16 สิงหาคม 2562 นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า วันนี้อากาศยานมาเสริม อีก 6 ลำ ของกองทัพอากาศ(ทอ. )5 ลำ และกองทัพบก(ทบ.) 1 ลำ พร้อมกำลังพล 88 นาย ได้เข้าปฏิบัติการที่หน่วยฝนหลวงจ.เชียงใหม่ 1 ลำ จ.นครราชสีมา 4 ลำ และ จ.ลพบุรี 1 ลำ ซึ่งประชาชนอาจสงสัยว่า ทำไมอากาศยานมาสนับสนุนไม่มากเพราะต้องมีการดัดแปลงเจาะท้องเครื่องบินติดกรวยโปรยสาร และ ทอ.เคยร่วมปฏิบัติการกับกรมฝนหลวงฯ ส่วนเครื่องบินอื่นๆถ้ายังไม่มีการดัดแปลงจึงมาร่วมไม่ได้
พร้อมกันนี้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปปัญหาภัยแล้ง มาตรการแก้ไขเฉพาะหน้าระยะกลางและระยะยาว เพื่อเตรียมการสำหรับการเดินทางของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับประชาชน และเกษตรกร ขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค การเกษตร เพราะสภาพน้ำแห้งขอดของอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง อ่างเก็บน้ำห้วยอำปืด ไม่สามารถส่งน้ำดิบผลิตประปา จ.สุรินทร์ และบุรีรัมย์ วันที่ 19 ส.ค.นี้
นายสุรสีห์ กล่าวว่า การปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ (15ส.ค.) ทำฝนตก 23 จังหวัดถือว่าประสบผลสำเร็จในการขึ้นบินทำฝนหลวง ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรได้รับผลกระทบจากพื้นที่การเกษตรประสบภัยแล้ง โดยหลายพื้นที่มีฝนตกเฉลี่ย 5-20 มม.และภารกิจเติมน้ำเขื่อน ส่งผลให้เขื่อนขนาดกลางมีน้ำเพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีน้ำใช้การต่ำกว่า 30% จำนวน 170 แห่ง ลดเหลือ 167 แห่ง
อธิบดีกรมฝนหลวงฯ กล่าวว่า แผนปฏิบัติการทำฝนหลวงได้วางแผนให้ครอบคลุมพื้นที่ประกาศภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง และฝนแล้ง 10 จังหวัด และเติมน้ำเขื่อน ลุ่มน้ำของเขื่อนขนาดใหญ่ ต่ำกว่า 30% มี 19แห่ง และเขื่อนขนาดกลางในอีสาน มีน้ำน้อยมากถึง 114 แห่ง ทั้งนี้จากปริมาณฝนสะสม 1 สัปดาห์ พบว่าจะเห็นพื้นที่ภาคกลางบางส่วน มีฝนน้อย และภาคอีสาน จ.นครราชสีมา ภาคตะวันออก จ.สระแก้ว มีปริมาณฝนค่อนข้างน้อย จะนำข้อมูลใช้ประกอบการวางแผนทำฝนหลวงช่วยพื้นที่กำลังประสบปัญหา
“ช่วงนี้ประเทศไทยยังมีอิทธิพลจากลมมรสุมที่มีความชื้นสัมพัทธ์เอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติการได้ดี และได้จำนวนเครื่องบินมาเพิ่มขึ้นในการทำฝนหลวง จะได้จำนวนเที่ยวบินมากขึ้น ส่งผลในการปฏิบัติการได้ฝนมากขึ้นในการเติมน้ำเขื่อน ดูแลพื้นที่การเกษตร กำหนดแผนการบินในแต่ละเที่ยวบินขึ้นทำฝน ถ้าใช้เครื่องบินขนาดเล็กจะใช้ 3 ลำ ต่อพื้นที่กว่า 2 แสนไร่ ถ้าขนาดกลาง 2 ลำ ขนาดใหญ่1ลำ” นายสุรสีห์ กล่าว
สำหรับการขึ้นทำฝนหลวง ได้ตรวจสภาพอากาศช่วงเช้านี้พบว่าหน่วยฝนหลวงจ.เชียงใหม่ พิษณุโลก ตาก มีเมฆชั้นกลางปกคลุมหนาแน่น ไม่มีแสงแดดส่องลงมาช่วยขบวนการพัฒนาตัว จึงไม่ขึ้นในขั้นตอนการก่อเมฆ รอให้ฟ้าเปิดมากกว่านี้ในช่วงบ่าย ส่วนหน่วยภาคกลาง ได้ขึ้นบินก่อเมฆ กำหนดพื้นที่เป้าหมาย สองภารกิจ ช่วยพื้นที่การเกษตร และเติมน้ำเขื่อนห้วยท่าเดื่อ เขื่อนกระเสียว เขื่อนห้วยเคียน จ.กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และหน่วยลพบุรี พร้อมขึ้นปฏิบัติการแต่ท้องฟ้ายังไม่เปิด ติดตามสภาพอากาศช่วงบ่าย ในภาคอีสาน หน่วยขอนแก่น ขึ้นบินขั้นตอนก่อเมฆ ช่วยพื้นที่เกษตรประสบฝนทิ้งช่วง จ.ชัยภูมิ และหน่วยฝนหลวงจ.สุรินทร์ ขึ้นบิน ช่วยพื้นที่ฝนทิ้งช่วงจ.บุรีรัมย์ เร่งเติมน้ำอ่างน้ำห้วยเสนง อ่างอำปืด
สำหรับหน่วยฝนหลวงจ.นครราชสีมา ติดตามสภาพอากาศ มีเมฆชั้นกลางปกคลุม และมีอากาศยานมาสนับสนุน เพิ่ม 4 ลำ ถ้ามีสภาพอากาศเอื้อ พร้อมขึ้นทันที เพราะจ.นครราชสีมา มีพื้นที่ประสบภัยแล้งวงกว้าง ส่วนภาคใต้ พบว่าความชื้นสองระดับอยู่ในเกณฑ์ดี กระแสเร็วลมดี แต่อากาศยานครบรอบการซ่อมบำรุง ต้องให้ซ่อมเสร็จก่อนจึงวางแผนขึ้นบิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี