เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2562 พล.ต.อ.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีวางระเบิดทั่วกรุงเมื่อวานนี้ว่า ยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนของชุดคลี่คลายคดี แต่ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะมีการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีระเบิดที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เวลาประมาณ 21.00 น.
ข่าวแจ้งว่า จากการสอบปากคำ นายลูไซ แซแง อายุ 23 ปี และนายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดนราธิวาส ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยนำระเบิดมาวางหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีหลักฐานสำคัญคือภาพจากกล้องวงจรปิด ที่สุดแล้วยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง แต่อ้างว่าก่อเหตุเพียงแค่จุดเดียว
จากการตรวจสอบเวลาพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีหลายกลุ่ม ในแต่ละจุดจะแบ่งการทำงานเป็น 2 คน เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลที่ผ่านไปมาพบพิรุธ
มีรายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับเหตุเพลิงไหม้ในร้านจำหน่ายตุ๊กตานำเข้า ย่านสยามสแควร์ จากการตรวจสอบเชื่อว่าเป็นการตั้งเวลาระเบิดเพลิงไว้ ซึ่งชุดสืบสวนสอบสวน กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาเบาะแสผู้ก่อเหตุเพื่อนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานในจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ 4 จุดที่ย่านการค้าประตูน้ำ เพื่อหาความเชื่อมโยงที่ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับการลอบวางระเบิดป่วน 9 เหตุการณ์ใน 5 พื้นที่ทั่วกทม.เมื่อวานนี้ (2 ส.ค.) หรือไม่
สำหรับเหตุเพลิงไหม้ 4 จุดที่ย่านประตูน้ำ ประกอบด้วย อาคารที่ใช้สำหรับเก็บสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่น รวมถึงร้านเสื้อผ้า 2 แห่ง และตรอกแห่งหนึ่งภายในซอยอำนวยสุข ตลาดเฉลิมลาภ ติดกับถนนราชปรารภ ซึ่งจุดนี้พบเบาะแสสำคัญเป็นเพาเวอร์แบงก์สีขาวที่ถูกนำมาวางไว้และเกิดระเบิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี