ทหาร-ตร.ปูพรมแกะรอย
ไล่ล่าโจรใต้
หลังบุกถล่มจุดตรวจร่วม
เจ้าหน้าที่พลีชีพ4เจ็บ3
แม่ทัพ4สั่งเยียวยาเต็มที่
สงขลาเพิ่มมาตรการเข้ม
เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ปูพรมแกะรอยเลือดกลุ่มคนร้ายก่อเหตุบุกปาระเบิดและยิงถล่มจุดตรวจร่วม ฐานชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) ปะกาฮารัง บ้านกอแลปิเละ อ.เมืองปัตตานี จนเกิดการยิงปะทะกันอย่างดุเดือด เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บอีก 3 ทางด้านแม่ทัพภาคที่ 4 สั่งเยียวยาให้ดีที่สุด พร้อมกำชับให้ควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิดขณะที่หน่วยงานด้านความมั่นคง จ.สงขลา เพิ่มมาตรการคุมเข้ม
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม เวลา09.30น.ที่ห้องแถลงข่าว ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2562เวลา 20.10น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้ระเบิดแสวงเครื่องชนิดขว้าง และอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจร่วม ชุดคุ้มครองตำบล(ชคต.)ปะกาฮารัง บ้านกอแลปิเละ หมู่ที่ 6.ตำบลปะกาฮะรัง อ.เมือง จ.ปัตตานี
เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต จำนวน 4 ราย คือ 1.จ.ส.อ.ชูธวัช มาศศรี อายุ 35 ปี (จนท.โครงฯ) สังกัด ร.153 พัน 2 เสียชีวิต ขณะนำส่ง รพ.ปัตตานี 2.สมาชิกอุสมาน ตาสาเมาะ อายุ 27 ปี เสียชีวิต ขณะนำส่ง รพ.ปัตตานี 3.นายอุสมาน บาซาร์ อายุ 26 ปี (ชรบ.)เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และ 4.นายอับดุลฟัตตา เส็มเหรม อายุ 25 ปี(ชรบ.) เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย คือ 1.สมาชิกไพศาล มูซอดี อายุ 30 ปี ถูกกระสุนปืนที่ท้องด้านขวา จำนวน 2 นัด ได้รับบาดเจ็บ 2.สมาชิกนิอามิน มะสาแม อายุ 25 ปีถูกกระสุนปืนบริเวณหน้าอก แขนขวาผิดรูป ได้รับบาดเจ็บและ3.สมาชิกรุสดี ตาสาเมาะ อายุ 24 ปี มีอาการแน่นหน้าอก ไม่มีบาดแผล ได้รับบาดเจ็บ
หลังก่อเหตุคนร้าย ได้โปรยตะปูเรือใบ และเผายางรถยนต์บนถนนสาย 418 ทำให้รถที่สัญจรได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง โดยคนร้ายได้นำอาวุธปืน M16 A2 จำนวน 1 กระบอก และอาวุธปืน HK33 จำนวน 4 กระบอก ของเจ้าหน้าที่หลบหนีไปด้วย
เบื้องต้น จากการเข้าตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 12 นัด กระสุนปืนขนาด 7.62 มม. จำนวน 2 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 มม. และขนาด 7.62 มม. รวมจำนวน 110 ปลอก ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังพบรอยเลือดของคนร้าย จำนวน 2 จุด ตามเส้นทางหลบหนี ซึ่งคาดว่า มีคนร้าย 2 ราย ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ได้ปูพรมแกะรอยเลือดกลุ่มคนร้าย ปิดล้อมพื้นที่ และเร่งตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดในเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายเข้าก่อเหตุและหลบหนี รวมถึงประสานสถานีอนามัย หากพบคนเจ็บจากกระสุนปืนให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
พ.อ.ธนาวีร์ สุวรรณรัตน์กล่าวต่อว่าพล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 ในฐานะผอ.รมน.ภาค4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้การช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้นให้ดีที่สุด พร้อมทั้งได้มอบหมายให้ พล.ท.จตุพร กลัมพสุต รอง ผอ.รมน.ภาค4 สน. กำกับดูแลและควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
พร้อมกันนี้พล.ท.พรศักดิ์ยังสั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี สนธิกำลังเข้าทำการช่วยเหลือ ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี พร้อมแจ้งกำลังภาคประชาชนให้ช่วยกันตรวจสอบในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค4สน. จะยังคงยึดมั่นตามแนวทางสันติวิธีภายใต้หลักกฎหมาย โดยจะเร่งรัดบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด
ขณะที่หน่วยงานด้านความมั่นคงใน จ.สงขลา ได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มเหตุไม่สงบ โดยตั้งจุดตรวจสอบบุคคล รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่ผ่านเข้าตัวเมือง ทั้ง อ.เมือง อ.หาดใหญ่ อ.สะเดา และ 4 อำเภอรอยต่อ 3 จังหวัดชายแดนใต้ หลังกลางดึกที่ผ่านมาเกิดเหตุคนร้ายซุ่มโจมตีฐานชุดคุ้มครองตำบล(ชคต.) ปะกาฮารัง บ้านกอแลปิเละ ต.ปะกาฮารัง อ.เมืองปัตตานี ขณะที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาเน้นย้ำกำลังพลเพิ่มความละเอียดรอบคอบและระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่
ทางด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เดียวกันนี้ว่า ได้แสดงความเสียใจไปแล้ว และได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้นแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี