บก.ตม.4 สตม.โชว์ผลงาน“ตม.จว.ร้อยเอ็ด-กก.สส.ปป.บก.ตม.2-ตม.จว.สมุทรปราการ-ตม.ทอ.ภูเก็ต”บูรณาการแกะรอย 4 วัน ตามรวบ“อินเดีย”ตุ๋นเพื่อนร่วมชาติ หลอกเงิน 8 แสนบาท อ้างใช้ต่อ“วีซ่า” ก่อนชิ่ง แต่ไม่รอดโดนซิวที่สนามบินภูเก็ตก่อนขึ้นเครื่องหนีกลับประเทศ
13 กรกฎาคม 2562 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 (ผบก.ตม.4) สั่งการให้ ตม.จว.ร้อยเอ็ด บูรณาการร่วมกับฝ่ายสืบสวนปราบปราม ด่านคนเข้าเมืองท่าอากาศยานภูเก็ต ทำการจับกุมตัวนายลาเยสวาริ มานี่ ชาวอินเดีย ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2562 พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกษตรวิสัย ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2562 ผู้ต้องหารายนี้ได้ทำการหลอกลวงผู้เสียหาย ซึ่งเป็นชาวอินเดียด้วยกัน ให้โอนเงินเข้าบัญชีผู้ต้องหาเป็นจำนวน 800,000 บาท อ้างว่าจะนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการต่อวีซาของผู้ต้องหา จากนั้นได้ร่วมกับผู้ต้องหาเป็นหญิงชาวไทยอีกคน ถอนเงินออกจากบัญชีไปโดยทุจริต เหตุเกิดในพื้นที่ อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด
คดีนี้เนื่องจากทั้งผู้ต้องหาและผู้เสียหาย เป็นชาวต่างชาติและผู้ต้องหาได้นำเรื่องการต่ออายุวีซ่ามาเป็นข้ออ้างในการหลอกลวงผู้เสียหาย ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ ทาง ผบก.ตม.4 จึงเร่งรัดให้ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
ต่อมาฝ่ายสืบสวน ตม.จว.ร้อยเอ็ด โดย พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ กุลศักดิ์ สว.ตม.จว.ร้อยเอ็ด ได้ประสานข้อมูลของผู้ต้องหารายนี้กับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี จนนำไปสู่การออกหมายจับ โดยฝ่ายสืบสวนฯได้ไปติดตามผู้ต้องหาที่บ้าน และที่พักอาศัยต่างๆของผู้ต้องหาซึ่งมีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ทั้งที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.สมุทรปราการ โดย พ.ต.อ.กฤษฎากรณ์ กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ , พ.ต.ท.วีระศักดิ์ วงศ์ป้อม รองผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ , พ.ต.ต.นัฐพล ชมศิริ สว.ตม.จว.สมุทรปราการ และฝ่ายสืบสวน ตม.จว.สมุทรปราการ ร่วมสืบสวน แต่ปรากฏว่าไม่พบตัวผู้ต้องหา
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายสืบสวนฯ ได้เช็คพิกัดการใช้โทรศัพท์ของผู้ต้องหา พบเส้นทางการเดินทางของผู้ต้องหา ประกอบกับจากการข่าวสืบทราบว่าผู้ต้องหากำลังจะเดินทางหนีออกนอกประเทศ ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2562 จึงได้ประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานทั่วประเทศ
ต่อมาชุดปฏิบัติการกองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2(กก.สส.ปป.บก.ตม.2) โดย พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม ผกก.สส.ปป.บก.ตม.2 ร่วมสืบสวนด้วยการเช็คพิกัดการใช้สัญญาณโทรศัพท์ โดยคาดว่าผู้ต้องหาจะเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แต่สุดท้ายจากการเฝ้าติดตามปรากฏว่าผู้ต้องหามีการเช็คอินที่ท่าอากาศยานภูเก็ต จึงมีการประสานไปยัง พ.ต.อ.ศุภโชค หยงสตาร์ ผกก.ด่าน ตม.ทอ.ภูเก็ต ให้แจ้งฝ่ายสืบสวน ตม.ทอ.ภูเก็ต เฝ้าติดตาม
จนกระทั่งเมื่อเช้าวันที่ 12 กรกฎาคม 2562 จึงสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ขณะที่กำลังจะเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศ ไปกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ที่ท่าอากาศยานภูเก็ต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ก่อนที่ผู้ต้องหาจะขึ้นเครื่อง โดยคดีนี้ใช้เวลาในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีหลังหมายจับออกเพียง 4 วันเท่านั้น
ทั้งนี้ การบูรณาการจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายและข้อสั่งการของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รรท.ผบช.สตม.) ที่สั่งการให้เข้มงวดกวดขันการกระทำความผิดของคนต่างด้าว หรือต่างชาติที่อยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โดยหากประชาชนมีเบาะแสการกระทำความผิดของบุคคลต่างด้าว หรือต่างชาติ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน สตม.1178 หรือแจ้งได้ที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดทุกจุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี