ในช่วงบ่ายวานนี้ (20 ก.ค. 2562 ) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. , พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. , พ.ต.ท.ณัทกฤช น้อยคำปัน ,พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล,พ.ต.ท.วิศิษฐ์ พลบม่วง,พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส รอง ผกก.2 บก.ป. มีพ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป. และเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายพิษณุ โต๊ะเหม อายุ 39 ปี ชาวตำบลบ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 151/2562 ลงวันที่ 22 พ.ค.2562 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุม , ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยเข้าจับกุม หมู่ที่ 2 ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง นำส่ง สภ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้พฤติการณ์กล่าวคือ นายบุรี หรือนายบอล (ผู้ต้องหาที่ถูกจับไปก่อน) ได้มีความแค้นส่วนตัวกับผู้เสียหาย ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2561 นายบอล ได้ชวน นายพลพัฒน์ หรือนายพัฒน์ (ผู้ต้องหาที่ถูกจับไปก่อน) และ นายพิษณุ โต๊ะเหม หรือนายบอย (ผู้ถูกจับ) ไปกินเลี้ยงวันเกิดที่บ้านเพื่อนของนายบอล บริเวณวัดท่าอิฐ ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง
หลังจากนั้นประมาณเที่ยงคืน ได้เดินทางกลับ โดยนายบอลขี่รถจักรยานยนต์และมีนายพัฒน์และนายบอยนั่งมาด้วย ระหว่างทางบริเวณวัดใหม่ปากบาง ต.ท่าตอ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ได้พบ ผู้เสียหายกำลังลงจากรถของบริษัทที่มาส่งหลังจากเลิกงาน จึงได้ไปทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย และล้วงเอาโทรศัพท์จากผู้เสียหายไป ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มหาราช ได้จับกุมนายบอล ได้ และนายพัฒน์ ได้มามอบตัวกับพนักงานสอบสวน เหลือแต่ นายพิษณุ ได้หลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. และ สภ.มหาราช ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจนพบเบาะแสว่าผู้ต้องหาหลบมาอาศัยอยู่ที่บ้านญาติ ใน ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้
อย่างไรก็ตามในการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นนำโทรศัพท์ของผู้เสียหายไป แต่รับว่า ในวันเกิดเหตุได้ร่วมกันทำร้ายผู้เสียหายจริง โดยที่หลังจากกลับจากบ้านของเพื่อนนายบอล ระหว่างนั้นนายบอลบังเอิญเห็นผู้เสียหายกำลังลงจากรถของบริษัทที่มาส่งหลังจากเลิกงานจึงชี้ให้พวกตนดู ตนเองได้ให้นายบอลรออยู่ และตนได้ไปกับนายพัฒน์ ดักคอยผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายเดินมาถึง ตนและนายพัฒน์ ได้เข้าไปทำร้าย ผู้เสียวิ่งหนีไปในป่าหญ้านายบอลได้วิ่งตามไป นายพัฒน์ ได้ลงไปร่วมกันทำร้าย ส่วนตนอยู่บนรถจักรยานยนต์รอรับ นายบอลและนายพัฒน์ ขึ้นรถ แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป และไม่ทราบว่าใครเป็นคนขโมยโทรศัพท์ผู้เสียหาย
ภายหลังเกิดเหตุตนเองได้ไปทำงาน และพักอาศัยอยู่ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่ทราบว่ามีหมายจับ พึ่งมาทราบภายหลังที่ถูกตำรวจ กองปราบ และ สภ.มหาราช จับกุมตัวในที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี