29 กรกฎาคม 2562 มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ค. น.ส.รสริน วงศ์ใหญ่ ได้ไปลงบันทึกประจำวัน เพื่อแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เชียงแสน ว่านายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ ซึ่งเป็นบิดา อายุ 54 ปี เป็นประธานสมาคมส่งออกสัตว์ อ.เชียงแสน ได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา และปรากฎข้อความและภาพจากกลุ่มคนติดอาวุธว่านายสิงห์แก้ว ได้ถูกจับกุมตัวอยู่ในฝั่ง สปป.ลาว และขอให้ญาติหรือผู้ที่ต้องการช่วยเหลือให้นำเงินไปไถ่ตัวจำนวน 5 ล้านบาท โดยมี ร.ต.อ.ประสงค์ สมพรเสริม รองสารวัตรสอบสวน เป็นเจ้าของคดี
โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่นายสิงห์แก้ว ได้เดินทางออกจากประเทศไทยผ่านทางจุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ หมู่บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน แล้วข้ามไปยังฝั่งเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อไปทำธุระแล้วพบว่าไม่ได้เดินทางกลับมาประเทศไทยตามปกติ ทำให้ลูกสาวได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ว่าบิดาได้หายไป และได้มีคนส่งข้อความและคลิปวิดิโอมาให้โดยเป็นภาพของนายสิงห์แก้ว สภาพถูกยิงเข้าที่บริเวณต้นขวาขวา และมีรอยเลือดติดอยู่ที่กางเกง ที่หน้า รวมทั้งยังถูกปืนจี้หัว จากนั้นมีข้อความขู่ว่าให้โอนเงินเข้าไปยังบัญชีของธนาคารแห่งหนึ่งในประเทศไทยด้วย
ทั้งนี้ล่าสุด นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้มอบหมายให้ นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอเชียงแสน ผกก.สภ.เชียงแสน กอ.รมน.เชียงราย ทหารพราน ร้อย ทพ.3103 หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ให้เร่งติดตามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และประสานกับทางเจ้าเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ให้การช่วยเหลือแล้ว ทั้งนี้ยังพยายามติดต่อกับกลุ่มผู้ที่จับกุมตัวนายสิงห์แก้วเพื่อจะได้หาทางช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนักธุกิจชายแดนทั่วไปนั้นพบว่า ได้ทำการค้าขายกับพ่อค้าชาวจีนด้วยการส่งออกสินค้าโคและกระบือ สุกร รวมทั้งอาจจะมีประเภทสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ เช่น น้ำตาล ฯลฯ เช่นเดียวกับกรณีของนายสิงห์แก้ว ก็มีการค้าขายสินค้าหลายประเภทกับพ่อค้าสปป.ลาว และพ่อค้าชาวจีน ซึ่งเมื่อมีการตกลงทางการค้ากันแล้วปรากฎว่าไม่สามารถจัดหาสินค้าไปส่งให้ได้ทันเวลาที่กำหนดหรือคงค้างค่างวด ซึ่งมีการซื้อขายน้ำตาลเป็นวงเงินกว่า 15 ล้านบาท ทำให้กลุ่มที่ค้าขายด้วยจึงได้เรียกไปเจรจาหารือเพื่อหาทางออกในฝั่ง สปป.ลาว จนถูกจับตัวไปดังกล่าว
อย่างไรก็ตามล่าสุดมีรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ของ สปป.ลาว ได้ทราบเรื่องและได้จัดกำลังชุดพิเศษ ออกติดตามหาตัวนายสิงห์แก้ว เพื่อให้การช่วยเหลืออีกทางหนึ่งแล้ว
ทั้งนี้ปัจจุบันธุรกิจส่งออกโคและกระบือมีชีวิตลุ่มน้ำโขงที่ อ.เชียงแสน ถือเป็นการส่งออกรายใหญ่โดยในปี 2561 มีการส่งออกไปมากกว่า 22,052 ตันมูลค่ากว่า 1,766,935,500 บาท สุกรมีชีวิต น้ำหนัก 12,150 ตัน มูลค่า 708,091,500 บาท และเฉพาะเดือน มิ.ย.2562 ที่ผ่านมาพบว่า มีการส่งออกโคและกระบือไปแล้วน้ำหนัก 1,540 ตัน มูลค่ากว่า 133,924,500 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี