“สมศักดิ์” ยอมรับส่งทีมงานตรวจข้อร้องเรียน ปมประมูลสร้างเรือนจำ ชี้ไม่พบประเด็นผิดปกติก็จบ แจงมาจากการเลือกตั้ง ต้องการสร้างผลงาน เพียงวิธีการบางครั้ง ไม่เหมาะสม ดูเกินเลยไป สั่งทีมงานปรับเปลี่ยนวิธีทำงานห้ามจ้อประเด็นล่อแหลมเกินเลย ยืนยันไม่เคยสั่งจุ้นสอบเรื่อง งบลับ-งบประชาสัมพันธ์
เมื่อวันที่ 19 สิหงหาคม ที่กรมราชทัณฑ์ จังหวัดนนทบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม(ยธ.)ให้สัมภาษณ์ชี้แจงกรณีที่ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีราชทัณฑ์ออกมาตอบโต้กรณีทีมงานการเมืองที่ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง จ.ระยอง เมื่อวันที่17สิงหาคมที่ผ่านมาหลังได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสและการล็อกสเปคอุปกรณ์เสริมความมั่นคงในเรือนจำ 4 แห่งว่า ไม่อยากให้สื่อมวลชน หรือประชาชนตีความว่าเป็นการทำงานแบบล้วงลูก แต่ยอมว่าการเข้ามาของฝ่ายการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรี เลขารัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรี ล้วนแล้วก็อยากได้ อยากทำและอยากสร้างผลงาน เพียงแต่วิธีการบางทีบางครั้งก็ไม่เหมาะสม ดูเหมือนเกินเลยไป เนื่องจากพอทีมลงไปดูแล้วก็ไปให้ข่าวกับสื่อมวลชนเองจึงทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนทางวัตถุประสงค์
ทั้งนี้ การลงพื้นที่ของทีมงาน ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่จะได้ทราบว่าการร้องเรียนเข้ามาพบว่าการดำเนินการของกรมราชทัณฑ์อยู่ในกรอบของกฎหมาย มีการประมูลผ่านอี-บิดดิ้ง การกำหนดสเปกประกาศรายละเอียดบนเว็ปไซต์ เมื่อตรวจสอบพบว่า เรื่องทั้งหมดดำเนินการถูกต้อง ก็จบไป
“ผมได้กำชับทีมงานไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในประเด็นที่ล่อแหลม ที่อาจนำไปสู่ความเข้าผิด ยอมรับว่าการทำงานของทีมงานการเมืองอยู่ในความสนใจเมื่อมีประเด็นร้องเรียนเข้ามาก็ลงไปตรวจสอบ เพื่อหาคำตอบและคลายความสงสัยให้กับสังคม เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความตั้งใจและความขยันของทีมงานที่เข้ามาใหม่ ซึ่งผลของการลงพื้นที่ ก็ชัดเจนแล้วว่าสิ่งที่กรมราชทัณฑ์ทำไปนั้น ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว”นายสมศักดิ์ ย้ำ
นายสมศักดิ์ ยอมรับด้วยว่ายังไม่ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แต่ก็เข้าใจอธิบดีฯวันนี้จึงได้มาพูดคุยกับกรมราชทัณฑ์เพื่อทำความเข้าใจว่าการดำเนินการที่ผ่านมาถูกต้องแล้ว
เมื่อถามถึงประเด็นที่ทีมงานได้สอบถามไปยังกรมต่างๆถึงงบประมาณลับและงบประชาสัมพันธ์นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เคยสั่งให้ทีมงานไปสอบถาม เพราะเข้าใจดีว่าเรื่องงบลับเป็นความลับ แต่เรื่องขององค์ความรู้ ตนในฐานะผู้บริหาร ก็ควรจะต้องรู้และต้องทราบทั้งหมด ตนเข้าใจดี อะไรบอกได้ ก็ต้องบอก อะไรบอกไม่ได้ เพราะอยู่ในกรอบกฎหมาย ตนก็เข้าใจ ซึ่งประเด็นนี้ถูกสื่อสารกันออกไปจนอาจทำให้คนสงสัยเพราะเมื่อพูดถึงงบลับจึงเกิดความตกใจกันไปใหญ่โต
“ขอยืนยันว่าไม่ได้ส่งใครไปถามเรื่องงบฯแน่นอนเพราะเรื่องงบประมาณต่างๆ ตนสามารถรับรู้ข้อมูลได้เองอยู่แล้ว ผมเป็นรัฐมนตรี ไม่มีรัฐมนตรีช่วย มาทำงานคนเดียว ทุกวันนี้ยังตรวจงานไม่ทัน ขณะที่หลายกระทรวง เขามีรัฐมนตรีช่วย จึงมีความจำเป็น ต้องมีทีมงานเข้าช่วยทำงาน”นายสมศักดิ์ ย้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ออกเอกสารข่าวเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ชี้แจงกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรมส่งทีมงานลงพื้นที่ตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการล็อกสเป็คสร้างเรือนจำ 4แห่ง โดยมีข้อความตอนหนึ่งระบุว่า “ส่วนตัวมีความเคารพและนับถือท่านรัฐมนตรีเป็นอย่างสูง แต่อยากเรียนเสนอให้มีการทบทวนและปรับปรุงแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานฝ่ายการเมืองกับข้าราชการประจำให้เป็นไปอย่างให้เกียรติซึ่งกันและกันโดยยึดผลประโยชน์ของทางราชการเป็นหลัก ไม่เปิดประเด็นออกสื่อรายวัน โดยไม่สอบถามข้อเท็จจริงหรือเปิดโอกาสให้ทางส่วนราชการได้ ชี้แจงอย่างเป็นกิจจะลักษณะเสียก่อน”
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแลกระทรวงยุติธรรมกล่าวถึงกระแสข่าวความไม่โปร่งใสและการล็อคสเป็คอุปกรณ์เสริมความมั่นคงโครงการก่อสร้างเรือนจำของกรมราชทัณฑ์ว่าไม่ทราบเรื่อง ขอให้ไปถามนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ส่วนจะเรียก รมว.ยุติธรรม มาคุยหรือไม่ หลังมีกระแสข่าวว่าทีมงานรัฐมนตรีไปล้วงลูกในงบลับและประชาสัมพันธ์ของทุกกรมในสังกัดด้วย ก็ได้เห็นข่าวของสื่อมวลชน แต่ไม่ทราบรายละเอียด ตอนนี้รับทราบว่ามีปัญหาระหว่างทีมงานรัฐมนตรีกับข้าราชการประจำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี