สั่งรื้อใน45วัน
ศาลาทรงไทยริมน้ำแม่กลอง
พ่อเหยื่อสาวนิมนต์พระ
เชิญวิญญาณไปสู่สุคติ
ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรสงคราม มอบหนังสือคำสั่งให้วัดเพชรสมุทรวรวิหาร ทำการรื้อถอนทำลายศาลาเรือนไทยริมน้ำแม่กลอง ให้เสร็จภายใน 45 วันเพื่อความปลอดภัย พ่อของ”น้องเหมียว พรพิไล”หนึ่งในเหยื่อศาลาริมน้ำแม่กลองถล่ม นิมนต์พระเชิญวิญญาณลูกสาวขึ้นจากน้ำ เพื่อไปสู่สุคติ กำหนดฌาปนกิจ 23 กรกฎาคมนี้
ความคืบหน้ากรณีเหตุศาลาทรงไทยริมแม่น้ำแม่กลองถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นางสุรี อุราชื่น อายุ 37 ปี แม่ค้าขายน้ำ และ น.ส.พรพิไล เสือเล็ก หรือเหมียว อายุ 24 ปี พนักงานบริษัทฮอนด้าแม่กลอง และมีผู้บาดเจ็บ 20 ราย พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า 7 ราย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ 13 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 กรกฎาคม นายวินัย เสือเล็ก อาสาสมัครรักษาดินแดน พ่อของ น.ส.พรพิไล ได้นิมนต์พระสินธพ ฐิตญาโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปัจจันตาราม มาเรียกวิญญาณ น.ส.พรพิไล ขึ้นจากน้ำ เพื่อไปสู่สุคติ โดยนายวินัยได้จุดธูปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอเปิดทางให้วิญญาณบุตรสาวขึ้นมาจากน้ำ ส่วน พระสินธพ ฐิตญาโณ ได้โยนสายสิญจน์ลงไปบริเวณที่ น.ส.พิไลพร จมอยู่ใต้น้ำ เพื่อเรียกวิญญาณขึ้นมา ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้าของบิดามารดา และญาติๆ ที่มาร่วมพิธี สำหรับการสวดพระอภิธรรม น.ส.พิไลพร มีกำหนด 5 คืน คือระหว่างวันที่ 18-22 กรกฎาคม และจะฌาปนกิจในวันที่ 23 กรกฎาคม
ต่อมา เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน นายฐาปกรณ์ บุญเกิด ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรสงคราม ได้เข้าพบพระครูสมุทรวชิรานุวัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรวรวิหาร เพื่อมอบหนังสือคำสั่งให้กู้รื้อ ขนทำลายศาลาเรือนไทยริมแม่น้ำแม่กลอง ให้เสร็จภายใน 45 วัน
จากนั้น นายฐาปกรณ์ได้นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบศาลาริมน้ำดังกล่าว และได้กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าศาลาเรือนไทยทั้งสองหลังเป็นของวัดเพชรสมุทรวรวิหาร หากปล่อยไว้อาจเป็นอันตรายในการเดินเรือและผู้ที่เดินทาง จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การเดินเรือในน่านน้ำไทยฉบับที่ 12 พ.ศ.2522 ประกอบคำสั่งกรมเจ้าท่าที่ 856/2559 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2559 ตนในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรสงคราม จึงมีคำสั่งให้วัดเพชรสมุทรวรวิหาร ทำเครื่องหมายแสดงอันตรายให้เป็นที่สังเกตในการเดินเรือทั้งกลางวันและกลางคืนในบริเวณเกิดเหตุดังกล่าว และให้รื้อทำลายศาลาอเนกประสงค์ทั้งสองหลังให้แล้วเสร็จภายใน 45 วันนับจากวันนี้
อย่างไรก็ตาม หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะมีความผิดตามมาตรา 297 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทยฉบับที่ 14 พ.ศ.2535 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 500-5,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี