เรื่องราวของกัญชายังคงยึดพื้นที่สื่อได้เป็นรายวัน มากบ้าง น้อยบ้าง แต่ก็มีประจำ... ตั้งแต่ข่าวหน้า 1 ไปจนถึงหน้าในอีกหลายๆ หน้า ทั้งเชียร์กันสุดกู่ ทั้งดึงๆ กันไว้ให้หันมาดูอีกด้านหนึ่งที่อันตราย แต่ฝ่ายที่เชียร์ออกจะเสียงดังกว่า ประกอบกับถูกใจผู้บริโภคที่เข้าใจว่าบรรดาโรคร้ายที่เป็นอยู่หายไปสิ้นเพราะฤทธิ์ของกัญชา
ก่อนหน้านี้ ศิลปินเพลง อย่างแอ๊ด คาราบาว ไปนั่งฟัง เดชา ศิริพัฒน์ ผู้โด่งดังจากการแอบผลิตน้ำมันกัญชา โดยอ้างว่าเพื่อแจกจ่ายให้ผู้ป่วยไปใช้ในการบำบัดโรคมะเร็ง จนซาบซึ้ง และพาลตำหนิตัวเองว่าเข้าใจผิดไปที่แต่งเพลง “กัญชา” มีเนื้อหาว่าด้วยโทษของกัญชาเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะประโยคจบของเพลงที่บอกว่า “เส้นทางสุดท้าย...นอนตายใต้ต้นกัญชา”
ต้องบอกน้าแอ๊ดว่า เพลง “กัญชา” ในบริบทเมื่อปี พ.ศ. 2525 หรือประมาณ 37 ปีก่อน คือ พืชเสพติด ตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ก็ถูกต้องตามนั้น เพราะการเสพกัญชา หรือที่ภาษาวัยรุ่นว่า พี้กัญชา เป็นประจำนั้นเป็นการทำลายตัวเอง เพราะกัญชามีฤทธิ์ทำลายการทำงานของอวัยวะได้หลายส่วน ทำให้ร่างกายอ่อนแอ เกิดโรคต่างๆ ได้ง่าย ทำลายสมรรถภาพร่างกาย ไม่สามารถทำงานได้ โดยเฉพาะงานที่ใช้แรงกาย ความคิด และการตัดสินใจ
กัญชายังทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ติดเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่าย ยิ่งร้ายไปกว่านั้น ผู้เสพกัญชาในปริมาณมากๆ มักจะเป็นโรคจิตในภายหลัง มีอาการหวาดระแวง เลื่อนลอย สับสน ฟั่นเฟือน ประสาทหลอน และสภาพจิตเสื่อมอาการเหล่านี้เหมือนในเพลง “กัญชา” ที่น้าแอ๊ดว่าไว้
ส่วนการนอนตายใต้ต้นกัญชา ก็มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะกัญชามีหลายพันธุ์ บางพันธุ์สูงได้ถึง 2 เมตร ถ้าปลูกกัญชาหลายๆ ต้น ก็เป็นร่มเงาให้นอนพี้อยู่ใต้ต้นจนตายได้เหมือนกัน
มา พ.ศ. นี้ น้าแอ๊ดได้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับกัญชา เป็นข้อมูลที่แตกต่างออกไปจากเดิมที่ระบุว่ากัญชาเป็นยาเสพติด มา พ.ศ. นี้ มีการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ เชื่อว่ารักษาโรคมะเร็งได้ น้าแอ๊ดจึงแต่งเพลงเรียกร้องให้ปฏิวัติกัญชา “เพราะพืชนี้คือโอกาส ช่วยชนในชาติกู้ชีวิตแต่ไม่แพงแถมยังได้ผลชะงัก มะเร็งที่หนักขั้นคีโมฉายแสง ผู้ป่วยอ่อนล้าโรยแรง หันมาพึ่งกัญชายืดชีวาถึงหายขาด...”
กัญชาของน้าแอ๊ดจึงเป็นยาวิเศษ..เป็น มหัศจรรย์กัญชา....มีแต่ประโยชน์ ไม่มีโทษเสียแล้ว....
ไม่เพียงแต่กัญชาเท่านั้น ล่าสุดน้าแอ๊ดยังแต่งเพลงใหม่ถามพี่ตู่ด้วยว่า “เอาไงดีครับพี่ตู่”
“คนไทยกำลังตายผ่อนส่ง เพราะภาครัฐยังปักธงให้ใช้สารพิษอันตราย พาราควอต คลอร์ไพริฟอส ไกลโฟเซต ต่างประเทศเขาเลิกใช้ แต่เมืองไทยกลับยิ่งใช้ เพิ่งจะรู้ว่ากินผักผลไม้ ยิ่งกินยิ่งตาย เอาไงดีครับพี่ตู่....”
ไม่รู้ว่าใครให้ข้อมูลน้าแอ๊ดเอาไปแต่งเพลง เนื้อเพลงไม่กี่บรรทัดของน้าแอ๊ด สรุปสั้นๆ ได้ใจความ แต่ไม่ถูกต้อง...
เรื่องราวของสารเคมี 3 ชนิดนี้ เปรียบเหมือนเรื่องราวของกัญชา แต่เป็นในทางกลับกัน วันก่อนกัญชาคือยาเสพติด วันนี้กัญชาคือยาวิเศษ ส่วนสารเคมี 3 ชนิดนี้ เมื่อก่อนคือสารเคมีที่แสนวิเศษ โดยเฉพาะ พาราควอต และไกลโฟเซต เป็นสารเคมีกำจัดวัชพืช หรือที่น้าแอ๊ดเรียกว่ายาฆ่าหญ้า ที่กำจัดวัชพืชอย่างได้ผล ช่วยเกษตรกรประหยัดต้นทุนค่าจ้างแรงงาน เกษตรกรที่ใช้สารเคมีทั้ง 2 ชนิดนี้ ไม่มีใครได้รับผลกระทบจากการใช้ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ หรือสิ่งแวดล้อม
มาวันนี้มีคนออกมาบอกว่า สารเคมี 2 ชนิดนั้น คือ สารเคมีที่มีพิษร้ายแรง เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้คนและสิ่งแวดล้อม โดยอ้างอิงผลวิจัยที่ไม่สามารถอธิบายให้ความกระจ่างชัดเจนถึงที่มาที่ไป วิธีการศึกษาวิจัย วิธีการเก็บข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูลที่อยู่บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ได้ แถมยังพยายามทำลายภาพลักษณ์ของผลผลิตทางการเกษตรของไทยด้วยการใช้คำว่า “แผ่นดินอาบสารพิษ” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการยกเลิกการใช้ โดยอ้างว่าประเทศอื่นยกเลิกการใช้กันหมดแล้ว แต่ไม่เคยพูดถึงบางประเทศที่ยกเลิกการใช้ไปแล้ว ต้องกลับมาใช้ใหม่ เพราะเกษตรกรเดือดร้อน ไม่มีสารกำจัดวัชพืชใช้ เกิดความเสียหายต่อการผลิตพืชผลของประเทศ ไม่สามารถผลิตได้ในปริมาณที่ประเทศคู่ค้าต้องการได้
ตามธรรมดา เหรียญย่อมมี 2 ด้านเสมอ ทั้งกัญชา และสารเคมีที่กล่าวถึง ต่างก็มีทั้งประโยชน์และโทษ น้าแอ๊ด ซึ่งมีอัจฉริยะทางด้านดนตรี และเป็นศิลปินแห่งชาติ มีอิทธิพลต่อประชาชนที่นิยมชมชอบเนื้อเพลงที่น้าสร้างสรรค์ คือขนมหวาน และยาพิษ สำหรับคนเสพด้วยเช่นกัน น้าคงต้องเลือกว่าจะยื่นอะไรให้คนเสพ ถ้าเป็นประเด็นที่ยังมีข้อขัดแย้งในสังคม น้าไม่ควรชี้นำด้านใดด้านหนึ่ง หรือน้าว่าไง...
แว่นขยาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี