ตัวแทนราชสกุล"เทพหัสดินฯ"ตั้งโต๊ะแถลงขอขมาเหยื่อคดีแพรวา 9 ศพ เรียกร้องให้ทำตามคำพิพากษา เผยนึกว่าคดีจบแล้วเลยวางใจ แต่ตอนนี้รับทราบแล้วจึงตั้งกองทุนสำรองจ่ายทางคดี พร้อมเรียกร้องให้"แพรวา"ออกมาขอโทษสังคมอย่างจริงใจ
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 18 กรกฎาคม 2562 ที่ร้านอาหารเพลิน ถนนวิภาวดีรังสิตนายสุชัย เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้ใหญ่ของราชสกุลเทพหัสดินฯ และนายณัฐพล ทองคำ ทนายประจำราชสกุลเทพหัสดินฯ เปิดแถลงข่าวชี้แจงประเด็นร้อนกรณีคดีแพรวาอุบัติเหตุ 9 ศพ กับประเด็นการเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และข้อพาดพิงต่างๆ ต่อราชสกุลเทพหัสดินฯ
โดยกล่าวว่า ทางราชสกุลเทพหัสดิณฯ ไม่คยนิ่งนอนใจ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และกราบขออภัยจากใจ และขอขมาทุกคนที่เกี่ยวของกับอุบัติเหตุในครั้งนั้น ตลอดมาไม่เคยลืมอุบัติเหตุสะเทือนขวัญในครั้งนั้น และได้ผลักดันให้ทางครอบครัวของ"แพรวา" หรือ นางสาวรวินภิรมย์ อรุณวงศ์ ปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอดไม่ได้หนีไปไหน และติดตามข่าวมาตลอด จนทราบว่านางสาววินภิรมย์ ถูกตัดสินให้รับโทษในคดีอาญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่เคยคิดหลบหนี
เมื่อสอบถามไปทางครอบครัวของนางสาวรวินภิรมย์หลายครั้ง ได้รับคำตอบว่า คดีสิ้นสุดแล้วทุกครั้ง ทางราชสกุลจึงวางใจ และไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวของนางสาวรวินภิรมย์ เนื่องจากสมาชิกของราชกุลเทพหัสดินฯ มีการลงทะเบียนไว้ร่วม 200 ครอบครัว แต่ละครอบครัวก็ได้แยกย้ายกันดำรงชีวิตตามลักษณะครอบครัวเดี่ยวในปัจจุบัน
จนหลายวันที่ผ่านมา ทางราชสกุลได้รับทราบพร้อมกับประชาชนว่า หลังจากคดีสิ้นสุดครอบครัวผู้ประสบเหตุยังไม่ได้รับการติดต่อจากทางครอบครัวของนางสาวรวินภิรมย์ ซึ่งขอขอบคุณนายวรัญญู เกตชู หนึ่งในผู้ประสบเหตุ และพี่ๆสื่อมวลชนหลายสำนักที่เป็นสื่อกลางกระบอกเสียงส่งข่าวให้พวกเราได้รับทราบข้อเท็จจริง เมื่อได้ทราบข่าวแล้วพวกเราก็เรียกประชุมทันที และได้ข้อสรุปหลายประการ แต่ขณะนั้นกระแสโซเชียลมีเดียวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงถึงราชสกุลเทพหัสดินฯ โดยไม่ทราบถึงความตั้งใจจริงของเราที่เรียกประชุมทันทีที่ทราบข่าว
บางท่านใช้คำพูดรุนแรงไม่สุภาพพาดพิงถึงบรรพบุรุษ ซึ่งล่วงลับไปแล้ว ทางผู้ใหญ่ในราชสกุลจึงให้ข่าวกับทางสื่อหนึ่งว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจทราบข่าวแล้วและกำลังเร่งดำเนินการกับเรื่องนี้ ขอวอนให้หยุดพาดพิงถึงบรรพบุรุษและราชสกุล เนื่องจากเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซุ่มเสียงต่อการทำผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จึงไม่อยากให้เกิดความแตกแยกแตกร้าวในสังคม เป็นการออกมาตักเตือนการใช้วาจาในการแสดงความเห็นในโลกโซเชียล ในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่งเท่านั้น และตัวบุคคลที่กระทำผิดที่ใช้นามสกุลเดียวกันนี้ ยินยอมรับโทษตามคำตัดสินในคดีอาญา ส่วนคดีแพ่งที่เพิ่งสิ้นสุดไปนั้น ก็ยังไม่จบสิ้นกระบวนการ และทางผู้เสียหายไม่ต้องกังวลเรื่องหมดอายุความ ย้ำว่าทางราชสกุลรับทราบและมีข้อสรุปทางผู้เสียหายต้องได้รับการชดใช้อย่างแน่นอน
โดยวันนี้ทางราชสกุลออกแถลงการณ์ เพื่อแนะนำ และช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ โดยขอมอบกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุจำนวน 5 แสนบาท เพื่อสำรองใช้จ่ายในการติดตามบังคับคดีสืบทรัพย์ตามกฎหมาย หลังจากนี้ต่อไปและในนามราชสกุลเทพหัสดินณอยุธยาขอเรียกร้องให้ครอบครัวของนางสาวรวินภิรมย์ น้อมรับปฏิบัติตามคำพิพากษา อีกทั้งเร่งดำเนินการให้ทุกอย่างเรียบร้อยไปด้วยดี ภายใต้คุณธรรมและจริยธรรมอันดี และเมื่อคดีต่างๆสิ้นสุดลงไปแล้ว
ขอวอนต่อสังคมให้โอกาสต่อนางสาวรวินภิรมย์ ที่ขณะนั้นเป็นเพียงเยาวชนและไม่ตั้งใจให้เกิดอุบัติหตุดังกล่าวขึ้นจริงๆได้มีโอกาสแสดงความรับผิดชอบ นอกจากไม่หลบหนีไปไหน และน้อมรับโทษทุกประการแล้วก็ขอให้ได้แสดงความรับผิดชอบจัดหาทรัพย์มาเยียวยาต่อผู้ประสบเหตุอย่างครบถ้วน และอยากให้นางรวินภิรมย์ และครอบครัวออกมาขอโทษสังคมด้วยความจริงใจ เพื่อความสบายใจของสังคม
"ขอให้วิจารณ์ในเรื่องส่วนตัวอย่าเหมารวมราชสกุล เทพหัสดิน ณ อยุธยา เพราะการวิจารณ์อาจจะกระทบและสะเทือนใจ ทั้งนี้ หากมีการปล่อยให้เกิดการวิจารณ์อาจทำให้ราชสกุลเสื่อมเสีย"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี