วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
อ้อยโรงงานเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งมีพื้นที่ปลูก 326,923 ไร่ ปลูกมากในเขตอำเภอบ้านไร่ ลานสัก ห้วยคต หนองฉาง สว่างอารมณ์ ทัพทัน และหนองขาหย่าง ให้ผลผลิตอ้อยสดประมาณ 3,269,230 ตัน โดยมีโรงงานอุตสาหกรรมน้ำตาลบ้านไร่ และโรงงานน้ำตาลมิตรเกษตร อ.สว่างอารมณ์ เป็นแหล่งรับซื้อผลผลิตอ้อยจากเกษตรกร เพื่อแปรรูปเป็นน้ำตาลทราย
เมื่อช่วงวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีตั๊กแตน แมลงศัตรูพืชสำคัญของอ้อยโรงงานระบาดหนัก กัดกินแปลงอ้อยของเกษตรกรที่ต.บ้านใหม่คลองเคียน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดอุทัยธานีจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าเป็นตั๊กแตนไฮโลไกลฟัส (ตั๊กแตนข้าว) กัดกินแปลงอ้อยของเกษตรกร หมู่ที่ 2,8 ต.บ้านใหม่คลองเคียน และหมู่ที่ 4,6 ต.วังหิน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี รวม 4 หมู่บ้าน พบพื้นที่ระบาด 60 ไร่ และพื้นที่เฝ้าระวัง 300 ไร่ มีเกษตรกรได้รับผลกระทบทั้งหมด 19 ราย โดยพบร่องรอยใบอ้อยถูกตั๊กแตนกัดกินทำลายแหว่งเว้า ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบให้ผลผลิตอ้อยในปี 2563 ลดลง
ดังนั้น สำนักงานเกษตรจังหวัดอุทัยธานีร่วมกับสมาคมชาวไร่อ้อยอุทัยธานีไทยเศรษฐ์ โรงงานอุตสาหกรรมน้ำตาลบ้านไร่ และโรงงานน้ำตาลมิตรเกษตร อ.สว่างอารมณ์ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเกษตรกรในต.บ้านใหม่คลองเคียน และต.วังหิน อ.บ้านไร่ จึงกำหนดจัดงานวันรณรงค์กำจัดตั๊กแตนในแปลงอ้อยขึ้น เพื่อลดปริมาณตั๊กแตนในพื้นที่ระบาดให้ลดลง รวมถึงให้เกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันกำจัดอย่างถูกวิธี
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการจัดงานวันรณรงค์กำจัดตั๊กแตนในแปลงอ้อย เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่หมู่ที่ 8 บ้านอุดมสุข ต.บ้านใหม่คลองเคียน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ว่า การแพร่ระบาดของตั๊กแตนไฮโลไกลฟัส (ตั๊กแตนข้าว) มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ส่วนราชการรวมทั้งภาคเอกชนต้องบูรณาการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของตั๊กแตนในแปลงอ้อยให้มีปริมาณลดลงและไม่ให้ขยายวงกว้าง ซึ่งจากการดำเนินการของสำนักงานเกษตรจังหวัดอุทัยธานี ได้ประชุมชี้แจงเพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจในการป้องกันกำจัดให้เกษตรกรตำบลวังหิน เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พร้อมระดมทีมมือปราบตั๊กแตนซึ่งเป็นเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยบ้านจัน ต.หนองจอก อ.บ้านไร่ เข้ากำจัดด้วยวิธีกล คือการใช้มือจับในเวลากลางคืน ผลดำเนินการจับตั๊กแตนครั้งนี้จำนวน 6 วัน ที่ผ่านมา มีเกษตรกรเข้าร่วมจับตั๊กแตน 155 แรง จับตั๊กแตนได้ทั้งหมด 346 กิโลกรัม รวมตั๊กแตนทั้งหมด 429,040 ตัว โดยประมาณ มีมูลค่าจำหน่าย 34,600 บาท แต่จากการตรวจสอบพบว่ายังมีตั๊กแตนแพร่ระบาดอยู่ในพื้นที่แปลงอ้อยของเกษตรกรและพื้นที่ใกล้เคียง จึงจำเป็นต้องดำเนินการควบคุมปริมาณของตั๊กแตนที่ระบาดให้ลดลง
นอกจากนี้ ตั๊กแตนที่จับได้ดังกล่าว เกษตรกรนำไปจำหน่ายในชุมชนของตนเอง ราคากิโลกรัมละ 100 – 150 บาท ปรากฏว่าขายดีมาก ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด สร้างรายได้ให้เกษตรกรได้อีกทางหนึ่ง
“อยากให้หมู่บ้านแห่งนี้เป็นชุมชนต้นแบบในการป้องกันกำจัดตั๊กแตนด้วยวิธีกล คือการใช้มือจับ ขยายผลไปหมู่บ้านหรือชุมชนอื่น หากพบการระบาด เนื่องจากเป็นวิธีกำจัดที่มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ดินและน้ำ พร้อมจะนำแนวคิด “อุทัยธานีโมเดล” กำจัดตั๊กแตนด้วยวิธีการจับไปเผยแพร่ผลการดำเนินงานต่อไป” นางสาวมนัญญา กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี