แนะชาวสวนดูแลผลผลิตรับอากาศเปลี่ยน

แนะชาวสวนดูแลผลผลิตรับอากาศเปลี่ยน

วันพุธ ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562, 06.00 น.
Tag :

นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า แม้ระยะนี้เข้าฤดูฝนแต่เกิดฝนทิ้งช่วงมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 ในหลายพื้นที่ของประเทศ ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมีเพียงร้อยละ 49 และน้ำมีไม่พอทำการเกษตร กรมจึงขอให้ชาวสวนผลไม้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะช่วงอากาศร้อนจัดและมีฝนตกฉับพลันจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของต้นไม้ผลมาก เพราะไม้ผลช่วงนี้ผลผลิตอยู่ในระยะเกิดตาดอก เป็นช่วงสำคัญที่จะพัฒนาเป็นช่อดอกอีก 15-20 วัน แต่หากระยะนี้มีฝนตกลงมากะทันหัน จะทำให้ต้นไม้ผลปรับตัวเปลี่ยนแปลงจากการเกิดตาดอกไปเป็นแทงใบอ่อนแทน

ดังนั้น เกษตรกรจึงจำเป็นต้องปรับตัวหลายมิติ ได้แก่ 1. กรณีลงทุนทำสวนใหม่ ควรวางแผนผลิตพืชให้เติบโตภายใต้สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง มีแหล่งน้ำสำรองกรณีกระทบแล้งควรมี wind break รองรับป้องกันลมพายุ มีทางระบายน้ำที่รวดเร็วกรณีฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลัน 2. เรียนรู้ปฏิทินรอบการผลิตพืชตลอดทั้งปีว่าต้องดูแลรักษาอย่างไร อีกทั้ง การดูแลช่วงวิกฤตเสี่ยงเกิดตาใบแทนตาดอก ต้องบำรุงต้นโดยใช้ ปุ๋ยฟอสฟอรัสสูง เช่น สูตร 0-52-34 ช่วงฝนตกชุก ก็เป็นวิธีช่วยยับยั้งการแตกใบอ่อนได้ดีมาก แต่ไม่ควรพ่นติดต่อกันเกิน 3 ครั้ง เพราะจะทำให้ตายอดของพืชแห้งและบอดได้ ซึ่งจะดึงให้เป็นช่อดอกได้ยาก ข้อควรระวัง ช่วงนี้อาจมีลมกระโชกแรงฝนตกหนักเกิดขึ้น บางครั้งยังมีลูกเห็บตกลงมาด้วย พายุฟ้าคะนองนี้เกิดขึ้นช่วงเวลาสั้น ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผลไม้ที่อยู่ในระยะพัฒนาจากผลอ่อนใกล้จะเป็นผลแก่ พร้อมเก็บเกี่ยวต้องเสียหาย นอกจากนี้ บางช่วงอากาศจะแห้งมากเอื้อต่อการเกิดไฟป่า จึงขอให้ระวังการใช้เชื้อเพลิงทำกิจกรรมในระยะนี้


สำหรับการปรับตัวของเกษตรกรเพื่อบริหารจัดการผลผลิตให้มีคุณภาพดี กรณีตัวอย่างมังคุดปีนี้ผลผลิตมีแนวโน้มการผลิตสูงขึ้นมากกว่าปีที่แล้ว ตลาดมังคุดเปิดกว้าง เกษตรกรน่าจะขายได้ราคาดีแต่จากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงส่งผลต่อคุณภาพผลมังคุดและผลไม้ชนิดอื่น ซึ่งเกษตรกรควรเตรียมการดังนี้ 1. วางแผนผลิตและดูแลรักษาให้ถูกต้องและมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ 2. ตัดแต่งกิ่ง เพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง ไม่ต้านลม ทยอยเก็บผลผลิต เพื่อลดความเสียหาย 3. คัดแยกผลที่ไม่สมบูรณ์ตกเกรด เพื่อลดน้ำหนักบนกิ่งและต้นลง 4.ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศ 5. คาดคะเนช่วงเวลาที่ผลผลิตจะออกสู่ตลาดล่วงหน้า หาตลาดล่วงหน้ารองรับ ซื้อขายผลผลิตในรูปแบบบกลุ่ม ทำให้มีอำนาจต่อรอง 6. มี packaging ที่เหมาะสม นอกจากนี้ ชาวสวนไม้ผลต้องเตรียมพร้อมรับมือภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วงด้วย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top