เกษตรกร อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี กว่า 80 ชีวิต รวมกลุ่มกันปลูกกระชายเป็น เกษตรแปลงใหญ่ โดยการส่งเสริมของกรมส่งเสริมการเกษตร วางแผนบริหารจัดการร่วมกันเพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต พัฒนาคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานและทำตลาดร่วมกัน สามารถรวบรวมผลผลิตส่งจำหน่ายตลาด ได้ราคาดีกว่าต่างคนต่างทำถึง 3 เท่าตัว
นายคำรน ยศสมบัติ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สำนักงานเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จ.กาญจนบุรี ดำเนินโครงการส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่มาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบันมีทั้งหมด 39 แปลง เป็นแปลงใหญ่ด้านพืช 36 แปลงและแปลงใหญ่ด้านปศุสัตว์ 3 แปลง สำหรับด้านพืชมีสมาชิกแปลงใหญ่ 2,270 ราย มีพื้นที่ดำเนินการทั้งหมด 31,429 ไร่ โดยหนึ่งในนั้นมีแปลงใหญ่กระชายอยู่ 1 แปลงที่อ.บ่อพลอย พื้นที่ดำเนินการ 488 ไร่ เกษตรกร 80 ราย ถือเป็นกลุ่มแปลงใหญ่ที่มีความเข้มแข็งและมีรูปแบบบริหารจัดการที่เป็นระบบทั้งด้านลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต รวมถึงพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตร และการตลาด จนผลิตกระชายคุณภาพป้อนตลาดทั้งในพื้นที่และตลาดใหญ่อย่างตลาดไทและตลาดสี่มุมเมือง
“การรวมตัวกันประกอบอาชีพในลักษณะเกษตรแปลงใหญ่ จะทำให้เกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้ และแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ภายใต้การสนับสนุน ส่งเสริมของทุกหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เข้ามาบูรณาการทำงานร่วมกันเพื่อก่อให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมาย 5 ด้านคือ ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต พัฒนาคุณภาพ/พัฒนาให้ได้มาตรฐาน การบริหารจัดการ และด้านการตลาด โดยเฉพาะในเรื่องของการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ ถือเป็นหัวใจสำคัญยุคในปัจจุบัน เนื่องจากผู้บริโภคต่างคำนึงถึงเรื่องของสุขภาพ หากเกษตรผลิตอาหารที่ดี ได้มาตรฐานและปลอดภัยตามระบบการเกษตรที่ดี (GAP) หรือผลิตตามแนวทางเกษตรอินทรีย์ ก็จะเป็นสินค้าที่ตลาดมีความต้องการสูงและจำหน่ายได้ราคาสูงขึ้นตามไปด้วย นี่จึงเป็นข้อดีของการทำเกษตรแบบแปลงใหญ่ ที่จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และมีความมั่นคง ยั่งยืน ในอาชีพต่อไป”
ด้าน นายประยุทธ จำนงกุล ประธานกลุ่มแปลงใหญ่กระชาย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เกษตรกรที่นี่ปลูกกระชายกันมานาน แต่ก่อนหน้านี้ต่างคนต่างปลูก ต่างคนต่างขาย ผลผลิตที่ได้มีทั้งมีคุณภาพและไม่มีคุณภาพ จึงมักถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง เกษตรกรจำหน่ายผลผลิตได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 12-25 บาทเท่านั้น แต่เมื่อรวมกลุ่มกันเป็นเกษตรแปลงใหญ่ ก็มีสำนักงานเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี และสำนักงานเกษตรอำเภอบ่อพลอย เข้ามาให้คำแนะนำองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาด รวมถึงให้คำแนะนำในการลดต้นทุนการผลิตด้วยการทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพจากวัสดุที่มีในท้องถิ่นไว้ใช้เอง ลดการใช้สารเคมี ทำให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรต่ำลง มีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังได้รับความรู้ในด้านการบริหารจัดการกลุ่ม เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งในการประกอบอาชีพในระยะยาวอีกด้วย ซึ่งหลังจากรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่แล้วเกษตรกรสามารถจำหน่ายผลผลิตได้เฉลี่ย 85-90 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากกระชายมีคุณภาพ มีขนาดใหญ่ สมบูรณ์
สำหรับกระชายที่ปลูกเป็นสายพันธุ์รากกล้วย ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีลักษณะรากยาว ตรงและอวบ เหมือนกับรากกล้วย ให้ผลผลิตค่อนข้างดี น้ำหนักมาก โดยผลผลิตที่ได้ ทางกลุ่มจะรวบรวมจากสมาชิกเพื่อส่งจำหน่ายให้กับตลาดโดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งมีตลาดรับซื้อทั้งในจังหวัดราชบุรี นครปฐม รวมถึงตลาดสี่มุมเมืองและตลาดไท โดยกระชายคุณภาพของกลุ่มจะมี 2 เกรดคือ กระชายร่วง ซึ่งเป็นกระชายที่เกิดจากแง่งที่อาจจะไม่สวยงามทั้งหมด แต่เรามาตัดแต่งคัดเลือกเฉพาะแง่งที่สมบูรณ์ออกมาเท่านั้น ซึ่งกระชายเกรดนี้จะจำหน่ายได้ราคาดี เนื่องจากพ่อค้านำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาไปคัดเลือกใหม่ ส่วนอีกเกรดคือ กระชายติดกอ ซึ่งประเภทนี้หากจะทำไปใช้ประโยชน์จะต้องเสียเวลาแยกหัว และยังต้องสูญเสียน้ำหนักจากส่วนที่ตัดทิ้งไป กระชายประเภทนี้จึงจำหน่ายได้ราคาต่ำกว่า
นายประยุทธบอกว่า กว่าจะรวบรวมเกษตรกรให้มาดำเนินการในลักษณะแปลงใหญ่ได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องสร้างความเข้าใจและทำตัวอย่างให้เกษตรกรเห็น ซึ่งโชคดีที่ตนมีประสบการณ์จากที่เคยสร้างกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกหน่อไม้ฝรั่งส่งออกประสบความสำเร็จมาแล้ว จึงได้นำมาประยุกต์ใช้ในการรวบรวมเกษตรกรผู้ปลูกกระชายให้เข้าสู่ระบบเกษตรแปลงใหญ่ โดยมีสำนักงานเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี และสำนักงานเกษตรอำเภอบ่อพลอยคอยเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำ ซึ่งเมื่อได้รวมกลุ่มแปลงใหญ่แล้ว เกษตรกรสามารถลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี จำหน่ายผลผลิตได้ราคาสูงขึ้น ส่งผลให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามลำดับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี