กรมฝนหลวงฯ จับมือ ทอ.-ทบ.นำเครื่องบิน 29 ลำ ออกปฏิบัติการฝนหลวง สู้ภัยแล้งทั่วไทยด้านนายกฯ ไฟเขียวงบกลาง 30 ล้าน “ธรรมนัส” ประสานเหล่าทัพส่งกำลังพลช่วยเหลือเกษตรกรเร่งด่วน
เมื่อวันที่ 15สิงหาคม นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่าในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ เครื่องบินจากกองทัพอากาศ 5 ลำ และกองทัพบก 1 ลำ จะขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงร่วมกับกรมฝนหลวงฯ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อนุมัติงบกลาง 30 ล้านบาท เริ่มปฏิบัติการพร้อมกัน จากที่กรมฝนหลวงฯ มีเครื่องบิน 23 ลำ เป็นของกรมฝนหลวงฯ 21 ลำ และ ทอ.2 ลำ เมื่อทาง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ประสานกับเหล่าทัพต่างๆ จึงได้เพิ่มมาเป็นทั้งหมด 29 ลำ พร้อมกันนี้เหล่าทัพได้ส่งกำลังพลมาช่วยลำเลียงสารและบดสารจำนวนมาก ไปประจำการแต่ละหน่วย โดยช่วงแรกชุดเสริมปฏิบัติถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ จนสิ้นสุดของงบกลาง
“ร.อ.ธรรมนัส สั่งการให้พิจารณาชุดเสริมระดมช่วยพื้นที่ภาคอีสานโดยเครื่องบินของ ทอ.4 ลำ ไปหน่วยฝนหลวงโคราช จ.นครราชสีมา และอีก 1 ลำ ไปหน่วยฝนหลวง จ.เชียงใหม่ สำหรับเครื่อง ทบ.ไปหน่วยฝนหลวง จ.ลพบุรี เพราะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคกลาง ต้องเร่งเติมน้ำในเขื่อน ช่วยพื้นที่เกษตรประสบภัยแล้ง ขาดแคลนทั้งน้ำอุปโภคบริโภค โดย ร.อ.ธรรมนัส ให้พิจารณาจัดวางลักษณะนี้เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ภัยแล้งที่ยังประสบปัญหาหนัก” นายสุรสีห์ กล่าว
นายสุรสีห์ กล่าวอีกว่า ปัญหาภัยแล้งในบางพื้นที่คลี่คลายลงบ้างเนื่องจากมีฝนตกจากอิทธิพลลมมรสุมและจากปฏิบัติการฝนหลวง ทั้งนี้ น่าเป็นห่วงเขื่อนมีน้ำน้อยเกือบ 200 แห่ง เป็นเขื่อนขนาดใหญ่ 19 แห่ง เขื่อนขนาดกลาง 170 แห่ง โดยตั้งหน่วยฝนหลวง 11 หน่วยปฏิบัติการทั่วประเทศ เพื่อช่วงชิงสภาพอากาศทำฝนเติมน้ำในเขื่อนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะใกล้จะหมดฝน ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่าฤดูฝนจะหมดในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้เท่านั้น จึงเร่งเติมน้ำในเขื่อนเพื่อให้ใช้ถึงฤดูแล้งหน้า อย่างไรก็ดี โอกาสขาดแคลนน้ำก็ยังมีความเสี่ยงอยู่
นายสุรสีห์ กล่าวต่อว่า การปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา ขึ้นทำฝนหลวง 9 หน่วย โดยหน่วย จ.พิษณุโลก ทำฝนตกเล็กน้อย ได้มีความชื้นบรรเทาช่วยเหลือพื้นที่เกษตรประสบภัยแล้งใน จ.กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ หน่วย จ.ตาก ขึ้นทำฝนเติมน้ำเขื่อนภูมิพล ทำให้มีฝนตกเล็กน้อย ส่วนหน่วย จ.ลพบุรี สามารถขึ้นปฏิบัติการช่วงชิงสภาพอากาศได้เป็นผลสำเร็จ มีฝนตกจำนวนมาก เฉลี่ย 5-22 มม.ฝนตกบริเวณพื้นที่กว้างขวางของ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ เติมน้ำในเขื่อนป่าสักฯ เขื่อนทับเสลา เขื่อนห้วยใหญ่ บึงบอระเพ็ด หน่วย จ.กาญจนบุรี เติมน้ำเขื่อนกระเสียว เขื่อนห้วยท่าเดื่อ ช่วยพื้นที่เกษตร จ.สุพรรณบุรี อุทัยธานี ชัยนาท
สำหรับหน่วยฝนหลวง จ.ขอนแก่น ขึ้นปฏิบัติการช่วยพื้นที่เกษตร จ.ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ เขื่อนลำปาว หน่วย จ.อุบลราชธานี ขึ้นบินปฏิบัติการช่วยพื้นที่เกษตร อ.วารินชำราบ สำโรง มีฝนตก และหน่วย จ.สุรินทร์ บุรีรัมย์ เร่งช่วยเติมน้ำบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำเกษตร น้ำอุปโภคบริโภค อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ขาดแคลนน้ำดิบผลิตประปาให้กับตัวเมือง และ รพ.สุรินทร์ หน่วยฝนหลวงภาคตะวันออก จ.สระแก้ว ทำฝนตก จ.ฉะเชิงเทรา เพิ่มน้ำลุ่มรับน้ำเขื่อนห้วยโสมง และภาคใต้ ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยพื้นที่ป่าพรุ จ.สงขลา ที่ยังมีไฟไหม้อยู่ พบว่ามีฝนตกไปในปริมาณเล็กน้อย สามารถช่วยดับไฟป่าได้ระดับหนึ่ง
นอกจากนี้กรมฝนหลวงฯ ได้เร่งปฏิบัติการช่วยพื้นที่ประสบภัยแล้ง โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประกาศภัยแล้งเพิ่ม 10 จังหวัด 38 อำเภอ 270 ตำบล 2,353 หมู่บ้าน ซึ่งศูนย์ป้องกันวิกฤติน้ำ กรมทรัพยากรน้ำ ได้ติดตามสภาพฝนสะสมพบว่าภาคกลาง เริ่มมีความชื้นในดินมากขึ้น ประกอบกับแผนที่ปริมาณฝนตกของกรมกรมฝนหลวง เป็นฝนสะสม 1 สัปดาห์ พื้นที่มีความชื้นในดินมากขึ้นตอนกลางของประเทศ ได้ฝนมากพอสมควร การทำฝนหลวงประสบความสำเร็จ
นายสุรสีห์ กล่าวว่า วันเดียวกันนี้หน่วยฝนหลวงภาคเหนือได้ขึ้นบินปฏิบัติการแล้ว เติมน้ำในเขื่อนแม่กวง อ่างเก็บน้ำขาดกลางใน จ.ลำพูน ลำปาง หน่วย จ.ลพบุรี กาญจนบุรี ขึ้นบินปฏิบัติการช่วงเช้า ก่อเมฆ ช่วยเหลือพื้นที่เกษตร จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี เติมน้ำอ่างเก็บกระเสียว ห้วยท่าเดื่อ ห้วยเคียน หน่วย จ.ขอนแก่น ขึ้นบินช่วงเช้า พื้นที่เป้าหมายพื้นที่เกษตร จ.ชัยภูมิ โดยมีเกษตรกรร้องขอจาก ร.อ.ธรรมนัส ฝากให้ช่วยเหลือเร่งด่วน และหน่วย จ.อุบลราชธานี ขึ้นทำฝนช่วย จ.ยโสธร ศรีสะเกษ อุบลราชธานี หน่วย จ.สุรินทร์ เติมน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ผลิตประปา โรงพยาบาล สุรินทร์ ช่วยพื้นที่เกษตร สุรินทร์ บุรีรัมย์ และภาคตะวันออก หน่วย จ.สระแก้ว ขึ้นบินขั้นตอนก่อเมฆ ช่วยเหลือพื้นที่ จ.สระแก้ว ฉะเชิงเทรา เติมน้ำเขื่อนห้วยยาง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี