ผบ.ตร.นัดแถลงสรุป
บึ้มป่วนกรุง
พร้อมแจงทุกประเด็น
หลังลงพื้นที่สอบเอง
นายกฯเผยคดีคืบหน้า
ควานหา‘จอมบงการ’
ระเบิดเพลิงโผล่เพิ่ม
นายกฯเผยเหตุลอบวางบึ้มป่วนกรุงคืบหน้า เร่งตามหาคนที่อยู่เบื้องหลัง รับผู้ต้องสงสัย เป็นคนพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ผบ.ตร. ลงพื้นที่ยะลา ซักถาม 2 ผู้ต้องสงสัย ลอบวางระเบิดหน้าสตช.นัดแถลงความคืบหน้าคดีทั้งหมด 8 สิงหาคม ที่ สตช.ระทึกพบระเบิดเพลิงในร้านขายเสื้อผ้าย่านประตูน้ำ คาดเชื่อมโยงเหตุระเบิดในพื้นที่สน.พญาไททั้ง 4จุด
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการจับกุมผู้ต้องสงสัยวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่ กทม.ว่า หน่วยงานเกี่ยวข้องได้รายงานตนตลอดเวลา ซึ่งมีความคืบหน้าตามลำดับ มีการจับกุม การออกหมายจับเพิ่มเติม มีการเชื่อมโยงต่างๆ ตอนนี้ก็กำลังหาผู้อยู่เบื้องหลัง หรือ มาสเตอร์ มายด์ (master mind) ซึ่งเรายังคงตัดประเด็นใดไม่ได้ สถานการณ์ความไม่สงบ ไม่ปลอดภัยมันมีหลายอย่าง ทั้งเรื่องผลประโยชน์ เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จ.ชายแดนภาคใต้
“ผมไม่อยากไปขัดแย้งกับใคร ใครไม่เกี่ยวข้องก็อย่าไปเดือดร้อนด้วย อาจจะเป็นใครก็ได้ ที่คิดทำเรื่องเหล่านี้ อาจจะทำให้ไม่สงบเรียบร้อย ที่จะทำให้โกรธแค้นหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่คนพวกนี้ไม่สมควรทำ เพราะบ้านเราเดินหน้าอยู่ขณะนี้ เรื่องเหล่านี้ไม่ควรทำไม่ว่าจะสาเหตุอะไรก็ตาม ทั้งในพื้นที่ภาคใต้และพื้นที่อื่นๆ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ในส่วนของผู้ปกครองของผู้ต้องสงสัยนั้น ก็เป็นที่เรื่องธรรมดาที่ต้องเชื่อมั่นคนของตัวเองว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ เราถึงให้เขาเป็นผู้ต้องสงสัย ไม่ใช่ผู้ต้องหา ซึ่งยอมรับว่าผู้ต้องสงสัยเป็นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
บิ๊กแป๊ะลงซักถาม2ผู้ต้องสงสัยเอง
เมื่อเวลา 10.30 น.วันเดียวกัน ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) จ.ยะลา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เดินทางมาเพื่อทำการซักถามผู้ต้องสงสัย 2 คนตามหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาส 2 สิงหาคม 2562 คือนายวิลดัน มาหะ และนายลูไอ แซแง ชาว อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งมีหมายจับจากเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ชุดสืบความมั่นคง บนถนนสาย 4107 หมู่ 7 บ้านบริจ๊ะ ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2562
ทั้งนี้ นายวิลดัน และ นายลูไอ เป็น 2 ผู้ต้องสงสัยจากเหตุลอบวางระเบิดหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562 และเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวได้บนรถโดยสารที่แยกปฐมพร จ.ชุมพร จากการติดตามในภาพวงจรปิดและนำตัวมาสืบสวนสอบสวนที่ ศปก.ตร.สน.จ.ยะลาหลังพบว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ด้วย
สำหรับ ศปก.ตร.สน.จ.ยะลา มีผู้ต้องสงสัยคดีระเบิดที่กรุงเทพฯ ถูกควบคุมตัวอยู่ทั้งหมด 4 คน อีก 2 คนคือ นายมูฮัมมัดอิลฮัม สะอิ ชาว อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และ นายมูฮำหมัดฮาซัย มะชาว อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ถูกควบคุมตัวได้ที่ชายแดน อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส และนำตัวมาสืบสวนขยายผล
ผบ.ตร.นัดแถลงคืบหน้าคดี 8สค.
พล.ต.อ.จักรทิพย์เปิดเผยว่าวันนี้ขอสอบถามผู้ต้องสงสัยด้วยตัวเองก่อน และจะแถลงความคืบหน้าคดีระเบิดกรุงเทพฯทั้งหมด ในวันที่ 8 สิงหาคม ทั้งนี้ ในการซักถามผู้ต้องสงสัยครั้งนี้ มี พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.และพล.ต.ท.รณศิลป์ภู่สาระ ผบภ.ภ.9 ร่วมซักถามด้วย
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร.เผยว่าวันที่ 8 ส.ค.เวลา10.30น.ที่ห้องศรียานนท์ชั้น2 สตช.จะมีการแถลงความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดป่วนเมืองและวางเพลิง นำโดย ผบ.ตร.และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนที่แต่งตั้งขึ้นมาคลี่คลายคดีทั้งด้านการสืบสวน,การสอบสวน,การพิสูจน์หลักฐานและตรวจที่เกิดเหตุซึ่งการแถลงข่าวจะนำเสนอเป็นลำดับขั้นตอนตั้งแต่ ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุรวมถึงการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยและจะเปิดให้สื่อมวลชนซักถามทุกประเด็น
ได้ตัวผู้ต้องสงสัยรวมเป็น7คน
มีรายงานว่า ผู้ต้องสงสัยอีก 5 คน ที่ชุดสืบสวนสอบสวนควบคุมตัวไว้ประกอบด้วย นายอิสมะ องแอ, นายมูฮัมหมัด อิลฮัม, นายมูฮัมหมัด ฮาซัน, นายอิลมี และนายซูลกิฟลี ในจำนวนนี้บางคนมีภูมิลำเนา จ.นราธิวาส และถูกคุมตัวได้ระหว่างเตรียมข้ามแดนที่สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ส่วนนายลูไซ แซแง และนายวิลดัน มาหะ ถูกควบคุมได้ที่จังหวัดชุมพร ต้องสงสัยลอบวางระเบิดหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้ขณะนี้สามารถพิสูจน์ทราบผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิดได้แล้ว 7 คน
เร่งเก็บหลักฐานมัด’มือวางบึ้ม’
ส่วนการพิสูจน์ลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอ ที่ติดอยู่กับวัตถุระเบิดหน้า สตช. เจ้าหน้าที่ต้องการหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่จะสาวให้ถึงตัวผู้ผลิต หรือประกอบวัตถุระเบิดแสวงเครื่องทั้ง 2 ลูก ซึ่งขณะนี้ผลดีเอ็นเอออกมาแล้ว โดยดีเอ็นเอขึ้นเพียง 7 ตำแหน่ง ทำให้ไม่สามารถใช้ยืนยันตัวบุคคลที่ประกอบระเบิดได้ เพราะตามหลักสากลดีเอ็นเอต้องขึ้น 20 ตำแหน่ง จึงจะใช้ยืนยันเจ้าของดีเอ็นเอได้ อย่างไรก็ตาม แม้จะขึ้นแค่ 7 ตำแหน่ง แต่ข้อมูลส่วนนี้สามารถนำไปประกอบหลักฐานอื่นเพื่อพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าใครคือคนร้ายที่ผลิตระเบิดได้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยังทยอยตรวจหาลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอ จากรถแท็กซี่ซึ่งปรากฎภาพในกล้องวงจรปิดว่า ผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิดป่วนใช้บริการหลบหนีหลังก่อเหตุ เพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี
พบระเบิดเพลิงร้านย่านประตูน้ำ
ช่วงสายวันเดียวกัน ที่บริเวณร้านไพโรจน์เบเกอรี่ ซึ่งเป็นร้านขายเสื้อผ้าใกล้แยกประตูน้ำ พ.ต.อ เจษฎา คุ้มศาสตรา ผกก.สน.พญาไท, พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง รอง ผกก.สอบสวน สน.พญาไท พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบ หลังจากเมื่อคืนได้ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยถูกวางทิ้งในกองเสื้อผ้าบริเวณด้านในร้านดังกล่าว เบื้องต้นพบว่า เป็นระเบิดเพลิงชนิดเดียวกันที่เกิดในหลายพื้นที่ สน.พญาไท โดยนำพาวเวอร์แบงค์ สีขาว มาแกะเอาตัวไทม์เมอร์ หรือแผงวงจรใส่เข้าไป ก่อนจะตั้งเวลาไว้ให้ระเบิด ในช่วงเช้าวันที่ 2 สิงหาคม แต่คาดว่ามีปัญหาจึงไม่เกิดระเบิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บกู้เป็นที่เรียบร้อย พร้อมเก็บรอยนิ้วมือแฝง โดยคาดว่าระเบิดที่พบมีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดในพื้นที่ สน.พญาไท รวม 4 จุดก่อนหน้านี้
ทางเจ้าของร้านที่เกิดเหตุ กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ช่วงเวลา 21.00 น.ได้เก็บร้าน และกำลังตรวจนับสินค้าที่ขายไป กระทั่ง พบพาวเวอร์แบงค์สีขาว ซึ่งไม่ใช่ของที่ร้าน และเห็นข่าวจึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ทราบ ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย
กระรอกทำไฟช็อต-ทำเนียบระทึก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.50 น. ได้เกิดเหตุหม้อแปลงระเบิดที่บริเวณประตู 8 ทำเนียบรัฐบาลซึ่งอยู่ติดกับคลองผดุงกรุงเกษม ตรงข้ามวัดโสมนัสซึ่งส่งเสียงดังจนเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลหลายคนต่างตกใจและเมื่อวิ่งไปดูที่จุดเกิดเหตุพบว่าเป็นเหตุตู้รวมไฟฟ้าเกิดช็อต เนื่องจากมีกระรอกวิ่งบนสายไฟทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งส่งผลให้เกิดไฟดับในทำเนียบหลายอาคาร ต่อมา เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลได้ประสานไปยังการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) เพื่อมาแก้ไข โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเป็นปกติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี