ชันสูตรซากพะยูน
ป่วยตายธรรมชาติ
กระบี่สั่งตั้ง4ศูนย์ฯ
คุมเข้มแผนเฝ้าระวัง
อธิบดีทช.ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จ.กระบี่ เร่งรัดมาตรการดูแล คุ้มครองพะยูน หลังพบตายเกินค่าเฉลี่ย 12 ตัวต่อปี ผลักดันแผนเฉพาะหน้า-ระยะยาว พร้อมตั้งศูนย์เฝ้าระวัง 4 อำเภอ กำหนดเขตห้ามทำประมง เผยผลชันสูตรซากพะยูนที่พบบริเวณเกาะไผ่ ติดเชื้อในช่องท้อง ลำไส้อักเสบเรื้อรัง หนองคั่งช่องท้อง ทำให้หัวใจล้มเหลว
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมอ่าวลึก ศาลากลางจังหวัดกระบี่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ประชุมร่วมกับนายสมควร ขันเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ร.ต.นันทพล มาลารัตน์ ผู้บัญชาการฐานทับเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดและเพิ่มมาตรการคุ้มครองสัตว์ทะเลหายาก (พะยูน) อย่างยั่งยืน หลังพบพะยูนเกยตื้นต่อเนื่อง
หลังประชุม นายจตุพรแถลงว่า จากสถานการณ์การตายและลอยเกยตื้นของพะยูนในพื้นที่ฝั่งอันดามันต่อเนื่อง มีการตายของพะยูน 15 ตัว จากค่าเฉลี่ยไม่เกิน 12 ตัวต่อปี ส่วนใหญ่ตายด้วยเครื่องมือประมง ซึ่งพะยูนนั้นเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 ปัจจุบันประชากรพะยูนในประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 200-250 ตัว ถือเป็นเรื่องที่น่าห่วงอย่างยิ่ง โดยช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา พบซากพะยูนเกยตื้น 7 ตัว ตาย 5 ตัว และรอดชีวิต 2 ตัวคือ มาเรียม และยามีล ซึ่งอยู่ระหว่างการอนุบาล โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงรับไว้ในพระอุปถัมภ์ โดยการเกยตื้นเกิดจากภัยคุกคามด้านประมง 89% ป่วยตาย 10% และอื่นๆ 1%
“จากการติดตามสถานการณ์พบว่าพะยูนส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการตายผิดธรรมชาติ การติดเชื้อ และติดเครื่องมือประมง ซึ่งต้องมีมาตรการป้องกันเฝ้าระวังระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงกำหนดพื้นที่แหล่งอาศัยของพะยูน ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด”นายจตุพรกล่าว
และว่า นอกจากนี้ ในที่ประชุม ยังติดตามมาตรการของประมงจังหวัด สมาคมประมงจังหวัดกระบี่ นายอำเภอที่กันเป็นพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ 4 อำเภอ ได้แก่ พื้นที่แหลมหางนาค อ.เมือง ต.เกาะศรีบอยา อ.เหนือคลอง ต.เกาะลันตา อ.เกาะลันตา และตำบลบ่อม่วง อ.คลองท่อม ซึ่งตั้งคณะทำงานและมอบหมายภารกิจความรับผิดชอบไปแล้ว โดยพื้นที่ ต.เกาะศรีบอยา อ.เหนืองคลองได้กันพื้นที่ที่มีหญ้าทะเล 26 ไร่ บริเวณเหน้าเกาะจำ ให้เป็นพื้นที่พิเศษ ห้ามเข้าทำประมง
สำหรับการดำเนินการป้องกันการตายและการเกยตื้นของพะยูนนั้น ดำเนินการเป็น 3 ระยะ คือระยะสั้น ดูแลพื้นที่แหล่งอาหาร การลาดตระเวน ประชาสัมพันธ์ผ่านทางประมง และผู้นำท้องถิ่นให้ประชาชนเข้าใจมีส่วนร่วมดูแล ระยะกลาง จะรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และระยะยาว กำหนดมาตรการที่เข้มข้นการอนุรักษ์พะยูน ซึ่งจะดำเนินการประกาศเขตคุ้มครองที่ชัดเจนในระยะไม่เกิน 5 ปี อย่างไรก็ตาม ได้ประสานการปฏิบัติ ข้อมูล กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทั้งการป้องกัน การดูแลรักษากรณีพบปลาพะยูนเจ็บป่วยหรือเกยตื้น ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 2563 ได้เตรียมจัดการประชุมพะยูนโลก ที่จังหวัดตรัง และจะลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ด้วย
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ามีการล่าพะยูนเพื่อเอาเขี้ยวมาทำเครื่องรางของขลังนั้น นายจตุพรยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะจากผลการชันสูตรซากพบ การตัดเขี้ยวพะยูนเกิดขึ้นหลังจากที่พะยูนตายแล้ว ส่วนใหญ่จะเอาไปทำเป็นเครื่องประดับเท่านั้น หลังจากนี้จะมีมาตรการในการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นมากขึ้น
ด้านนายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช รายงานผลตรวจพิสูจน์ซากพะยูนว่า รับแจ้งจากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน (ศวทม.ภูเก็ต) ถึงผลชันสูตรซากพะยูนเกยตื้น (DU439) เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมาบริเวณทะเลเขตพื้นที่เกาะพีพี ห่างจากเกาะไผ่ประมาณ 20 กิโลเมตร ผลตรวจสอบสภาพภายนอกพบ เป็นพะยูนเพศผู้ โตเต็มวัย มีสภาพซากสด ความสมบูรณ์ของร่างกายอยู่ในระดับปกติ มีรอยถลอกและรอยแดดไหม้ที่หลัง ซึ่งพบได้ในพะยูนธรรมชาติ บริเวณโคนใบพายทั้งสองข้างมีรอยแผลรัดลึกแต่แผลสมานแล้ว และพบรอยแผลเกยตื้น ถลอกข้างลำตัว ส่วนเขี้ยวสึกจากสภาพการใช้งาน
นายดำรัสกล่าวต่อว่า การตรวจสอบความผิดปกติของอวัยวะภายในพบ ในช่องท้องอักเสบ มีหนองคั่งในช่องท้องประมาณ 100 มล. ส่วนของลำไส้มีภาวะลำไส้อักเสบเรื้อรัง และมีพังผืดพันยึดลำไส้เล็กและพบเนื้อตายร่วมด้วยในบริเวณดังกล่าว กระเพาะอาหารมีหญ้าทะเลที่ไม่ได้รับการย่อย มีกลิ่นเหม็น หัวใจมีภาวะล้มเหลวและม้ามติดเชื้อเรื้อรัง
“สันนิษฐานการตายมาจากการเสียชีวิตจากการป่วยตามธรรมชาติ จากภาวการณ์ติดเชื้อในช่องท้องและภาวะลำไส้อักเสบเรื้อรัง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเก็บตัวอย่างผิวหนัง เพื่อนำไปตรวจทางพันธุกรรม และเก็บตัวอย่างอาหารในกระเพาะอาหารเพื่อตรวจสอบชนิดของหญ้าทะเลต่อไป” นายดำรัสกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี