บอร์ด กพฐ.มอบ สพฐ.สำรวจหาค่าเฉลี่ยจำนวนนักเรียนและค่าใช้จ่ายอาหารกลางวันที่เหมาะสม เตรียมทำความเข้าใจผอ.ร.ร.งดวิธีประมูลผู้ประกอบอาหารให้นักเรียน
เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม รศ.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ ในฐานะประธาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวภายหลังประชุม กพฐ.ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการดำเนินโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนต่างๆซึ่งที่ผ่านมาผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ให้ความสนใจถึงการได้มาของอาหารกลางวันว่ามีกี่วิธี และทราบว่า โรงเรียนจ้างเหมาทำอาหาร และทางโรงเรียนทำเอง ซึ่งทางกรมบัญชีกลาง ได้มีหนังสือแจ้งมาเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการจัดซื้อวัตถุดิบเพื่อใช้ในการประกอบอาหาร การจ้างบุคคลเพื่อประกอบอาหาร หรือการจ้างเหมาประกอบอาหาร(ปรุงสำเร็จ) ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม และเห็นว่า งบประมาณหัวละ 20 บาท ไม่จำเป็นที่โรงเรียนจะต้องใช้วิธีประมูล(E-Bidding)ผู้ประกอบการอาหาร โดยให้ดูความเหมาะสม เพราะวิธีการประมูล จะทำให้เงินค่าใช้จ่ายเป็นค่าอาหารกลางวันลดลง ทำให้ลดคุณภาพอาหารกลางวันลงด้วย
“โครงการอาหารกลางวันที่รัฐจ่ายให้นักเรียนหัวละ 20 บาท จะเพียงพอหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับจำนวนนักเรียนแต่ละแห่ง เช่น โรงเรียนที่มีนักเรียน 200 คน ได้รับค่าอาหารกลางวันหัวละ 20 บาท รวมแล้วตกวันละ 4,000 ก็ไม่น่ามีปัญหา แต่ถ้าโรงเรียนที่มีนักเรียน 30-40 คน น่าจะมีปัญหา ดังนั้น ที่ประชุมจะมอบให้ สพฐ.ไปคิดวิเคราะห์มาว่าขั้นต่ำนักเรียนจำนวนเท่านี้ ค่าอาหารกลางวันควรจะเป็นเท่าไหร่จึงจะเพียงพอ
ซึ่งเป็นไปได้ว่าโรงเรียนที่มีนักเรียน 30 คน ค่าอาหารกลางวันอาจจะเพิ่มเป็นหัวละ 40 บาทก็เป็นไปได้ ส่วนโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนเยอะ ค่าอาหารกลางวันหัวละ 20 บาทอาจจะลดลง เพราะมีเงินเหลือ ดังนั้น อาจจะได้เงินรายหัวค่าอาหารกลางวันลดลงจากหัวละ 20 บาท เหลือเพียง 15-16 บาท แล้วให้นำส่วนต่างไปให้กับโรงเรียนขนาดเล็ก จากที่ได้ หัวละ 20 บาท ก็จะเพิ่มเป็นหัวละ 25 บาทแทน โดยที่รัฐไม่ต้องเพิ่มวงเงินงบประมาณใช้งบเท่าเดิม” ประธาน กพฐ. กล่าว และว่า
โดยทั่วไปหัวละ 20 บาท ทางเทศบาลและหลายโรงเรียนที่ตนไปเก็บข้อมูลมาบอกว่าเพียงพอในโรงเรียนที่มีนักเรียน 200 -300 คนขึ้นไปนั้นไม่มีปัญหา ดังนั้น จึงต้องสร้างความเข้าใจกับผอ.โรงเรียนว่างบประมาณหัวละ 20 บาท ไม่ควรใช้วิธีเปิดประมูล แต่ควรให้เหมาทำอาหารมาให้ดูหรือกำหนดมาด้วยว่า หัวละ 20 บาท จะให้อะไรได้บ้าง และขบวนการคัดเลือกผู้รับเหมา ก็ให้มีนักเรียนที่มาจากกรรมการนักเรียน และให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมคัดเลือกผู้รับเหมากับสถานศึกษาด้วย
ด้านดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานท(เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ความสำคัญกับโครงการอาหารกลางวันนักเรียน เพื่อส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาการของนักเรียนให้เจริญเติบโต สมบูรณ์แข็งแรง มีความพร้อมในการเรียนหนังสือ รวมทั้งรัฐบาลมีความห่วงใยเรื่องของการจัดอาหารกลางวันให้นักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษา และกำชับให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงมหาดไทยกำกับ ดูแล และตรวจสอบทุกโรงเรียนทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด เพราะเห็นว่านักเรียนเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าของชาติ และการศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ และที่ผ่านมาสพฐ. ได้ดำเนินการเชิงรุก โดยมอบนโยบายให้ทุกโรงเรียนจัดโครงการอาหารกลางวันอย่างมีคุณภาพ มีกระบวนการนิเทศ ติดตาม กำกับ ประเมินผลระดับเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการประกาศให้สถานศึกษาในสังกัดเป็นสถานศึกษาปลอดภัย ส่งเสริมให้โรงเรียนและชุมชนร่วมกันทำเกษตรอินทรีย์และนำวัตถุดิบเข้าสู่โครงการอาหารกลางวัน เพื่อให้นักเรียนบริโภคอาหารที่ปลอดภัย เศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง พร้อมเน้นย้ำให้ทุกโรงเรียนได้ใช้โปรแกรม Thai School Lunch เพื่อวางแผนการจัดอาหารที่มีคุณภาพ นักเรียนได้รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ และจัดอบรมเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบอาหารกลางวันระดับเขตพื้นที่การศึกษา ในเรื่องการจัดอาหารที่ปลอดภัย ขยายผลสู่โรงเรียน ให้ครูผู้รับผิดชอบเป็นนักโภชนาการประจำโรงเรียน
ดร.สุเทพ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนและคณะกรรมการบริหารกลุ่มพื้นที่การบริหารการศึกษาขั้นพื้นฐานประจำเขตตรวจราชการ สพฐ. (Cluster) ได้ลงพื้นที่ติดตามโครงการอาหารกลางวันด้วยตนเอง พร้อมแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ให้กำชับ ควบคุม และตรวจสอบโรงเรียนในสังกัดให้ดำเนินโครงการอาหารกลางวันให้มีความโปร่งใส มีธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นกับโรงเรียนในสังกัด ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่และผู้อำนวยการโรงเรียน ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว รวมทั้งดำเนินการอย่างเด็ดขาด และให้สำนักงานเขตพื้นที่ทุกเขต รายงานผลการดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันให้ สพฐ. รับทราบภายในเดือนกรกฎาคม นี้ เพื่อให้ สพฐ. รับทราบข้อมูลที่เป็นปัจจุบันตามความเป็นจริง และนำมาพัฒนาโครงการอาหารกลางวันต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี