วายร้าย‘โปรยเงิน’แหวกทางหนี
12 กรกฏาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.บุรีรัมย์ ว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฏาคม 2562 มีแก๊งมิจฉาชีพเป็นชาย 5 คน อายุ 25-30 ปี ขับกระบะแคปยี่ห้อวีโก้ สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้าไปทำทีขอซื้อหมูเป็นของนายธวัชชัย เมฆมนต์ อายุ 29 ปี และ น.ส.อรุณ สุพรรณ อายุ 25 ปี 2 สามีภรรยา ที่บ้านหนองไทรงาม ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
อย่างไรก็ตาม หลังจากตกลงราคาซื้อขายกันเรียบร้อยที่กิโลกรัมละ 70 บาท แก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวก็จับหมูในคอกใส่กรงที่เตรียมมาขึ้นชั่งทันที ชั่งเสร็จก็ยกกรงหมูขึ้นใส่หลังกระบะไว้ จากนั้นก็ขับกระบะออกมาบริเวณหน้าบ้านอ้างว่าจะไปพูดคุยราคาจ่ายเงินกันที่หน้าบ้าน สุดท้ายแก๊งมิจฉาชีพกลับบอกว่าหลังจากหักน้ำหนักกรงออกแล้วเหลือเฉลี่ยตัวละประมาณ 50 กิโลกรัม รวม 5 ตัว จะจ่ายให้ 17,000 บาท
2 สามีภรรยาเจ้าของหมูจึงทักท้วงไปว่าให้ราคาต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะที่ผ่านมาเลี้ยงหมูขายมาแล้ว 7 รุ่น ขายยกคอกครั้งละ 5 ตัวไม่เคยได้ราคาต่ำกว่า 30,000 บาท พอทักท้วงแก๊งมิจฉาชีพก็ทำทีแสดงอาการไม่พอใจ แล้วจู่ๆ ก็พากันเดินขึ้นรถไปหน้าตาเฉยโดยไม่ยอมจ่ายเงินสักบาท
น.ส.อรุณ เห็นท่าทีไม่ปกติจึงได้กระโดดเกาะโซ่ท้ายกระบะเพราะกลัวแก๊งมิจฉาชีพจะหนี พร้อมตะโกนบอกสามีให้มาช่วย แต่คนร้ายก็ไม่สนกลับขับรถออกไป แล้วหนึ่งในแก๊งคนร้ายที่นั่งท้ายกระบะก็ผลักมือ น.ส.อรุณ ออก จนตกรถแขนขาถลอกได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นสามีก็ขับรถจักรยานยนต์ไล่ตามรถกระบะคนร้ายไป พร้อมตะโกนให้ชาวบ้านช่วยสกัดรถไว้ กระทั่งมีชาวบ้านออกมายืนขวางรถ คนร้ายจึงตัดสินใจกำเงินหว่านออกไปนอกรถเพื่อเป็นค่าซื้อหมูให้ ชาวบ้านจึงช่วยกันเก็บมาให้เจ้าของหมู นับได้รวม 15,000 บาทเท่านั้น
น.ส.อรุณ เล่าว่า แก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวมีพิรุธตั้งแต่เอาหมูใส่กรงชั่งทีละ 2 ตัว ซึ่งตามปกติแล้วจะต้องชั่งทีละตัว เพื่อจะได้ทราบน้ำหนักหมูของแต่ละตัว และเมื่อชั่งหมูเสร็จก็ไม่ยอมจ่ายเงินที่หน้าคอกหมูเลย ยังขับรถออกมาใกล้ประตูหน้าบ้านบอกให้ไปคุยกันตรงนั้น กระทั่งบอกว่าจะจ่ายค่าหมูให้แค่ 17,000 บาท ตนจึงทักท้วงไปเพราะเลี้ยงหมูมา 3 เดือนกว่าน้ำหนักไม่น่าจะต่ำกว่าตัวละ 80-100 กิโลกรัม เพราะที่ผ่านมาก็ขายมาแล้วถึง 7 รุ่น ไม่เคยได้ต่ำกว่า 30,000 บาท จึงเชื่อว่าน่าจะถูกโกงน้ำหนักอย่างแน่นอน
นอกจากจะโกงน้ำหนักแล้วยังเจตนาจะไม่ยอมจ่ายเงินให้อีก พอคนร้ายขับรถออกไปตนจึงตัดสินใจกระโดดเกาะท้ายรถโดยไม่ทันคิดถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง คิดแค่ว่าจะต้องได้เงินค่าหมูเพราะมีรายได้จากการเลี้ยงหมูเพียงอย่างเดียว แต่เงินที่คนร้ายโยนให้ 15,000 บาทนั้น ก็ไม่พอค่าซื้อลูกหมูมาเลี้ยง และค่าอาหารด้วยซ้ำ ก็อยากจะให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวมาดำเนินคดีด้วย หากเป็นไปได้ก็อยากให้จ่ายเงินตามความเป็นจริงด้วย
ขณะที่ญาติและชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมาให้กำลังใจ 2 สามีภรรยา และต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพฤติกรรมของคนร้ายไม่ได้แค่ตั้งใจมาฉ้อโกง แต่เป็นการปล้นหมูเลยก็ว่าได้ หากเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ก็อยากจะถามว่าทำไมถึงต้องทำกันขนาดนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่จับกุมให้ได้โดยเร็ว และดำเนินคดีตามกฎหมายกับแก๊งดังกล่าวให้ถึงที่สุด เพื่อจะได้ไม่ไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนกับคนอื่นอีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี