และแล้วเราก็ได้เสนาบดีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ชุดใหม่ที่มาจากประชาธิปไตยเข้ามาแทนรัฐบาลทหารที่หมดวาระไป ครานี้คงเป็นความโชคดี ของเกษตรกรไทย ที่เราจะมีเสนาบดีถึง 4 คน ประกอบด้วย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ อีก 3 ท่าน คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า, นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ และนายประภัตร โพธสุธน ที่อาสาเข้ามาช่วยดูแลปัญหาปากท้อง และแก้ปัญหาสินค้าเกษตรที่คาราคาซังมาหลายปี ซึ่งทั้ง 4 ท่าน ได้ถือฤกษ์เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และประกาศพร้อมปฏิบัติงานทันที ซึ่ง ขุนเกษตรา ขอเป็นกำลังใจให้ทั้ง 4 ท่าน ทำงานอย่างราบรื่น เพื่อปลดเปลื้องความทุกข์ยากของพี่น้องเกษตรกร แม้แต่ละท่านจะมาจาก 4 พรรค แต่ก็เชื่อว่าจะบูรณาการทำงานร่วมกันได้โดยมีจุดหมายเดียวกันคือเพื่อเกษตรกรและภาคเกษตรของไทย หากจะมีนโยบายใหม่ๆ ที่ดี ประเทศและเกษตรกรได้ประโยชน์ก็สนับสนุน ส่งเสริมกันไป แต่นโยบายเก่าที่ทำได้ดีอยู่แล้วหรือยังบกพร่องส่วนไหนก็อยากให้พิจารณาหาแนวทางแก้ไขแล้วสานต่อ เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาเริ่มต้นกันใหม่ เกษตรกรจะได้ไม่เสียโอกาสและไม่เสียเวลาเปล่าที่ข้าราชการผู้ปฏิบัติงานได้ที่ทุ่มเททำกันมาอย่างเต็มกำลัง เป็นโอกาสดีที่ท่านรัฐมนตรีจาก 4 พรรคร่วม จะได้พิสูจน์ฝีมือแล้วนะครับ อย่าปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป เพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีง่ายๆ และไม่รู้ว่าจะมีโอกาสนานแค่ไหน เป็นกำลังใจให้นะครับ...
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร ได้นำคณะเกษตรกร ผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่ ร่วมศึกษาดูงานการจัดงานแสดงพืชสวนระหว่างประเทศ “ปักกิ่ง เอ็กซ์โป 2019” ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 3 รุ่น
รุ่นละไม่เกิน 25 คน 3 ครั้ง ครั้งละ 5 วัน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-เดือนกันยายน 2562 ชมเทคโนโลยี
การผลิตพืชที่ทันสมัย พร้อมศึกษาแนวโน้มความต้องการสินค้าของผู้บริโภค และเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการของจีนและประเทศอื่นๆ โดย นายสำราญสาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร บอกว่า สำหรับกิจกรรมศึกษาดูงาน Beijing EXPO 2019 มีหลักเกณฑ์การคัดเลือกเกษตรกรเข้าร่วมศึกษาดูงานจะต้องเป็นผู้ประกอบอาชีพเกษตรด้านพืชสวนเป็นหลัก มีประสบการณ์ไม่น้อยกว่า 3 ปี โดยเป็นเกษตรกรที่จดทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร และเข้าร่วมกิจกรรมของกรมอย่างต่อเนื่อง เป็น Smart Farmer ต้นแบบ/Young Smart Farmer ต้นแบบ/เกษตรกรแปลงใหญ่/ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หรือเกษตรกร/องค์กรเกษตรกรผู้ได้รับรางวัลระดับจังหวัด/เขต/ประเทศ เป็นต้น และหากได้รับรางวัลชนะเลิศจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ รวมทั้งไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมในต่างประเทศของกรมมาก่อน ภายในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งโปรแกรมที่กรมส่งเสริมการเกษตรนำคณะศึกษาดูงาน ในงาน Beijing EXPO 2019 ประกอบด้วย Thailand Pavilion (บ้านไทย) อาคารแสดงสินค้าและบริการข้อมูลประเทศไทย (บ้านไทย) สร้างขึ้นภายใต้แนวคิด The Green Way of Life, the Thai Way of Sufficiency พื้นที่ 1,600 ตารางเมตร แสดงให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับวิถีชีวิตของคนไทยและวัฒนธรรมไทย ผ่านบ้านไทยโบราณและสวนไทยด้วยแนวคิด “ซูเปอร์มาร์เก็ตรอบบ้าน” มีการเพาะปลูกพืชผัก ไม้ผล พืชสมุนไพร และไม้ดอกไม้ประดับที่หลากหลาย เพื่อการบริโภคในครัวเรือนและสร้างรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตสู่ตลาด โดยการจัดงาน Beijing EXPO 2019 มีจำนวนประเทศและองค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วมงานทั้งสิ้น 110 ประเทศ/องค์กร ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับความไว้วางใจและถูกนำเสนอให้ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 4 ประเทศ สำหรับต้อนรับคณะผู้เยี่ยมชมระดับ VVIP หรือ Super VIP ประกอบด้วย เยอรมนี กาตาร์ ญี่ปุ่น และไทย มีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมจากประเทศต่างๆ เช่น เอกอัครราชทูตประเทศอาเซอร์ไบจานประจำกรุงปักกิ่ง ผู้แทนจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ผู้แทนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนจากประเทศจีนอย่างต่อเนื่องจากสื่อต่างๆ เป็นต้น อธิบดีสำราญ ระบุว่า จากการประมาณการโดยใช้หลักสถิติ คาดว่าตลอดระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่จัดงาน จะมีผู้เข้าเยี่ยมชม Thailand Pavilion (บ้านไทย) ไม่ต่ำกว่า 800,000 คน ซึ่งการเข้าร่วมงาน Beijing EXPO 2019 ครั้งนี้จะเป็นการสร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวในจีนอีก 16 ล้านคน ได้รู้จักสินค้าเกษตรไทยและแสดงศักยภาพสินค้าเกษตรของไทยที่มีคุณภาพ ที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติทั่วโลกมากขึ้น
เมื่อเร็วๆ นี้ นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มอบหมายให้สำนักมาตรฐานการบัญชีและการสอบบัญชี ร่วมเป็นวิทยากรในการอบรมให้ความรู้ ด้านการจัดทำบัญชีและงบการเงินแก่สหกรณ์ หลักสูตรการจัดทำบัญชีของสหกรณ์ขั้นพื้นฐาน เพื่อพัฒนาศักยภาพในการจัดทำบัญชีของสหกรณ์มุ่งสู่เป้าหมาย ตามโครงการสร้างความเข้มแข็งให้สหกรณ์จัดทำบัญชีและงบการเงินได้ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย จำกัด ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ชุมนุมสหกรณ์บริการเดินรถแห่งประเทศไทย จำกัด และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้สหกรณ์จัดทำบัญชีและงบการเงินได้ โดยมีสหกรณ์เข้ารับการอบรม จำนวน 80 สหกรณ์ มีผู้เข้ารับการอบรม 131 ราย ซึ่งนับเป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งทางบัญชีให้กับสหกรณ์ที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์มีนโยบายดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
ขุนเกษตรา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี