5 สิงหาคม 2562 นายกังสดาล สวัสดิ์ชัย เกษตรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึง สถานการณ์ภัยแล้งของ จ.นครราชสีมาและการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรนาข้าวว่า สถานภัยแล้งส่งผลกระทบพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะนาข้าวที่ จ.นครราชสีมา มีพื้นที่ทั้งหมด 3.5 ล้านไร่ ขณะที่เกษตรกรปลูกข้าวไปแล้ว 3.2 ล้านไร่ ขณะนี้ได้รับผลบกระทบภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง ถ้าหากว่าฝนไม่ตกลงมาในช่วงเดือนสิงหาคมภายในเดือนนี้คาดว่าจะเสียหายไม่ต่ำกว่า 50% หรือประมาณ 1.7 ล้านไร่ ความเสียหายอย่างแบบไม่เคยเกิดย้อนหลังมาแล้วหลายปี
“ทางเกษตรจังหวัดฯได้มีการดำเนินการสำรวจเบื้องต้นเพื่อที่จะประกาศภัยแล้งไม่เกินวันที่ 15 ส.ค.นี้ ให้ทั้ง 32 อำเภอได้มีการสำรวจเบื้องต้นและนำเข้าสู่ที่ประชุมจังหวัดฯเพื่อที่จะประกาศการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ การช่วยเหลือสำหรับข้าวในอัตราไร่ละ 1,113 บาทต่อไร่ คนหนึ่งไม่เกิน 30 ไร่เป็นการดำเนินการตามระเบียบ ส่วนจะมีผลต่อการผลิตปีหน้าหรือไม่นั้น ปีนี้คาดว่าผลผลิตจะลดลงมากกว่า 50% ถ้าหากฝนไม่มา” นายกังสดาล ระบุ
ด้าน นายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผอ.สำนักชลประทานที่ 8 กล่าวว่า เขื่อนลำตะคอง ขณะนี้มีน้ำเพียง 140 ล้าน ลบม. หรือ 44.55 % จากความจุ 314 ล้าน ลบ.ม. ในช่วงหน้าฝนทางกรมชลประทานได้วางแผนจัดการน้ำสำหรับหน้าฝนใน 4 กิจกรรมหลัก อันดับแรกเพื่อการอุปโภค บริโภคทั้งหมด 31 ล้าน ลบ.ม. สองเพื่อรักษาระบบนิเวศน์และอื่นๆ 43 ล้าน ลบ.ม. สามเพื่อการอุตสาหกรรม 6 ล้าน ลบ.ม. และสี่เพื่อการเกษตร 63 ล้าน ลบ.ม.ที่ได้วางแผนเพาะปลูกไว้ 131,000 ไร่ ตอนนี้ปลูกข้าวไปแล้ว 71,000 ไร่หรือประมาณ 55% สภาพปัญหาจากฝนทิ้งช่วงในเขตชลประทานพบว่าเกษตรกรต้องมีการแย่งน้ำกันบ้าง แต่มีการประชุมคณะกรรมการผู้ใช้น้ำ หรือ JMC เราสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยวิธีการส่งน้ำแบบรอบเวร
“ทางด้านสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมาได้มีการนำเครื่องสูบน้ำระยะไกลไปติดตั้งไว้บริเวณคลองน้ำลำสะแทด อำเภอขามสะแสง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อดำเนินการสูบน้ำจากลำน้ำลำสะแทด ระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร สูบน้ำเข้าไปเก็บกักไว้ในสระน้ำบ้านโนนหญ้าคา หมู่ที่ 7 ตำบลขามสะแกแสง หลังจากปริมาณน้ำภายในสระน้ำของหมู่บ้านแห้งขอด จนไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาใช้ผลิตน้ำประปาได้ ทางสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมาจึงได้นำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งเพื่อช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่จำนวน 130หลังคาเรือน ให้สามารถมีน้ำใช้อุปโภคบริโภคได้ในระยะนี้”
นายแย้ม ชอบมะรัง สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลขามสะแกแสง เปิดเผยว่า การดำเนินการสูบน้ำเข้าสระน้ำในหมู่บ้านครั้งนี้เป็นการสูบน้ำครั้งที่สองแล้วในรอบปีนี้ ซึ่งการสูบน้ำครั้งนี้คาดว่าจะสามารถผลิตน้ำประปาให้ชาวบ้านได้ใช้อุปโภค บริโภคได้อีกเพียงแค่ 2-3 เดือนเท่านั้น ซึ่งหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมชาวบ้านในพื้นที่ต้องขาดแคลนน้ำอย่างแน่นอน
ขณะที่ นายเสงี่ยม พันธุ์นอก ชาวบ้านโนนประดู่ หมู่ที่ 3 ต.บ้านเหลื่อม อ.บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาหลายสิบปีไม่เคยเห็นน้ำในแม่น้ำชีแห้งขอดเช่นนี้มาก่อนในฤดูฝน ซึ่งทุกปีเมื่อถึงช่วงเข้าพรรษาปริมาณน้ำในแม่น้ำชีจะเกินครึ่งหรือเกือบเต็มตลิ่ง เกษตรกรสามารถสูบน้ำมาทำการเกษตรได้ไม่มีขาดแคลน แต่มาในปีนี้ฝนไม่ตกติดต่อกันมาหลายเดือน แม่น้ำชีก็แห้งขอด ทำให้ต้นข้าวต้องยืนต้นตายจนหมด ทั้งนี้ชาวบ้านได้แต่ภาวนาให้ฝนกลับมาตกอีกครั้งในช่วง 1-2 เดือนนี้ เพื่อจะได้พอมีน้ำไว้ใช้ช่วงเข้าสู่ฤดูเพาะปลูกปีหน้าอีกครั้ง ส่วนฤดูเพาะปลูกปีนี้คงหมดหวังจากการทำนาแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี