ยะลาเตรียมพร้อมรับนายกฯ ลงใต้เปิดศูนย์ราชการภาคใต้ตอนล่าง ศูนย์กลางการบริการประชาชนแบบครบวงจรขนาดใหญ่แห่งเดียวใน 5 จังหวัดภาคใต้

วันที่ 6 สิงหาคม 2562 ที่ศูนย์ราชการภาคใต้ตอนล่าง อ.เมือง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่พนักงานได้มีการจัดเตรียมสถานที่เพื่อรอต้อนรับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะมีกำหนดลงพื้นที่จังหวัดยะลาในวันที่ 7 สิงหาคม 2562 เพื่อติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและการสร้างความสงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้   

นอกจากนั้นจะมาเป็นประธานเปิดศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ประมาณต้นปีนี้ ซึ่งเดิมคือโรงแรมชางลี โรงแรมหรูชื่อดังระดับแถวหน้าของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า 1 หมื่นตารางเมตร ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ดำเนินการจัดซื้ออาคารโรงแรม ชางลี ดังกล่าว จากบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด โดยได้ใช้งบประมาณกว่า 147,841,600 บาท มีทั้งหมด 15 ชั้น  

โดยชั้นแรกเป็นศูนย์อาหารขนาดใหญ่ จุคนได้ 400-500 คน ศูนย์บริการทางธุรกิจส่วนย่อย นิทรรศการเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ ชั้นที่ 2 เป็นห้องประชุมและสัมมนา เปิดโอกาสให้ส่วนราชการในพื้นที่มาจัดกิจกรรมได้ เป็นการช่วยเหลือรัฐบาลในการลดค่าใช้จ่ายของส่วนราชการในพื้นที่ ชั้นที่ 3 เป็นสำนักงานของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) 

อาทิ ศูนย์ให้ความช่วยเหลือเยียวยาและสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวจังหวัดยะลา เป็นต้น ชั้นที่ 4 เป็นห้องสมุดและเปิดสถาบันกวดวิชาสำหรับเยาวชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง ศอ.บต.เตรียมทำ MOU กับสถาบันกวดวิชาต่างๆ ในพื้นที่เพื่อลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองที่ต้องส่งบุตรหลานไปเรียนที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ชั้นที่ 5 ห้องทำงานของส่วนราชการทั้งในและนอกพื้นที่ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองส่วนหน้า ส่วนชั้นที่ 6 – 15  จัดเป็นที่พักของข้าราชการและผู้มาติดต่อราชการ ที่ ศอ.บต. รองรับผู้เข้าใช้บริการได้ประมาณ 400 คนต่อวัน 

ส่วนจุดหมายที่ 2 ที่ตลาดกลางยางพารา อ.เมือง จ.ยะลา ได้จัดทำสถานที่เป็นตลาดรับซื้อทุเรียนจากเกษตรกรในพื้นที่ นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางไปตรวจดูสถานที่รับซื้อทุเรียน ภายใต้โครงการปิดทองหลังพระ และการดำเนินการรับซื้อทุเรียนจากเกษตรกรในพื้นที่ ในส่วนของ โครงการปิดทองหลังพระ นั้น โรงงานทุเรียน ม่าน กู่ หว่าง มีแผนดำเนินการระยะที่ 1 (ปัจจุบัน)  สามารถรองรับ สามารถรองรับผลผลิตได้จำนวน 3,000 ตัน แรงงานที่ใช้จำนวน 1,200 คน  เมื่อโรงงานเปิดการผลิต ในห้วงเดือน กรกฎาคม - สิงหาคม (จำนวน 3 เดือน) ใช้เงินหมุนเวียนทั้งสิ้น ประมาณ 2,000 ล้านบาท

สำหรับข้อมูลการพัฒนาแปรรูปทุนเรียนผง เพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับการประกอบอาหาร โดยจะมีการหารือกับทางโรงงานผู้รับซื้อ และมีการวางแผนร่วมกันในอนาคต จะมีการพัฒนาการแปรรูปทุเรียนไปอีกขั้น จากทุนเรียน Freeze Dry เป็นทุนเรียนผง เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบสำหรับการประกอบอาหาร มีเป้าหมายที่จะใช้ทุนเรียนสดที่ตกเกรดจากโรงงานหรือทุนเรียนบ้านที่มีเนื้อน้อย นำมาแปรรูป จำนวน ไม่น้อยกว่า 420 ตัน/ปี ซึ่งคาดว่า จำสามารรถเพิ่มราคาให้กับทุนเรียนบ้าน และทุเรียนตกเกรดที่ประชาชนนำมาขายให้โรงงานได้อย่างน้อย 30 -40 เปอร์เซ็น จากรายได้เดิม/.

ด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ห้ามบุคคลภายนอกเข้าออก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนกว่าภาระกิจการเดินทางของนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น