เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2562 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปยัง จ.ขอนแก่น เพื่อตรวจสถานการณ์พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง โดย จ.ขอนแก่น ประกาศเขตภัยพิบัติแล้ง ถึง 24 อำเภอ จากทั้งหมด 26 อำเภอ ซึ่งที่แรกได้ไปเยี่ยมเยียนประชาชน อ.ชุมแพ อ.อุบลรัตน์ และ อ.ซำสูง และให้นโยบายว่า สิ่งที่จำเป็นเร่งด่วนที่สุดตอนนี้คือ การจัดหาแหล่งน้ำเสริมและการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ซึ่งสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมชลประทาน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร และกรมการข้าว บูรณาการช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนอย่างเร่งด่วน
ด้าน นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จ.ขอนแก่น มีพื้นที่ทั้งหมด 6,803,744 ไร่ เป็นพื้นที่เกษตร 4,873,125 ไร่ พื้นที่ชลประทาน 195,771 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 2.87 ของพื้นที่ทั้งหมด อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มี 1 แห่ง คือ เขื่อนอุบลรัตน์ ความจุเก็บกัก 2,431.30 ล้าน ลบ.ม.ปัจจุบัน (9 ส.ค.62) มีปริมาณน้ำ 541.41 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 22.27 ของความจุเก็บกัก น้ำใช้การได้ -40.26 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ -2.18 อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย โดยระบายน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคและรักษาระบบนิเวศวันละ 0.50 ล้าน ลบ.ม.มีอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 14 แห่ง ความจุรวม 105.88 ล้าน ลบ.ม.มีน้ำ 28.61 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 27.02 ของความจุทั้งหมด มีน้ำใช้การได้ 13.28 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 14.96 อ่างขนากกลางที่มีความจุน้อยกว่าร้อยละ 30 มี 10 แห่ง
ส่วนสถานการณ์น้ำท่าแม่น้ำชีตอนบน และแม่น้ำชีตอนกลาง อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย สำหรับแม่น้ำลีตอนล่างอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง เพราะน้ำค่อนข้างน้อย สำหรับสาเหตุที่อ่างขนาดใหญ่และขนาดกลางมีน้ำน้อย เนื่องจากฝนตกต่ำกว่าค่าเฉลี่ย โดยเฉพาะใน จ.ขอนแก่น มีฝนตกสะสม (1 ม.ค. - 9 ส.ค.62) วัดได้ 507.8 มิลลิเมตร ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยถึงร้อยละ 59.54
ขณะที่ นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 รายงานว่า ได้ช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากสภาพน้ำในลำน้ำชีตื้นเขิน ด้วยการระบายน้ำจากเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ , เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น พร้อมทั้งได้เพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนมหาสารคาม และเขื่อนร้อยเอ็ด เพื่อให้สถานีสูบน้ำเพื่อการประปาที่อยู่ตลอดสองฝั่งลำน้ำชี นำน้ำไปใช้เพื่อการอุปโภค-บริโภค ตลอดจนยังเป็นการรักษาระบบนิเวศน์ของลำน้ำ อีกทั้งนำเครื่องจักรเข้าไปขุดลอกเปิดทางน้ำ ส่งเครื่องสูบน้ำเข้าไปช่วยเหลือ พร้อมลงพื้นที่ชี้แจงสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน โดยได้ขอความร่วมมือจากเกษตรกรให้ชะลอการปลูกข้าวออกไป ส่งผลให้ในปัจจุบันสถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีดีขึ้นในปัจจุบัน จึงได้พิจารณาปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนลำปาว ลงลำน้ำชี เพื่อสำรองน้ำไว้สำหรับการอุปโภค-บริโภค ซึ่งมีความสำคัญมากที่สุด ยืนยันว่า ปัจจุบันไม่มีพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเพื่อการประปา และจะมีน้ำเพียงพอตลอดถึงฤดูแล้ง 2562/63
สำหรับการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ จ.ขอนแก่น โครงการส่งน้ำฯ หนองหวาย ได้ส่งน้ำหน้าฝายหนองหวายกว่า 10 ล้าน ลบ.ม.ไปช่วยนาข้าวใน อ.น้ำพอง กว่า 160,000 ไร่ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือนาข้าว 4,200 ไร่ ที่ ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำจากอ่างทุ่งพังพืด เข้าสู่บ่อพักน้ำดิบเพื่อผลิตประปาช่วยเหลือราษฎร ต.หัวทุ่ง อ.พล 430 ครัวเรือน นอกจากนั้น โครงการส่งน้ำฯ ชีกลาง เพิ่มน้ำเหนือเขื่อนมหาสารคาม เพื่อให้สถานีผลิตน้ำประปาท่าพระ (หนองบัวดีหมี) ต.ท่าพระ อ.เมือง มีน้ำดิบใช้ผลิตน้ำประปาด้วย
ส่วนที่ จ.ชัยภูมิ ประกาศเขตภัยพิบัติแล้ง 7 ตำบล ใน อ.บำเหน็จณรงค์ ได้สูบน้ำจากแหล่งน้ำต่างๆ เข้าช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว ส่วนที่ จ.ยโสธร นั้น โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีกลาง ขุดเปิดสันตะกอนทรายท้ายเขื่อนร้อยเอ็ด เพื่อให้การระบายน้ำลงสู่พื้นที่ตอนล่างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยวันนี้ปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนร้อยเอ็ด จากเดิมวันละ 420,000 ลบ.ม.เป็นวันละ 1.80 ล้าน ลบ.ม.เพื่อช่วยเติมน้ำชีตอนล่างหน้าเขื่อนยโสธร จ.ยโสธร เพื่อสนับสนุนน้ำในการการผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคสาขา จ.ยโสธร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี