วันที่ 17 สิงหาคม 2562 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุมและกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในการประชุมทางวิชาการของคุรุสภา ประจำปี 2562 เรื่อง “ครูแห่งอนาคต เพื่อผู้เรียนแห่งอนาคต” (Future Teachers For Future Learners) และมอบรางวัลผลงานวิจัยของคุรุสภา ประจำปี 2562 “ระดับภูมิภาค” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีทางวิชาการสำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้องค์ความรู้ทางวิชาการและทางวิชาชีพ ตลอดจนการสร้าง การใช้ และการเผยแพร่ผลงานวิจัย และผลงานนวัตกรรมต้นแบบที่มีคุณค่าทางวิชาการและมีคุณภาพเป็นแบบอย่างในการปรับประยุกต์ใช้หรือต่อยอดเพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและ การพัฒนาวิชาชีพเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และสถานศึกษาได้เกิดความรู้ความเข้าใจ และกระตุ้นให้ใช้กระบวนการวิจัยสร้างสรรค์นวัตกรรมและกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 16 – 18 สิงหาคม 2562 ณ โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “นโยบายการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เพื่ออนาคต” ตอนหนึ่งว่า การประชุมทางวิชาการนี้จะเป็นเวทีวิชาการของครูและบุคลากรทางการศึกษาที่จะได้มีโอกาสมานำเสนอ ร่วมรับฟัง ศึกษา และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในประเด็นสำคัญทางด้านการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นประเด็นในเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์ประเทศ แนวคิดนวัตกรรมในการแก้ปัญหาหรือต่อยอดการดำเนินงาน รวมถึงแนวคิดวิธีการใหม่ที่ท้าทายและตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยและสังคมโลก นโยบายของรัฐบาลภายใต้การบริหารงานของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาคนไทยให้มีความพร้อมในการดำรงชีวิต ในศตวรรษที่ 21 เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีแบบแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศสู่ Thailand 4.0 นโยบายด้านการศึกษาจึงเป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาล โดยนำรูปแบบแนวคิดวิธีการใหม่ๆ ในการจัดการหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีสารสนเทศและเครื่องมือที่เหมาะสมมาใช้ในการพัฒนาการศึกษา จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการจัดการศึกษาเพื่ออนาคต
“ผมในฐานะผู้เข้ามาดูแลและรับผิดชอบงานการศึกษา ได้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาครู เพื่อช่วยต่อยอดความสามารถในการจัดการเรียนการสอน ที่จะส่งผลต่อความสามารถของเด็กโดยตรง รวมทั้งทำให้คุณภาพชีวิตของครูไทยดีขึ้น ให้ครูมีกำลังใจในการทำหน้าที่เป็นแม่พิมพ์ของชาติ ด้วยการปรับหลักสูตรการศึกษาให้สอดคล้องและสนองตอบความก้าวหน้าของดิจิทัลมากขึ้น ทั้งในด้านการจัดการเรียนการสอน สื่อ และการวัดประเมินผล สร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ระบบดิจิทัล /ส่งเสริมการเรียน วิทยาการคอมพิวเตอร์ Coding / พัฒนาหลักสูตรออนไลน์ของสถาบันการศึกษา /ปรับระบบการเรียน วิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีด้านวิศวกรรม คณิตศาสตร์ โปรแกรมเมอร์ ภาษาต่างประเทศ รวมถึงสร้างความรู้ ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สื่อออนไลน์ และโครงสร้างสังคมออนไลน์ของไทย เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากการใช้เทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ที่เกิดอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน
ส่งผลให้ครูต้องเปลี่ยนบทบาทตนเองจาก “ครูที่ทำหน้าที่สอน” เป็น “โค้ช” ที่ต้องให้คำปรึกษา แนะนำ และเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กเกิดความอยากที่จะเรียนรู้ต่อไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ครูจะต้องเป็น “ผู้อำนวยการการเรียนรู้ให้แก่เด็ก” โดยกระตุ้นให้เด็กได้เรียนรู้ เกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ ค้นคว้า และแสวงหาคำตอบจากการเรียนของตน “ครู” เป็นจุดเริ่มต้นของคุณภาพการศึกษาทั้งหมด และผู้บริหารโรงเรียนจะต้องมีภาวะผู้นำทางวิชาการอย่างชัดเจนที่เข้าไปสนับสนุนให้เกิดคุณภาพดังกล่าว บทบาทของครูและผู้บริหาร จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนสมรรถนะหลักที่ครูต้องมี คือ ทักษะในการสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนเกิดความกระหายที่จะค้นคว้าเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงทักษะการจัดการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล และการออกแบบ การเรียนรู้ของผู้เรียนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลและประเมินผล การพัฒนาครูให้มีสมรรถนะใหม่นี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ”
รมว.ศธ. กล่าวว่า ครูในยุคนี้ต้องมีคุณลักษณะหนึ่งที่สำคัญที่เรียกว่า E-Teacher คือ ต้องมีประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้แบบใหม่โดยจัดการเรียนการสอนผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและสื่อเทคโนโลยี มีทักษะในการแสวงหาความรู้ใหม่ๆ เพื่อขยายองค์ความรู้ของตนเองตลอดเวลา มีความสามารถ ในการถ่ายทอดหรือขยายความรู้ของตนเองสู่ผู้เรียนผ่านสื่อเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดงานประชุมทางวิชาการในวันนี้ถือเป็นการส่งเสริม สนับสนุน และเปิดโอกาสให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา นักวิชาการ นักวิจัย นิสิต/นักศึกษา และประชาชนผู้ที่สนใจ ได้มีโอกาสแสวงหาความรู้ เปิดโลกทัศน์ของการเปลี่ยนแปลงในโลกแห่งยุคดิจิทัล ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทางวิชาการและวิชาชีพ ที่จะส่งผลให้ผู้เข้าร่วมการประชุมได้นำแนวคิด รูปแบบ วิธีการ และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ได้รับจากกิจกรรมที่เข้าร่วมไปปรับประยุกต์ใช้ได้เหมาะสมกับงานตามบทบาทภารกิจของตน
ด้าน ดร.วัฒนาพร ระงับทุกข์ เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า การจัดประชุมทางวิชาการครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 16 หน่วยงาน ที่ตระหนักและเห็นความสำคัญของพลังครูเพื่อขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาไทยและการประชุมทางวิชาการของคุรุสภา ในครั้งนี้ เพื่อให้ครูได้เรียนรู้ ปรับตัว และเห็นความสำคัญ ความจำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตนเองทั้งคุณลักษณะ สมรรถนะ เพื่อจัดการเรียนรู้ที่ดี มีความหมาย และ มีคุณภาพสำหรับผู้เรียนแห่งอนาคต ภายใต้บริบทของสังคมโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แบบชนิดที่คาดเดาได้ยาก และมี ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ผู้แทนหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงาน ทางการศึกษา คณาจารย์ นักวิชาการ นักวิจัย นิสิต นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป ประมาณ 1,800 คน เข้าร่วมงาน
สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การปาฐกถาพิเศษ การเสวนา เรื่อง “การศึกษาแห่งอนาคต” การอภิปราย การบรรยาย การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การเปิดชั้นเรียน นิทรรศการผลงานวิจัยและนวัตกรรมทางการศึกษา และการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) มากกว่า 20 เรื่อง กับไฮไลต์เด็ด ๆ ใน Sub Theme “ทักษะชีวิตเพื่อโลกแห่งอนาคต” “การเรียนรู้ในยุคดิจิทัล” “การเรียนรู้เพื่อสร้างความเป็นพลเมืองโลก” “Coding” “ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC)” คลินิกวิจัย และคลินิกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี