‘ตม.1’รวบไนจีเรีย‘แก๊งอีเมลสแกม’ แฝงตัวเรียนมหา’ลัย สวมรอยบริษัทหลอกโอนเงิน
19 กรกฎาคม 2562 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(รรท.ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา ผบก.ตม.1 , พ.ต.อ.เจนกมล คำนวล รองผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ธัชพงศ์ สารวนางกูร ผกก.กก.2 บก.ตม.1 และ พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย ผกก.สส.บก.ตม.1 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้ายสัญชาติไนจีเรีย แฝงตัวเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัย
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ตม.1 และ กก.สส.บก.ตม.1 ได้ร่วมกันวางแผนจับกุมนายเบอร์ทาน (MR.BERTRAND) สัญชาติไนจีเรีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2015/2558 ลงวันที่ 14 ก.ย.2558 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันปลอม ใช้เอกสารปลอม, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นหรือประชาชน , ร่วมกันกระทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”
ทั้งนี้ การจับกุมในคดีนี้เกิดจากการสืบสวนและประสานงานของเจ้าหน้าที่ บก.ตม.1 และ บก.ปอท. ซึ่งก่อนหน้านี้ทางการไทยได้จับกุมสมาชิกแก๊งนี้ได้แล้วจำนวน 2 ราย คือ นายไบรท์ (BRIGHT) และนายออนยีคาชุกวู (OMNYEKACHUKWU) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1074/2558 และ 1075/2558 ลง 27 พ.ค.2558 ซึ่งถูกดำเนินคดีไปแล้ว
จากการประสานและตรวจสอบข้อมูลทำให้ทราบว่านายเบอร์ทาน เป็นหนึ่งในสมาชิกตัวการสำคัญคนหนึ่งในแก๊งองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ทางการต้องการตัวและติดตามจับกุมตัวยังไม่ได้ตั้งแต่ปี 2558 โดยนายเบอร์ทานได้มายื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรกับ กก.2 บก.ตม.1 ในกรณีเป็นนักศึกษาของสถาบันมีชื่อแห่งหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วางแผนติดต่อให้นายเบอร์ทาน เข้ามาติดต่อเรื่องวีซ่าและเอกสาร และเมื่อนายเบอร์ทาน มาพบ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบเอกสารประจำตัว หรือพาสปอร์ต พบว่ามีการเปลี่ยนเล่มใหม่เพื่อให้การตรวจสอบและติดตามข้อมูลทำได้ยากขึ้น เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง และ BIOMETRICS พบว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันตามหมายจับ จึงได้ทำการจับกุมตัวและส่งดำเนินคดีต่อไป
สำหรับนายเบอร์ทาน เป็นสมาชิกในขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติมีการทำธุรกรรมในบัญชีการเงินต่างๆ โดยส่ง “อีเมลสแกม” ที่มีการปรับแต่งเป็นอีเมลแอดเดรสของบริษัทเป้าหมายต่างๆไปหาลูกค้าของบริษัทนั้นๆในการรับโอนเงิน จากนั้นจะโอนเงินต่อไปยังสมาชิกเครือข่ายเพื่อฟอกเงิน ทำให้ยากต่อ การติดตามเงินกลับคืน การก่ออาชญากรรมในลักษณะนี้เป็นการหลอกลวง ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคนร้ายส่วนใหญ่จะเป็นชาวผิวสี กระทำเป็นขบวนการในลักษณะองค์กรอาชญากรรม ซึ่งในปี 2561 เป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่สร้างความเสียหายเป็นตัวเงินมากที่สุด ประมาณ 370 ล้านบาท
# ขอบคุณภาพ-ข้อมูล พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รองผบก.อก.สตม. ปฏิบัติราชการ รองผบก.ตม.1
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี