‘อนุทิน’มอบ‘เศรษฐพงค์’พัฒนาTelemedicine ลดความแออัดผู้ป่วยในรพ. นำร่อง8จว.

‘อนุทิน’มอบ‘เศรษฐพงค์’พัฒนาTelemedicine ลดความแออัดผู้ป่วยในรพ. นำร่อง8จว.

วันพุธ ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2562, 10.35 น.

‘อนุทิน’มอบ‘เศรษฐพงค์’พัฒนาTelemedicine ลดความแออัดผู้ป่วยในรพ. นำร่อง8จว.

21 สิงหาคม 2562 พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ให้สัมภาษณ์ว่า จากการติดตามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงวัดหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อติดตามการแก้ปัญหาผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล และปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข โดยนายอนุทินให้ตนเข้ามาช่วยงานในนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงสาธารณสุข คือ การปฏิรูประบบสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพ โดยใช้ระบบโทรเวชกรรม หรือ Telemedicine เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงาน


ทั้งนี้ ปัจจุบันปัญหาระบบสาธารณสุขของไทย คือ เรามีผู้ป่วยที่ไม่มีความจำเป็นต้องไปโรงพยาบาลมากถึงร้อยละ 25 ของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล รวมทั้งเรากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงทำให้บุคลากรทางการแพทย์จะต้องรับงานหนักเกินความจำเป็น และใช้งบประมาณมากเกินความจำเป็น รวมถึงการเดินทางทำให้ประชาชนเสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ และไทยเป็นประเทศที่มีค่าเฉลี่ยแพทย์ 1 คนต่อประชากรที่สูงมาก คือ แพทย์ 1 คน ต่อประชากร 2,065 คน ขณะที่องค์การอนามัยโลกได้กำหนดค่าเฉลี่ยแพทย์ 1 คน ต่อจำนวนประชากรอยู่ที่ 439 คน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ชนบท และพื้นที่ห่างไกลยังขาดโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เพื่อขับเคลื่อนโครงการพัฒนา และการประยุกต์ใช้งานบริการทางการแพทย์ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชนบท “Telemedicine” เพื่อยกระดับการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของประชาชนในพื้นที่ชนบทผ่านโครงการ จัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล(Zone C) และพื้นที่ชายขอบ(Zone C+) ซึ่งผู้ป่วยเหมือนได้เดินทางไปรับคำปรึกษาจากแพทย์ด้วยตัวเอง ทำให้ได้รับคำปรึกษาได้อย่างทันเวลา และยังช่วยลดความแออัดของจำนวนคนไข้ ลดภาระของแพทย์ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในเมือง

สำหรับระบบโทรคมนาคมเฉพาะทาง เพื่อรองรับระบบดูแลสุขภาพทางไกล เช่น การใช้ซอฟต์แวร์ที่มีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยในการคัดกรองโรค ระบบให้คำปรึกษาด้านสุขภาพทางไกล เป็นต้น ทั้งนี้สำนักงาน กสทช.ได้ดำเนินการตามกรอบความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ในระยะเริ่มต้น 8 จังหวัด และในอนาคตจะขยายไปสู่พื้นที่ชนบทอื่นทั่วประเทศ

เมื่อถามว่าเข้ามาทำงานการเมืองครั้งแรก ก็มีส่วนร่วมรับผิดชอบในงานนโยบายใหญ่ๆของพรรค รู้สึกกดดันหรือไม่ พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า ที่จริงตนก็เคยผ่านงานระดับชาติมาบ้าง แต่ยังรู้สึกกดดันอยู่บ้าง เพราะโครงการนี้เป็นความหวังของพี่น้องประชาชนในชนบท และเป็นการช่วยเหลือโรงพยาบาล ช่วยเหลือแพทย์ด้วย แต่ยังรู้สึกภูมิใจมากกว่าที่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญของพรรค ซึ่งต้องขอขอบคุณท่านหัวหน้าพรรคที่ให้ความไว้วางใจ ให้ตนได้เข้ามามีส่วนช่วยเหลืองาน ตนยืนยันจะใช้ความรู้ความสามารถประสบการณ์ ตั้งแต่ครั้งเป็นรองประธาน กสทช.ในด้านดิจิทัล เข้ามาช่วยเหลือให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จให้ได้

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวด้วยว่า ช่วงที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปอีกขั้นกับความพยายามผลักดันเทคโนโลยีสื่อสารความเร็วสูงมาใช้กับวงการแพทย์ โดยเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2562 ได้มีการทำบันทึกความร่วมมือระหว่างสำนักงาน กสทช. กับกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เรื่องการกำหนดแนวทางการพัฒนาและการประยุกต์ใช้งานบริการทางการแพทย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชนบท เพื่อเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพในการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อปรับปรุงการให้บริการสุขภาพ การบริหารจัดการสุขภาพ และการสื่อสารด้านสุขภาพ โดยทั้งสองหน่วยงานจะร่วมมือกันเพื่อพัฒนาและประยุกต์ใช้ระบบโทรคมนาคมเพื่อการแพทย์และสาธารณสุข ร่วมมือกันเสนอแนะกำหนดแนวทางงานบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขกับโทรคมนาคม เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างประเทศไปสู่สังคมดิจิทัล Thailand 4.0

“การทำบันทึกความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญ ที่หน่วยงานภาครัฐแสดงความจริงใจต่อการทำงานพัฒนาวงการแพทย์และระบบสาธารณสุขของประเทศ โดยมองเป้าหมายผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ แน่นอนว่าพรรคภูมิใจไทยเราไม่นิ่งนอนใจ จะผลักดันนโยบาย Telemedicine อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมให้ได้” พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top