ยึดกระบะขน‘น้ำมันเถื่อน’ สวมทะเบียน-แปลงเป็นรถซื้อของเก่าตบตาจนท.

เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 24 กรกฏาคม 2562 เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา หรือชุด ศปจร.ภ.จว.สงขลา นำโดย พล.ต.ต.ปรีดา เปี่ยมวารี ผบก.ภ.จว.สงขลา , พ.ต.อ.รัตน์นริศ ผิวเกลี้ยง ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา และ พ.ต.ท.ธงชัย คงวิมล รองผกก.สส.ภ.จว.สงขลา หัวหน้าชุดฯ ได้เข้าตรวจสอบรถกระบะต้องสงสัย 2 คัน จอดอยู่บริเวณที่ดินว่างในพื้นที่ หมู่ 5 ต.คลองหลา อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา หลังได้รับแจ้งว่าอาจเป็นรถที่บรรทุกสิ่งของผิดกฎหมาย หรือเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมา

จากการตรวจสอบพบว่ารถทั้ง 2 คันได้ติดตั้งรั้วไว้ท้ายรถกระบะ ซึ่งบรรทุกกระสอบของเก่ามีผ้าใบคลุมเอาไว้ ดูผิวเผินเหมือนรถรับซื้อของเก่าทั่วไป แต่ปรากฏว่าท้ายกระบะมีการดัดแปลงเป็นถังเหล็กใส่น้ำมันขนาด 2,000 ลิตร ซึ่งเป็นรถขนน้ำมันเถื่อนที่ใช้ขนน้ำมันดีเซล แต่ไม่มีน้ำมันอยู่ภายในถัง รวมทั้งไม่พบคนขับหรือผู้ที่แสดงตัวเป็นเจ้าของ และรถทั้ง 2 คันไม่ได้ล็อคประตู มีกุญแจเสียบไว้พร้อม เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดเอาไว้

คันแรกเป็นรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน บล 9033 อุดรธานี แต่เป็นป้ายปลอมที่ถูกยกเลิกเลขทะเบียนไปแล้ว และเป็นแผ่นป้ายที่ทำขึ้นมาเอง เพราะไม่มีพรายน้ำตราราชการกรมการขนส่ง ส่วนป้ายจริงของรถคันนี้ คือ ผต 1235 สงขลา

ส่วนอีกคันเป็นรถกระบะโตโยต้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตรวจค้นภายในรถพบป้ายทะเบียน ผจ 743 สงขลา ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนของรถกระบะคันอื่น ส่วนป้ายจริง คือ ผจ 371 นครศรีธรรมราช

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่ารถทั้ง 2 คันเป็นรถสำหรับใช้ขนน้ำมันเถื่อนโดยเฉพาะ และมีการสลับสับเปลี่ยนป้ายทะเบียนระหว่างป้ายจริงกับป้ายปลอมไม่ให้ซ้ำกัน และเป็นครั้งแรกที่มีการใช้วิธีเลียนแบบรถรับซื้อของเก่าได้อย่างแนบเนียน เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่พบพิรุธขณะที่ลักลอบขนน้ำมันเถื่อน เพราะคิดว่าเป็นรถรับซื้อของเก่าทั่วๆไปเพราะมีกระสอบบรรจุของเก่าอยู่เต็มท้ายรถ โดยน่าจะนำมาจอดไว้เพื่อรอเข้าไปขนน้ำมันจากฝั่งมาเลเซีย หรือไปรับจากคอกน้ำมันเถื่อนบริเวณแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย

เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดรถทั้งสองคันเอาไว้และจะเชิญผู้ที่ครอบครองรถทั้ง 2 คันมาสอบสวนอีกครั้งถึงที่มาที่ไปของรถทั้ง 2 คันว่าเป็นรถที่ถูกต้องหรือไม่ต่อไป