อนุสรณ์ นาคาศัย เด็กหนุ่มชาวตำบลโพนางดำตก อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ที่เกิดมาในตระกูลของนักการเมือง ที่พ่อเริ่มชีวิตนักการเมืองจากการเป็นกรรมการสุขาภิบาล พี่ชายเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และในปัจจุบันตัวนายอนุสรณ์เองนั่งตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท โดยชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ต่อเนื่องแบบไร้คู่แข่ง ย่อมมีอะไรที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
แรกเริ่มต้นแบบที่ทำให้สนใจการเมือง ย้อนไปเมื่อ 40กว่าปีที่แล้วสมัยที่ยังเด็ก ได้เห็นตัวอย่างจากพ่อซึ่งขณะนั้นเป็นกรรมการสุขาภิบาล ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา ภาพที่ผู้เป็นพ่อได้มีโอกาสช่วยเหลือชาวบ้าน สร้างความเจริญนานัปการให้กับตำบล ทำให้รักและชอบบทบาทหน้าที่ เป็นตัวแทนของชาวบ้านได้ทำงานให้ประชาชนในพื้นที่ถิ่นเกิด เมื่อเติบโตได้เข้าไปเรียนหนังสือที่ กรุงเทพฯ ได้พบเห็นความเจริญของเมืองหลวงในแง่มุมต่างๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์และรอวันเวลากลับมาพัฒนาบ้านเกิด
แรงผลักดันจากพี่ชาย กระทั่งวันหนึ่งที่ นายอนุชานาคาศัย พี่ชายได้ลงเล่นการเมืองระดับประเทศโดยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ชัยนาท (สส.) จึงได้มาร่วมทำงานช่วยพี่ชายลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งผลการเลือกตั้งในครั้งนั้น นายอนุชา รับเลือกเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ จ.ชัยนาทเข้าสู่สภาได้สำเร็จ จากนั้นมานายอนุสรณ์ ก็ลงพื้นที่ ทั้งงานราษฎร์ งานรัฐทำให้เป็นที่รู้จักของชาวบ้านในเวลาอันรวดเร็ว
ก้าวแรกกับการเมือง เมื่อมีการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ด้วยการสนับสนุนจากทั้งพี่ชายและคนรอบข้าง นายอนุสรณ์ จึงตัดสินใจลงรับสมัครเลือกตั้งนำทีมลงพื้นที่หาเสียงแบบหามรุ่งหามค่ำผลจากความเหน็ดเหนื่อย ไม่ได้ทำให้นายอนุสรณ์ ผิดหวัง เมื่อได้รับเลือกตั้งให้เป็น สจ. และได้รับความไว้วางใจเลือกให้เป็นประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตั้งแต่สมัยแรกของการเป็น สจ. ซึ่งเป็นประธานที่มีอายุน้อยในขณะนั้นสร้างความน่าสนใจให้การเมืองท้องถิ่นของ จ.ชัยนาทเป็นอย่างมาก
ก้าวสู่ตำแหน่งสูงสุดของสภา เมื่อเป็น สจ.จนครบวาระ การลงรับสมัครครั้งใหม่ก็เริ่มขึ้นโดยในครั้งนี้จากแรงสนับสนุนของเพื่อน
สจ.ด้วยกันและประชาชน ให้นายอนุสรณ์ ลงชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท เมื่อวิเคราะห์ไตร่ตรองอยู่พอควร จึงได้ตัดสินใจลงชิงตำแหน่งนายกฯ ตามเสียงเรียกร้องของประชาชนและทีมงาน เมื่อลงชิงตำแหน่งบนยอดสูงสุดขององค์กร การหาเสียงก็หนักขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วย ในครั้งนั้นนายอนุสรณ์ ลงพื้นที่แบบชนิด 7 วันไม่มีพัก ซึ่งผลการเลือกตั้งออกมาในครั้งนั้น จ.ชัยนาทก็ได้ผู้บริหารสูงสุดขององค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีอายุน้อยและเติบโตทางการเมืองอย่างรวดเร็ว ชื่อ อนุสรณ์ นาคาศัย
งานใหญ่เมื่อต้องรับหน้าที่ฟื้นฟูสวนนก ที่กำลังซบเซา เมื่อก้าวขึ้นมารับตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท ในปี 2551 นายอนุสรณ์ ก็ต้องพบกับโจทย์สำคัญข้อหนึ่งคือ การพลิกฟื้นสวนนกชัยนาท ที่ในขณะนั้นอยู่ในช่วงซบเซา และมาเจอปัญหาใหญ่ในครั้งที่มีปัญหาไข้หวัดนกระบาดทำให้นกล้มตายลงจำนวนมาก นายอนุสรณ์ จึงได้ริเริ่มแนวคิดเปิดประตูหลายบาน โดยการจัดแสดงด้านอื่นๆ นอกจากนกเพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลับสู่สวนนกอีกครั้งหนึ่ง การตัดสินใจครั้งนี้เองที่ทำให้มิติใหม่ของสวนนกชัยนาทเริ่มขึ้น ทำให้มีการก่อสร้างอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ อาคารท้องฟ้าจำลอง และสวนน้ำอวกาศขึ้น พร้อมกันก็คือภาระกิจการสร้างภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวและเรียนรู้ธรรมชาติ ให้ติดหูติดตาสังคมระดับประเทศ และระดับสากล
จากความมุ่งมั่นทุ่มเท นำความเจริญและแปลกใหม่ที่จะนำมาดึงดูดนักท่องเที่ยวและความเจริญทางเศรษฐกิจเข้าสู่จังหวัดชัยนาท เวลาผ่านไปในวาระการดำรงตำแหน่งฐานะนายก อบจ.สมัยแรกก็สิ้นสุดลงในปี 2555 และมีการเลือกตั้งใหม่ทันทีโดยนายอนุสรณ์ ลงสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.สมัยที่ 2 แบบไร้คู่แข่งลงสมัคร ทำให้นายอนุสรณ์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ในขณะที่กิจการของสวนนกชัยนาทก็ดีวันดีคืนผลจากการทำการตลาดและการประชาสัมพันธ์สมัยใหม่ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนสวนนกชัยนาทเดือนละกว่า 1 ล้านคน งานในนโยบายอื่นๆ ก็ดำเนินไปอย่างเต็มประสิทธิภาพทั้งการพัฒนาสังคม สาธารณูปโภค และการกีฬา...วันนี้คงไม่มีใครปฏิเสธผู้ชายคนนี้ได้
หากระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน วันนี้นายอนุสรณ์ นาคาศัย “นักการเมืองที่เล่นการเมืองเพื่อการพัฒนา” ถือว่าสอบผ่านในชั้นเรียนที่ชื่อว่า จังหวัดชัยนาท ด้วยคะแนนเต็มอย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี