“ผบช.สตม.”รุดดูคดีลักพาตัวนักธุรกิจเชียงแสน พบหนีรอดหวุดหวิดรอกลับไทยสอบละเอียดอีกรอบ เปิดนาทีสิ้นอิสรภาพก่อนรอดหวุดหวิด จ่อเรียกสอบเจ้าของบช.โยงแก๊งอุ้ม
30 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) เชียงแสน จ.เชียงราย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) ได้เดินทางไปตรวจสอบความคืบหน้ากรณีนายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ อายุ 54 ปี ประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน ถูกอุ้มเรียกค่าไถ่จำนวน 5 ล้านบาท โดยคนร้ายส่งข้อความและคลิปถูกจ่อด้วยปืนส่งให้ญาติ โดยเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ได้ช่วยเหลือเอาไว้ได้หลังจากถูกลักพาตัวในฝั่งเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
ทั้งนี้ ทาง พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.ตม.5 , พ.ต.อ.ณัชธกฤต ปิ่นปัก ผกก.ด่าน ตม.เชียงแสน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้แจ้งให้ทราบว่า ปัจจุบันได้มีการประสานไปยังทางเมืองต้นผึ้งอย่างต่อเนื่อง และทางการ สปป.ลาว ยังคงดูแลนายสิงห์แก้ว โดยยังไม่ได้แจ้งว่าจะมีกำหนดส่งตัวนายสิงห์แก้วกลับประเทศไทยเมื่อไร เพราะอยู่ระหว่างสอบปากคำตามขั้นตอนของ สปป.ลาว
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ได้พาญาติทั้งภรรยาและลูกข้ามไปพบกับนายสิงห์แก้วแล้ว ซึ่งทั้งหมดต่างดีใจและห่วงใยนายสิงห์แก้วอย่างมาก เพราะยังมีอาการอิดโรย เนื่องจากได้หลบหนีการควบคุมตัวของกลุ่มคนร้ายก่อนที่เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว จะเข้าไปช่วยเหลือ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้สรุปเหตุการณ์กรณีลักพาตัวนายสิงห์แก้วว่าเหตุเกิดตั้งแต่ 13.00 น.วันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยนายสิงห์แก้ว นั่งเรือจากจุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ข้ามไปยังจุดผ่านแดนถาวรของเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เมืองต้นผึ้ง ที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกัน นายสะหวาดและนางสมจิด ซึ่งเป็นคนขับรถชาวลาว และนายจุ๋ม หุ้นส่วนของบริษัทนายสิงห์แก้ว ซึ่งมีลักษณะคล้ายคนจีนพูดภาษาไทยไม่ได้เป็นคนไปรับ เพื่อจะพาไปพบกับนายอาเหว่ยชาวจีนที่รัฐวิสาหกิจฟาร์มหมูบ้านร่มเย็น แขวงบ่อแก้ว โดยมีนายสะหวาดเป็นคนขับ
แต่ขณะเดินทางเวลาประมาณ 15.00 น.เมื่อไปถึงบริเวณบ้านดอนสวรรค์ได้มีกลุ่มคนขับรถเข้าขวาง แล้วใช้ปืนบังคับให้เดินทางไปกับรถอีกคนหนึ่งโดยไม่ทราบปลายทาง
ต่อมาเมื่อปรากฏข้อความและคลิปเรียกค่าไถ่แล้วทำให้เจ้าหน้าที่ไทยประสานขอความช่วยเหลือไปยังเมืองต้นผึ้งให้ช่วยติดตามค้นหา กระทั่งเวลา 11.20 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ได้พบตัวนายสิงห์แก้วสภาพไม่สวมเสื้อโดยมีเพียงกางเกงยีนส์สีเข้มเดินอยู่ด้านหลังโรงแรมแห่งหนึ่งของโครงการคิงส์โรมันซึ่งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ห่างออกไปประมาณ 700 เมตร เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว จึงให้การช่วยเหลือและพาไปตรวจร่างกายไม่พบบาดเจ็บรุนแรง โดยร่องรอยที่เคยสงสัยว่าถูกยิงด้วยปืนที่ขาขวานั้น เป็นเพียงบาดแผลเล็กน้อย ส่วนตามตัวมีแผลจากการหลบหนีแต่มีอาการอิดโรย
ด้าน พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า จากการเดินทางข้ามไปพบตัวและสอบถามผู้เสียหายก็ทราบว่าสุขภาพยังดีและระบุว่าผู้ที่ลงมือลักพาตัวเข้าไปเท่าที่เห็นมีอยู่จำนวน 3 คน และหลังจากถูกควบคุมตัวได้ระยะหนึ่งเขาก็หลบหนีไป จนได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ สปป. ลาว ล่าสุดได้รับการดูแลอยู่ที่เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ซึ่งก็แสดงให้เห็นความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย-สปป.ลาว ทำให้สามารถกดดันจนทำให้การช่วยเหลือผู้เสียหายให้ปลอดภัยมาได้
“คดีนี้ต้องเข้าใจว่าเกิดขึ้นในฝั่ง สปป.ลาว ดังนั้นทางการลาวจึงอยู่ระหว่างการสอบปากคำขยายผลจึงยังไม่สามารถรับตัวกลับในวันนี้ได้ แต่จะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในฝั่งไทยเวลา 09.00 น.วันที่ 31 ก.ค.2562 ที่ อ.เชียงแสน เพื่อประสานไปยังทางการ สปป.ลาว อีกครั้งหนึ่ง โดยทางญาติก็อยากให้กลับมาเร็วๆ เพื่อจะได้พาตัวไปรักษาตัว ส่วนเรื่องประเทศไทยเราทำได้คือกรณีมีการข่มขู่ให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง โดยพบชื่อเจ้าของบัญชีนั้นทางพนักงานสอบสวนที่ได้รับแจ้งก็คงเรียกตัวไปสอบปากคำต่อไป” พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี