สตม.ตะครุบหนุ่มเกาหลีแก๊ง SMISHING SCAM ก่อคดีฉ้อโกงเหยื่อ170 ราย
13 สิงหาคม 2562 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ , พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ , พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช. สตม. , พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 ปฏิบัติราชการ สตม. , พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. ,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 , พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี ผบก.ตม.4 , พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.ตม.5 , พล.ต.ต.เจษฎา ใยสุ่น ผบก.ตม.6 , พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.ภ.2 , พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบก.ปส.3 , พ.ต.อ.มานะ นาคทั่ง รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช , พ.ต.อ.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร รอง ผบก.สกส.บช.ปส. , พ.ต.อ.ปรม พฤทธิกุล ผกก.ฝอ.บก.สส.ภ.4 , พ.ต.อ.ณรงค์ ชนะภัยกุล ผกก.ฝ่ายกิจการต่างประเทศ บก.อก.บช.ส. , พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ ผกก.ฝอ.ศทก. ปฏิบัติราชการ สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้ายชาวเกาหลีแก๊ง SMISHING SCAM ก่อคดีฉ้อโกง
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับการประสานงานจากสถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย ว่า นายแดฮุง อายุ 35 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ เป็นบุคคลที่มีหมายจับตำรวจสากล ในข้อหา “ฉ้อโกงโดยใช้คอมพิวเตอร์” และทางการเกาหลีใต้ต้องการตัว โดยนายแดฮุง มีพฤติการณ์หลอกลวงล้วงข้อมูลของเหยื่อผ่านทางการส่งข้อความ SMS บนมือถือ หรือเรียกว่า Smishing scam โดยหลังจากที่เหยื่อหลงเชื่อและกรอกข้อมูลทางการเงินให้กับนายแดฮุง แล้ว นายแดฮุงจะนำข้อมูลทางการเงินที่ได้ไปทำธุรกรรมซื้อสินค้าออนไลน์กับเว็บไซต์ขายของออนไลน์ชื่อดัง Coupang ของประเทศเกาหลีใต้ โดยได้สั่งซื้อสินค้า เช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เป็นต้น
หลังจากนั้นก็จะทำการยกเลิกการสั่งซื้อสินค้า เพื่อที่จะได้รับเงินคืนจากระบบ เข้าบัญชีธนาคาร NH Bank ระบบชื่อเป็น Mr.LEE หมายเลขบัญชี 3561157027xxx ซึ่งเป็นบัญชีที่นายแดฮุง ได้ทำการลงทะเบียนไว้เป็นบัญชีสำหรับรับเงินคืนจากกรณียกเลิกการสั่งซื้อสินค้า โดยนายแดฮุง ได้ทำการซื้อและยกเลิกมากกว่า 170 ครั้ง มูลค่าความเสียหาย รวมประมาณ 73,921,600 วอน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1.9 ล้านบาท เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 25 มกราคม 2560 ต่อเนื่องกัน ที่ประเทศสาธารณรัฐเกาหลีใต้ มีผู้เสียหายรวมจำนวน 170 ราย และนายแดฮุง ก็ได้หลบหนีออกนอกประเทศ โดยมีข้อมูลจากทางการเกาหลีใต้ว่า ได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ใน ประเทศไทย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สตม.ได้สืบสวนจนทราบว่า นายแดฮุงได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยหลายครั้งตั้งแต่ปี 2561 และครั้งล่าสุดได้เดินทางเข้ามาเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 ได้รับประเภทวีซ่า ผ.ผ.90 (90 วัน) ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่านายแดฮุง พักอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมในซอยสุขุมวิท 22 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. จึงได้ไปเฝ้าอยู่ที่หน้าคอนโดฯ
จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.20 น. ของวันที่ 8 สิงหาคม 2562 พบนายแดฮุง ได้เดินลงมาจากห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และขอตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่า นายแดฮุง อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และเป็นบุคคลเดียวกันกับหมายจับตำรวจสากลที่ทางการเกาหลีใต้ต้องการตัว จึงทำการจับกุมและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สตม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และดำเนินการประสานกับทางสาธารณรัฐเกาหลีเพื่อส่งตัวกลับไปยังประเทศเกาหลีใต้ต่อไป
ทั้งนี้ ตามนโยบายของ ผบช.สตม. ได้กำชับการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง ว่าด้วยการแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าวภายใน 24 ชั่วโมง กรณีที่เจ้าบ้าน เคหสถาน หรือโรงแรม ที่รับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ไม่แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ภายใน 24 ชั่วโมง ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 38 ซึ่งกรณีดังกล่าว สตม. ได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับเจ้าของที่พัก เป็นเงินจำนวน 1,600 บาท และแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบเพื่อปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
# ขอบคุณภาพ-ข้อมูล พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รองผบก.อก.สตม. ปฏิบัติราชการ รองผบก.ตม.1
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี