ยุทธการฟ้าสาง
ทลายยาลดอ้วน30จุด
แหล่งนำเข้า-ขาย
ผสมสารอันตราย
ส่งอย.ตรวจเอาผิด
“วิระชัย” จับมือ “อย.” เปิดยุทธการ“ฟ้าสาง” ขุดรากถอนโคนขบวนการนำเข้า-จำหน่ายยาลดความอ้วน ผสมสารอันตราย 30 จุดทั่วประเทศ พบการลักลอบกระทำผิดจ่อส่งตรวจสารส่วนผสมก่อนดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.บูรณาการกำลังร่วมกับ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดยุทธการฟ้าสาง บุกตรวจค้นเป้าหมาย 30 จุดทั่วประเทศ สืบเนื่องจากคดีอาหารเสริม ยาลดความอ้วน “ลีน” เมื่อปี 2561 ซึ่งพบว่ามีการผสมสารอันตราย “ไซบูทรามีน” จนเป็นเหตุให้ผู้บริโภคถึงแก่ความตาย เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนอย่างละเอียดจนทราบว่า มีการลักลอบนำเข้าสารดังกล่าวมาจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านทางแนวชายแดน แล้วส่งไปผลิตอาหารเสริม ยาลดความอ้วนต่างๆ ต่อมามีผู้เสียชีวิตจากการกินยาลดความอ้วนในพื้นที่ จ.อ่างทอง โดยพบความเชื่อมโยงกับการลักลอบนำเข้าสารไซบูทรามีน
ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิระชัย ลงพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมกับทางเภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รอง เลขาธิการ อย.เพื่อตรวจค้นเป้าหมายสำคัญ 12 จุด ในส่วนของจังหวัดอื่นๆ ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดที่เกี่ยวข้อง ประสานงานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เข้าทำการตรวจค้นเป้าหมาย แบ่งเป็นที่ จ.เชียงใหม่ 2 จุด กรุงเทพมหานคร 6 จุด ปทุมธานี 2 จุด นครราชสีมา 1 จุด ชลบุรี 1 จุด ระยอง 1 จุด จันทบุรี 2 จุด ตาก 2 จุด และ พัทลุง 1 จุด
สำหรับยุทธการดังกล่าวถือเป็นการบุกปฏิบัติการเพื่อทลายเครือข่ายและจับกุมผู้ลักลอบกระทำความผิด นำสารอันตรายปนเปื้อนไปกับอาหารเสริมต่างๆ เพื่อหวังผลทางการค้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งยุทธการครั้งนี้ถือว่าเป็นการปราบปรามอย่างจริงจังเพื่อหยุดยั้งขบวนการเหล่านี้ หยุดการเสียชีวิต และสร้างความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า จากการขยายผลมานานร่วมปี วันเดียวกันนี้ได้มีการปิดล้อมตรวจค้น 30 จุดทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ที่เข้าตรวจค้นพบสิ่งผิดกฎหมาย คือสารไซบูทรามีน เป็นส่วนใหญ่ โดยจุดเริ่มต้นของการนำเข้าสารไซบูทรามีนและมีการตรวจสอบไปแล้วนั้น คือเส้นทางการนำเข้ามาจากภาคใต้ของประเทศไทย นำเข้ามาในลักษณะใส่มาในกระสอบ เพื่อส่งต่อให้โรงงานที่ผลิตยาผสมสารไซบูทรามีนทั่วประเทศ
ส่วนอีกช่องทางนำเข้าในลักษณะที่เป็นยาแคปซูนผสมไซบูทรามีน และมีการแพ็คเรียบร้อย ซึ่งจะนำเข้ามา 2 ทางใหญ่ คือด่านแม่สาย จ.เชียงราย โดยไม่ได้ผ่านด่านถูกต้องตามกฎหมาย และอีกทางคือด่านแม่สอด จ.ตาก มารวมกันที่บริเวณศูนย์ขนส่ง จากนั้นก็มีการกระจายไปทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลแล้ว ว่ามีการส่งสารไซบูทรามีนทั้งหมดกี่ลอต และแต่ละลอตมีเท่าไหร่ รวมไปถึงส่งให้ใครบ้าง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เบื้องต้นผู้ที่ครอบครองสารไซบูรทามีนจะมีความผิดฐานนำเข้า มีไว้ และก็ผลิต มีอัตราโทษจำคุก 20 ปี
ขณะที่ ตำรวจชุดสืบสวน สน.บางมด และเจ้าหน้าที่ อย.ได้ร่วมกันคัดแยกของกลางที่ตรวจยึดได้จากอาคารพาณิชย์หมู่บ้านชัยพฤกษ์ แขวงและเขตหนองแขม กทม.ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดน้ำหนัก , กาแฟปรุงสำเร็จอวดอ้างสรรพคุณช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศจำนวนมาก โดยพบว่าเป็นยี่ห้อที่กำลังมีการจำหน่ายผ่านทางออนไลน์อยู่ในขณะนี้ และพบบรรจุภัณฑ์เปล่าจำนวนมาก ทั้งขวดยาและแผงแคปซูลที่ถูกแกะยาออกไปแล้ว นอกจากนี้ยังตรวจยึดเครื่องสำอางประเภทครีมบำรุงผิวอีกจำนวนหนึ่ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเจ้าของบ้านมาสอบปากคำ โดยเจ้าของบ้านรายนี้ยอมรับว่าสั่งซื้อสินค้าดังกล่าวเพื่อนำมาจำหน่ายให้ลูกค้าทางออนไลน์ ส่วนของกลางที่ตรวจยึดได้นั้น ทาง อย.จะนำไปตรวจสอบว่ามีสารต้องห้ามเป็นส่วนประกอบหรือไม่ ในส่วนของยาลดความอ้วนจะตรวจหาสารไทรบรูซามีน ตรวจหาสารซินเดนาฟีลในกาแฟปรุงสำเร็จ และตรวจหาสารสารปรอทและไฮโดรควิโนนในเครื่องสำอาง
ด้าน เภสัชกรหญิงสุภัทรา กล่าวว่า จากการเข้าตรวจค้นที่ Ls Logistic อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบการกระทำผิดกฎหมายโดยการนำเข้ากาแฟและยาจุดกันยุงจากต่างประเทศที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก อย.เนื่องจากยาจุดกันยุงต้องขออนุญาต เพราะมีสารที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อคนที่สูดดมเข้าไป สำหรับผู้ที่นำเข้าจะมีความผิดนำวัตถุอันตรายที่ไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 1 แสนบาท
ทั้งนี้ จากการตรวจค้น 30 จุดทั่วประเทศในครั้งนี้ พบผู้กระทำผิด 30 ราย เป็นเครือข่ายขบวนการนำเข้า ผลิต และจำหน่ายสารไซบูทรามีน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนขยายผลดำเนินคดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี