พศ.ถกเร่งสอบคดีสหกรณ์คลองจั่น "อธิบดีดีเอสไอ"แจงดีเอสไอมีความเห็นฟ้อง"อนันต์-วรรณา"ส่งอัยการแล้ว เล็งหาช่องยุบ"มูลนิธิอุบาสิกาจันทร์ฯ" ชี้แพ่ง-อาญาไม่เกี่ยวพันกัน รอส่งตัว"ศศิธร"เป็นผู้ร้ายข้ามแดน ขณะที่"รองผวจ.ปทุมฯ"ระบุยังไม่พบพิรุธภายในวัดพระธรรมกาย
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2562 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เป็นประธานประชุมติดตามเร่งรัดคดียักยอกและฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ตามข้อสั่งการของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม โดยมี พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวะกุล รองอธิบดีดีเอสไอ นายผล ดำธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ต.สุรพงศ์ ถนอมจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ใช้เวลาประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ดีเอสไอรับสอบสวนคดีเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับการทุจริตในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นตั้งแต่ปี 2556 โดยเริ่มต้นสอบสวนกับ 8 กลุ่มบุคคลที่ร่วมกันกระทำความผิด ต่อมาขยายผลการสอบสวนตามเส้นทางการเงินรวมเป็น 27 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว 17 คดี ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนอีก 10 สำนวน กรณีของวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโยตรวจพบความเสียหาย 1,458 ล้านบาท จนถึงขณะนี้พระธัมมชโยยังคงเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของดีเอสไอ และ สตช.รวมจำนวน 12 หมายจับ ซึ่งที่ผ่านมามีการประชุมติดตามข้อมูลเบาะแสมาโดยตลอด ขณะที่ฝ่ายปกครองร่วมกับ พศ.และพระสังฆาธิการได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ภายในวัดพระธรรมกายเป็นประจำ แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันถิ่นที่อยู่ที่แน่ชัด ส่วนกรณีของ นางศศิธร โชคประสิทธิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับที่หลบหนีไปต่างประเทศ ดีเอสไอได้ประสานหมายจับไปที่ตำรวจสากลแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ส่วนคดีที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับ นายอนันต์ อัศวโภคิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่รับซื้อที่ดินจากวัดพระธรรมกาย ดีเอสไอได้สรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องส่งไปให้อัยการพิจารณาแล้ว ขณะนี้อยู่ขั้นตอนการนำตัวไปยื่นฟ้องต่อศาล สำหรับคดีของ น.ส.อลิสา อัศวโภคิน ผู้รับซื้อที่ดินแปลงอาคารบุญรักษา ผลการสอบสวนของดีเอสไอ น่าเชื่อว่า น.ส.อลิสา ไม่น่าจะมีส่วนรู้เห็น คาดว่านายอนันต์ นำชื่อลูกสาวไปใช้ ซึ่งอาคารบุญรักษา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งอายัดทรัพย์ไว้แล้วเช่นเดียวกับอาคารลูกโลกและอาคารวิหารคดที่พบว่าถูกนำเงินบริจาคจากสหกรณ์ฯ ไปใช้ก่อสร้างแห่งละ 700 ล้านบาท ก็ได้ถูก ปปง.อายัดไว้เช่นกัน
พ.ต.อ.ไพสิฐ ยังกล่าวถึงการติดตามความคืบหน้าคำร้องที่เสนอให้อัยการยื่นต่อศาลแพ่งให้ยุบมูลนิธิอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง และให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ว่า ดีเอสไอได้ส่งคำร้องไปที่อัยการภาค 1 แล้ว แต่อัยการสั่งสอบเพิ่มและมีความเห็นให้รอผลการตัดสินในคดีอาญาให้สิ้นสุดลงก่อนจึงดำเนินการทางแพ่ง ระหว่างนี้ดีเอสไอจะตรวจสอบข้อกฎหมายว่าจะมีช่องทางใดสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เพราะมองว่าสำนวนคดีนี้ทางแพ่งและอาญาไม่เกี่ยวข้องกัน โดยในส่วนของคดีอาญาดีเอสไอได้สรุปสำนวนสั่งฟ้อง นางวรรณา จิรกิติ ประธานมูลนิธิอุบาสิกาจันทร์ฯ และส่งให้อัยการไปแล้ว
"ดีเอสไอมีคดีทุจริตที่อยู่ในความรับผิดชอบเรื่อง รมว.ยุติธรรม จึงกำชับให้เร่งสอบสวน โดยเฉพาะคดีทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนมากและมีมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท โดยทรัพย์สินในคดีมี 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นทรัพย์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี ดีเอสไอได้คืนให้คณะกรรมการฟื้นฟูแผนฯ ไปแล้ว 299 รายการ จำนวน 3,800 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นของกลางในคดีมีอีกหลายพันล้านบาท" อธิบดีดีเอสไอ กล่าว
ด้าน นายผล กล่าวว่า ตนมอบหมายให้นายอำเภอเข้าตรวจสอบบริเวณภายนอกและภายในวัดพระธรรมกายเดือนละครั้ง ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ ที่ผ่านมาวัดยังมีจัดกิจกรรมทางศาสนาช่วงเทศกาลสำคัญ ซึ่งมีประชาชนเข้ามาทำบุญน้อยลง แต่ไม่ทราบจำนวน
ขณะที่ พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวว่า จากรายงานเรื่องการเผยแพร่คำสอนตามหลักพุทธศาสนาจะผ่านการพิจารณาจากพระสังฆาธิการและเจ้าคณะจังหวัด ไม่พบมีการบิดเบือนคำร้อง ส่วนเรื่องการติดตามตัวพระธัมมชโย เป็นเรื่องของตำรวจและฝ่ายปกครอง ในส่วนของ พศ.ไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี