ชาวนาบ้านหนองเม็ก น้อมนำ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ในหลวง รัชกาลที่ 9 ปรับใช้ในการทำนา และชีวิตประจำวันกลายเป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ ต้นแบบความสำเร็จ และเป็นภูมิคุ้มกันความยากจนอีกด้วย
สำหรับศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์บ้านหนองเม็ก ต.คึมใหญ่ อ.เมืองอำนาจเจริญจ.อำนาจเจริญ จัดตั้ง เมื่อปี พ.ศ. 2546 นับเป็นเวลา 16 ปี ซึ่งปลูกผักอินทรีย์ หลากหลายชนิด เพื่อบริโภคและจำหน่าย ปัจจุบัน มีสมาชิกอยู่ จำนวน 9 คน
นายบุญมา ศาตราชัย อายุ 60 ปีอยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ที่ 5 บ้านหนองเม็กต.คึมใหญ่ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญสมาชิกศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์บ้านหนองเม็กเล่าว่า ชาวนา เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวนำผลผลิตไปขายให้แก่พ่อค้า ก็จะถูกเอาเปรียบอยู่ร่ำไป จึงทำการจัดตั้งกลุ่มข้าวอินทรีย์และพืชผักปลอดสารเคมีขึ้น ในรูปแบบ ศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ ตามแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวง รัชกาลที่ 9เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง เมื่อปี 2546 เป็นเวลา 16 ปี ปัจจุบันมีสมาชิก จำนวน 9 คนโดยมี นางจำปา สุวไกร เป็นประธานศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ ซึ่งสมาชิกทั้ง 9 คน ต่างคนก็ต่างปลูกข้าว ปลูกผักชนิดต่างๆบนพื้นดินของแต่ละคน อาทิ เช่น ปลูกข้าวอินทรีย์ทั้งข้าวเหนียวและข้าวจ้าว ปลูกผักชี ผักคะน้า แตงกวา มะเขือ พริก สับปะรด ฯลฯ รวมพื้นที่ทำการเกษตรร่วม500 ไร่ ซึ่งผลผลิตในแต่ละวันก็จะเอามารวมกัน เพื่อจัดส่งให้กับลูกค้าประจำพื้นที่อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และวางจำหน่ายที่ตลาดนัดสีเขียว สวนมิ่งมงคล (หอนาฬิกา)ตัวเมืองอำนาจเจริญ ทุกวันพุธ รวมถึง ร้านค้าในจังหวัดอุบลราชธานี สร้างรายได้แก่สมาชิกดีมาก
นายบุญมา ศาตราชัย สมาชิกศูนย์ฯกล่าวว่า ที่นี่มีโรงเรือนเพาะเห็ด หูหนูและเห็ดขอน อยู่ 3 หลัง ซึ่งวิธีเพาะเห็ดก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร โดยเริ่มแรกทำเป็นโรงเรือนเพาะเห็ดก่อน จากนั้นทำก้อนเห็ด ซึ่งมีวิธีทำตามอัตราส่วนพอเข้าใจ ดังนี้ โดยใช้ขี้เลื่อย 100 กิโลกรัม, ดีเกลือ 2 ขีด,รำข้าว 6 กิโลกรัม, ไดโรไม 1 กิโลกรัม, ยิปซั่มครึ่งกิโลกรัม, กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม จากนั้น ผสมทั้งหมดให้เป็นกองให้ได้สัดส่วนเท่ากัน ที่ความชื้น 60% กรอกใส่ถุงแล้วนึ่งที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส เพื่อฆ่าเชื้อโรค ใช้เวลา 4 ชั่วโมง ปล่อยให้เย็น แล้วนำเอามาหยอดเชื้อเห็ด เก็บไว้ในโรงเรือนประมาณ 40 วัน ก็จะออกดอกเห็ด สามารถนำไปบริโภคหรือจำหน่ายได้
นอกจากนี้ ยังมีการปลูกผักกางมุ้ง 4 ชนิด ได้แก่ สลัดคอส สลัดกรีน สลัดโอ๊คสลัดโลร ปลูกอยู่ในโรงเรือน 5 โรงเรือน โดยเริ่มแรกทำการพรวนดินผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋นอินทรีย์ทำเอง ต่อมา ทำเป็นแปลง แล้ว นำต้นกล้ามาปลูก ใช้เวลา 30 วัน ก็ตัดขายได้ และทำเป็นโรงเรือน กว้าง 6 เมตร ยาว 30 เมตร มุงตาข่ายอย่างดี และเดินระบบน้ำผ่านท่อพีวีชี แบบสายหมอก โดยการสูบน้ำจากแหล่งน้ำสาธารณประโยชน์ พื้นที่4 ไร่ และขุดบ่อบาดาล สำรอง ด้วยการใช้เครื่องสูบน้ำขึ้นถังพัก ปล่อยลงตามท่อพีวีซี ให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ จึงมีน้ำใช้ตลอดปี
สำหรับจุดเด่น ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์พืชผลทางการเกษตรได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมาก ไม่ว่าจะเป็นข้าว พืชผักต่างๆ จะใส่ปุ๋ยอินทรีย์บำรุงรักษาดินทั้งหมด เรียกว่า ปลอดสารพิษ 100% เมื่อวางจำหน่ายครั้งใด ขายหมดทุกครั้ง จนไม่พอขาย สร้างรายได้ดี และเป็นภูมิคุ้มกันความยากจนได้อีกด้วย
และที่ผ่านมา มีเกษตรกร หน่วยงานราชการ นักเรียน นักศึกษา เข้ามาศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง นับว่าประสบความสำเร็จมาก
หากใครสนใจ รายละเอียดเพิ่มเติมหรือจะเดินทางไปศึกษาดูงาน หรือ ต้องการบริโภคข้าวอินทรีย์ พืชผักปลอดสารพิษ ติดต่อได้ที่ ศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ บ้านหนองเม็ก ต.คึมใหญ่ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ได้ทุกวัน...
สนธยา ทิพย์อุตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี