คำถาม ผมอยากทราบข้อมูลความรู้ความเข้าใจเรื่อง การเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดินในเบื้องต้น ควรทำอย่างไร ขอบคุณครับ
สรศักดิ์ สวนหลวง
อ.ละแมจ.ชุมพร
คำตอบ
การเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดิน มีเป้าหมายให้ผลผลิตพืชของเกษตรกรมีความยั่งยืน ดังนั้น ในเบื้องต้นที่จะกระทำกับดิน ให้ทำโดยการเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดิน ส่วนใหญ่ดินจะสูญเสียอินทรียวัตถุไปอย่างรวดเร็ว ดินจะแข็ง ไม่ร่วนซุย ดูดซับน้ำและแร่ธาตุอาหารพืชได้น้อยนานเข้าความอุดมสมบูรณ์สูญเสียไปอย่างรวดเร็ว จนสุดท้ายทำให้การปลูกพืชไม่ได้ผลหรือได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น การปลูกพืชที่ปลูกเป็นปุ๋ยพืชสด เป็นวิธีที่จะเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดินที่ดีที่สุด มีวิธีการพอสรุปได้ดังนี้
การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ก็เป็นวิธีที่ดีที่จะเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดินแต่มีข้อจำกัด คือ ต้องใช้ในปริมาณมากต่อไร่ หาได้ไม่เพียงพอ และไม่สะดวกแก่การขนย้าย ดังนั้นวิธีการเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดินก็คือ การใช้ปุ๋ยพืชสด ซึ่งเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้จากการไถกลบ ต้น ใบ และส่วนต่างๆของพืช โดยเฉพาะพืชตระกูลถั่ว ในระยะช่วงออกดอก ซึ่งเป็นช่วงที่มีธาตุอาหารสูงสุด แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้ผุพังเน่าเปื่อย และย่อยสลายเป็นอาหารแก่พืชที่จะปลูก พืชที่ใช้ปลูกเป็นปุ๋ยพืชสด ได้แก่ โสนอินเดีย ปอเทืองอัญชัน ไมยราพไร้หนาม และพืชตระกูลถั่วต่างๆ
ประโยชน์ของปุ๋ยพืชสด ช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน เพิ่มธาตุไนโตรเจนซึ่งเป็นธาตุอาหารหลักให้แก่พืช ทำให้ดินมีค่าความเป็นกรดเป็นด่างที่มีประโยชน์ ที่เกิดจากการผุพังของพืชสด ช่วยละลายธาตุอาหารในดินให้แก่พืชได้มากยิ่งขึ้น ช่วยบำรุงและรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดิน ทำให้ดินอุ้มน้ำได้ดีขึ้น ทำให้ดินร่วนซุย สะดวกในการเตรียมดินและไถพรวน ช่วยในการปราบวัชพืชบางชนิดได้เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มผลผลิตของพืชให้สูงขึ้น ทั้งยังลดอัตราการชะล้างพังทลายของดิน และลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้อีกด้วย
ลักษณะทั่วไปของพืชปุ๋ยสด เป็นพืชที่ปลูกง่าย ระบบรากแข็งแรง เจริญเติบโตเร็ว ออกดอกในระยะเวลาอันสั้น คือประมาณ 30-60 วัน เป็นพืชที่ทนแล้งและทนต่อสภาพแวดล้อมต่างๆได้ดี มีความต้านทานต่อโรคและแมลง สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ได้มาก ขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว เมล็ดงอกง่าย และมีอัตราการงอกสูง เพื่อให้ทันและเพียงพอต่อความต้องการ สามารถปลูกได้ทุกฤดูกาล ทำการเก็บเกี่ยว ตัดสับและไถกลบได้ง่าย ไม่ควรเป็นเถาเลื้อยมากเพราะจะทำให้ไม่สะดวกแก่การไถกลบ ลำต้นอ่อน เมื่อไถกลบแล้วเน่าเปื่อยผุพังได้เร็วและมีธาตุอาหารพืชสูง และให้น้ำหนักพืชสดสูงอีกด้วย
วิธีการปลูกพืชปุ๋ยสด
1. ลักษณะของดิน ก่อนปลูกควรปรับปรุงสภาพของดินให้เหมาะสม ถ้าเป็นพื้นที่ดินเปรี้ยว ควรปรับสภาพดิน ด้วยการใส่ปูนขาว ปูนมาร์ล หรือหินปูนบด ทั้งนี้ ควรสอบถามความเข้าใจถึงวิธีการใช้กับเจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาที่ดิน เสียก่อน
2. เวลาและฤดูกาลที่ปลูก ควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝน หรือปลูกหลังจากเก็บเกี่ยวพืชแล้ว ซึ่งยังคงมีความชื้นในดินอยู่ หรืออาจปลูกก่อนการปลูกพืชหลัก ประมาณ 3 เดือน
3. เมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด ที่ในพื้นที่ 1 ไร่ ควรใช้อัตราเมล็ดตามแต่ชนิดของพืช ดังนี้
-ปอเทือง โสนอินเดีย โสนคางคก โสนไต้หวัน ถั่วพร้า และถั่วเขียว ให้ใช้ 5 กิโลกรัม/ไร่
-ถั่วเหลือง ถั่วพุ่ม ถั่วนา ให้ใช้ 8 กิโลกรัม/ไร่
-ถั่วลาย ถั่วเสี้ยนป่า คาโลโปโกเนียมให้ใช้ 2 กิโลกรัม/ไร่
วิธีการใช้พืชปุ๋ยสด มีวิธีใช้ได้ 3 วิธี คือ
1. ถ้าปลูกพืชสด ในพื้นที่แปลงใหญ่ เมื่อปลูกในระยะออกดอกเต็มแล้ว ให้ทำการตัดสับและไถกลบลงไปในพื้นที่นั้นได้เลย
2. ถ้าปลูกพืชสดแซมในระหว่างร่องของพืชหลักที่ทำการปลูก ให้ปลูกพืชสดหลังจากพืชหลักเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว
3. ถ้าปลูกพืชสดในพื้นที่รกร้างว่างเปล่า เมื่อปลูกในระยะออกดอกเต็มที่แล้ว ให้ทำการตัดสับเอาส่วนของพืชปุ๋ยสดนำมาใส่ในแปลงที่จะปลูกพืชหลักแล้วไถกลบลงไปในดิน
การตัดสับและไถกลบพืชปุ๋ยสดนั้น จำเป็นต้องพิจารณาถึงอายุของพืชปุ๋ยสดเป็นสำคัญ ระยะเวลาที่เหมาะสม ในการตัดสับ และไถกลบ ควรทำขณะที่ต้นพืชปุ๋ยสด เริ่มออกดอกไปจนถึงระยะดอกบานเต็มที่ เนื่องจากในระยะนี้เป็นช่วงเจริญงอกงามสูงสุด เมื่อไถกลบแล้วจะทำให้ปริมาณอินทรียวัตถุและธาตุไนโตรเจนสะสมอยู่ในดินสูงด้วย
นาย รัตวิ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี