เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562 เฟซบุ๊คแฟนเพจ “หยุดเขื่อนคลองสังข์” ซึ่งเป็นของเครือข่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองสังข์ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เผยแพร่รายงานว่าเมื่อเวลา 13.30 น. ตัวแทนประชาชนได้เดินทางไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อยื่นหนังสือถึงนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอให้ยกเลิกโครงการก่อสร้างที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ได้แก่
1.โครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช 2.โครงการอ่างเก็บน้ำวังหีบ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และ 3.โครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว อ.ป่าบอน จ.พัทลุง โดยให้เหตุผลว่า โครงการวังหีบ ตั้งอยู่ที่ ต.นาหลวง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านกว่า 100 ครอบครัวและพื้นที่ป่าต้นน้ำชั้น 1 AR รวมทั้งวัตถุประสงค์ของโครงการยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาอุทกภัยเมืองทุ่งสงได้ตามที่กรมชลประทานกล่าวอ้าง
โดยผลการศึกษาพบว่า สายน้ำวังหีบไม่ได้ไหลเข้าตัวเมืองทุ่งสงโดยตรง การสร้างเขื่อนวังหีบจึงไม่สามารถแก้ไขปัญหาอุกภัยในตัวเมืองทุ่งสงได้ ขณะที่โครงการคลองสังข์ ตั้งอยู่ที่ ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านราว 312-342 ครอบครัวต้องถูกอพยพหรือสูญเสียที่ดินทำกินหรือทั้งสองอย่าง และยังมีปัญหาน้ำล้อมเกือบรอบอีกประมาณ 40 ครอบครัว รวมถึงมีผลกระทบต่อแรงงานที่เป็นลูกจ้างกรีดยางของการยางแห่งประเทศไทยอีกกว่า 116 ครอบครัว
อีกทั้งวัตถุประสงค์ของโครงการไม่สอดคล้องกับความต้องการของคนในพื้นที่เนื่องจากสภาพสังคม เศรษฐกิจได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญคือชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบซ้ำซ้อนเพราะก่อนหน้านี้ได้ย้ายจาก อ.พิปูน จากเหตุภัยพิบัติดินโคนถล่ม มาอยู่ที่ ต.กรุงหยัน ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในปี 2532 แต่โครงการคลองสังข์นั้นมีโครงการตั้งแต่ปี 2523
จึงมีคำถามว่าเมื่อหน่วยงานภาครัฐรู้อยู่แล้วแต่เหตุใดถึงย้ายชาวบ้านมาอยู่ เมื่อเป็นความผิดพลาดของหน่วยงานราชการเองแต่เหตุใดผลกระทบกลับตกอยู่กับชาวบ้าน และโครงการเหมืองตะกั่ว ตั้งอยู่ที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมากเนื่องจากอยู่ในป่าต้นน้ำของพัทลุง และตั้งอยู่ในน้ำตกโตนสะตอที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาศัยของนกเงือก อีกทั้งบริเวณใกล้เคียงยังมีแหล่งน้ำที่ถูกพัฒนาไปแล้วแต่ไม่ได้ถูกใช้งานอีกหลายแห่ง
ดังนั้นการที่ประชาชนมายื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีเพื่อขอให้ยกเลิกโครงการสร้างเขื่อนทั้ง 3 โครงการ ก็เนื่องจากส่งผลกระทบรุนแรงทั้งต่อชาวบ้านและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งที่ผ่านมานโยบายการจัดการน้ำ ชาวบ้านในพื้นที่ก็ไม่เคยมีส่วนร่วม อีกทั้งเห็นว่าการสร้างเขื่อนไม่ใช่ทางออกของการจัดการน้ำที่เหมาะสมอีกต่อไป จึงขอเสนนอทางเลือกการบริหารจัดการน้ำจากแหล่งกักเก็บน้ำที่มีอยู่ในพื้นที่พร้อมทั้งปรับปรุงให้กลับมาใช้งานได้ และการจัดการน้ำแบบอื่นที่ชุมชนมีส่วนร่วมและเกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี