16 สิงหาคม 2562 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) เป็นประธานพิธีเปิดและบรรยายพิเศษ เรื่อง "นโยบายการพัฒนาคุณภาพการศึกษา" การประชุมวิชาการ เพื่อพัฒนาวิชาชีพศึกษานิเทศก์ ในการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2562 จัดโดยสมาคมศึกษานิเทศก์ แห่งประเทศไทย โดยมีนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายกสมาคมศึกษานิเทศแห่งประเทศไทย และศึกษานิเทศก์เข้าร่วมประชุมกว่า 400 คน ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ
นายณัฏฐพล กล่าวว่า การปรับปรุงพัฒนาการศึกษาของประเทศ อะไรที่ทำดีอยู่แล้วก็จะต่อยอด และอะไรที่ต้องปรับปรุงพัฒนาก็พร้อมจะทำต่อไป ตนมองว่ากระทรวงศึกษาเป็นกระทรวงใหญ่ แต่ขาดความแข็งแรง ดังนั้น จะต้องอาศัยบุคคลากรของศธ.ที่มีอยู่ทั่วประเทศมาร่วมมือกันทำสิ่งที่ยาก ซึ่งศึกษานิเทศก์สามารถนำความรู้และนโยบายของศธ.ลงไปขยายถึงครูได้ เป็นการทำสิ่งที่ยากและจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน มองไปในทางเดียวกันและต้องทำให้มากกว่าเดิม ทุกคนจะต้องปรับตัว ทำหน้าที่ด้วยความภูมิใจ และตนพร้อมทำงานผลักดันไปด้วยกันโดยมีรัฐบาลคอยสนับสนุน หากเราทำขบวนการพัฒนาการศึกษาให้เข้มแข็งขึ้นก็มีโอกาสพลิกการศึกษาของประเทศได้ ที่ผ่านมาขบวนการพัฒนาไม่เข้มแข็ง อยากให้การพัฒนาอยู่บนความเป็นจริง ซึ่งอาจต้องใช้เวลา ใช้ใจ และสมอง
ขณะนี้เหมือนขาดอาวุธและอุปกรณ์ที่จะไปเสริมให้ครู จึงอยากให้ครูพัฒนาการใช้เทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต และพัฒนาภาษาอังกฤษ เพราะการค้นหาแหล่งข้อมูลความรู้ภาษาอังกฤษมีความจำเป็น หากเราทำได้ภายใน 5-10 ปีนี้ การศึกษาของไทยจะไม่เหมือนเดิม แต่ถ้าทำไม่ได้ก็จะเปลี่ยนไปในทางลบ
รมว.ศธ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ต่อจากนี้ไปจนถึงช่วงเปิดเทอมในเดือน พ.ค.2563 กระทรวงศึกษาฯ จะร่วมกับทุกภาคส่วนในการพัฒนาต่อยอดสิ่งที่ทำได้ และแก้ไขในหลายๆเรื่อง ซึ่ง 1 เดือนหลังจากที่ตนเข้ารับตำแหนง รมว.ศธ.ก็ได้สรุปในสิ่งที่เห็น และแนวทางที่จะแก้ไขในเบื้องต้น พบว่ายังสิ่งที่ต้องปรับปรุงพัฒนาอีกเยอะ ซึ่งก็มั่นใจว่าขวัญและกำลังใจของครูและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมที่จะปฏิรูปการศึกษาไปด้วยกันได้
“การติดอาวุธทางด้านเทคโนโลยีให้ศึกษานิเทศก์เพื่อให้สามารถสื่อสารกับผู้บริหารและครูได้ เนื่องจากคณะนี้ทุกโรงเรียนในประเทศไทย มีความไม่พร้อมด้านอินเตอร์เนตและเทคโนโลยี เพราะหากไม่มีความพร้อมในสิ่งเหล่านี้ เราก็ไม่สามารถพัฒนาการศึกษาให้มีความเท่าเทียมกันได้ เพราะไม่สามารถส่งต่อข้อมูลไปยังโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลได้ ปัจจุบันโรงเรียนมีเทคโนโลยีพื้นฐานอยู่แต่ยังไม่ครอบคุมทุกแห่ง ขณะนี้ทางคณะทำงานด้านงบประมาณได้เตรียมงบไว้แล้วก็จะร่วมกับเอกชนในหลายภาคส่วนที่จะพัฒนาเทคโนโลยีพื้นฐานให้เกิดขึ้น เพื่อเป็นช่องทางในการใส่ข้อมูลลงไปยังโรงเรียน ส่วนข้อมูลที่จะใส่ลงไปนั้นก็จะต้องใช้เวลาในการพัฒนา ส่วนข้อมูลที่ทำไว้แล้วเท่าที่ผมตรวจสอบมา 1 เดือน เห็นว่ายังจะต้องปรับปรุงอีกพอสมควรในด้านอุปกรณ์พื้นฐาน และผมเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องติดอาวุธด้านภาษาอังกฤษให้กับครูบางส่วนและศึกษานิเทศก์ โดยผมตั้งเป้าไว้ภายใน 3 ปี ที่เราจะต้องมีฐานข้อมูลเข้าไปให้เขาได้เรียนรู้และพัฒนาหน่วยงานและพัฒนาตนเอง
ซึ่งเบื้องต้นกระทรวงศึกษาฯมีข้อมูลพอสมควร แต่ยังไม่พอที่จะทำให้แผน 3 ปีประสบความสำเร็จ ส่วนจะดำเนินโครงการบูธแคมป์ภาษาอังกฤษต่อหรือไม่นั้น คงต้อไปดูรายละเอียดก่อนว่าที่จัดอบรมสัมนาไปแล้วนั้นมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างไร และดูงบที่ใช้ หากไม่มีประสิทธิภาพหรือผลงานยังไม่ชัดเจน ก็ต้องกลับมาพิจารณาและมีการวางแผนระยะยาว ผมจะไม่ใช้งบประมาณฟุ่มเฟือยโดยที่ไม่เป็นเห็นผลประโยชน์ชัดเจนอย่างแน่นอน และงบส่วนใหญ่จะนำมาใช้พัฒนาเทคโนโลยีพื้นฐานเพื่อมาเสริมในสิ่งที่มีอยู่แล้ว ให้เหมาะสมกับการกระจายและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาทั่วประเทศ” รมว.ศธ. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี