มาลุ้นกันต่อกับทริปการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านเกษตร ประมงและป่าไม้ หรือ SSOM AMAF Meeting ซึ่งปีนี้จัดขึ้นที่เมืองเว้
ประเทศเวียดนาม ของผมและคณะแอปเตอร์ ที่เล่าค้างไว้เมื่อสัปดาห์ที่ก่อนกันครับ หลังจากที่เครื่องบินการบินไทย เดินทางไปถึงสนามบิน
โฮจิมินห์เป็นเวลาก่อนที่เครื่องบินเวียดนามแอร์ไลน์ส จะออกเพียงประมาณ 40 นาทีเท่านั้น แน่นอนว่าเมื่อเครื่องเข้าหลุมจอด พวกเราต่างทำใจแล้ว ว่าตกเครื่องแน่นอน และถ้าตกจริง เวลาที่จะออกเที่ยวต่อไปต้องรอจนเย็นโน่น และก็ไม่แน่ใจอีกว่า จะมีที่นั่งเหลือหรือเปล่า แต่ถึงกระนั้น พวกเราก็ต้องเสี่ยง เพราะต้องต่อสู้ต่อไปจนกว่าจะรู้แพ้รู้ชนะ
พวกเรารอเข้าคิวตรวจคนเข้าเมือง และก็วิ่งแข่งกันไปรอรับกระเป๋า จนได้ครบเหลือเวลาออกบินเที่ยวต่ออีกเพียงสิบนาที ใช้เวลาลากกระเป๋าวิ่งฝ่าฝูงชนที่ขวักไขว่ราวกับหนอน จากเทอร์มินัลระหว่างประเทศไปยังเทอร์มินอลในประเทศอีกประมาณ 5 นาที (ตรงเป๊ะอย่างที่ศึกษามาแล้ว) วิ่งเข้าไปที่เคาน์เตอร์ ปรากฏว่าผู้โดยสารทุกคนไปขึ้นเครื่องหมดแล้ว เหลือเจ้าหน้าที่สายการบินเวียดนาม 2-3 คน ยืนทำหน้ายักษ์ ถือบอร์ดดิ้งพาส หรือบัตรขึ้นเครื่องบินของพวกเราปึกหนึ่ง (เพราะคนไทยมีราวยี่สิบคน) รีบดูพาสปอร์ตที่ละคนแล้วไล่ให้พวกเราลากกระเป๋าขึ้นไปชั้น 2 เพื่อลากไปโหลดที่เครื่องบินด้วยตัวเอง คือ สรุปแล้วทันครับ แต่ทันด้วยความทุลักทุเลและเหนื่อยสุดๆ เข้าใจว่าทางสายการบินเวียดนามก็คงทราบว่าเครื่องต้นทางดีเลย์ เลยรอ และอีกอย่างเพราะพวกเรามีมาก เป็นคนกลุ่มใหญ่ เขาจึงรอ ทุกคนโล่งอก ไม่ต้องยุ่งยากหาเครื่องใหม่ บางคนตัดพ้อสายการบินแห่งชาติเดียวกันเองว่า ที่บอกว่า รักคุณเท่าฟ้าน่ะ รักจริงหรือเพียงพูดไปงั้นๆ เท่านั้น
ผมเล่าเหตุการณ์ข้างต้น เป็นสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีเจตนาจะวิจารณ์ว่าถูกไม่ถูกหรือตำหนิติเตียนใครแต่ประการใด เพราะเชื่อว่ามันต้องมีสาเหตุจำเป็นอะไรสักอย่าง คงไม่มีใครอยากจะผิดนัดหรอก และเท่าที่นั่งเครื่องบินทุกวันนี้ การดีเลย์หรือขึ้นบินช้ากว่าเวลากำหนดนั้น ก็เป็นสิ่งที่เห็นอยู่เป็นประจำ จนแทบจะไม่ค่อยเห็นเครื่องบินที่ขึ้นตรงต่อเวลาเลย ที่เมียนมามีครั้งหนึ่งที่ผมและคณะเดินทางมาถึงสนามบินย่างกุ้งช้ากว่ากำหนด เนื่องจากการจราจรคับคั่งมาก คำนวณการเดินทางผิด คิดว่าอย่างไรเสียก็คงต้องนอนค้างอีกคืนแน่ๆ แต่ปรากฏว่าเครื่องการบินไทยดีเลย์ไปเป็นชั่วโมง และทางผู้ใหญ่เมียนมาได้ส่งคนไปคุยกับเคาน์เตอร์เช็คอินก่อน เราเลยได้กลับกรุงเทพฯคืนนั้น กลับกลายเป็นว่า เครื่องดีเลย์แล้วเป็นผลดีซะอีก ขอบคุณครับ
ที่การประชุม SSOM AMAF Meeting นี้ ผมต้องนำเสนอผลการดำเนินงานของแอปเตอร์ต่อที่ประชุมตามระเบียบวาระที่ฝ่ายเลขานุการการประชุม หรือสำนักเลขาธิการอาเซียนจัดให้ ซึ่งก็เหมือนกันกับการประชุมทุกครั้ง มีสาระของผลการดำเนินงานของแอปเตอร์สำหรับคราวนี้ ได้แก่ ความสำเร็จในการเริ่มต้นทำ Tier 1 ระหว่างญี่ปุ่น ในฐานะประเทศผู้ขาย กับฟิลิปปินส์ ในฐานะของประเทศผู้ซื้อ จำนวนข้าวสาร 10,000 ตัน การได้รับบริจาคข้าวเพื่อช่วยเหลือประเทศผู้ประสบภัยตาม Tier 3 รวมกันจำนวน 4,000 ตันเศษ จากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ การเผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์ด้านความมั่นคงอาหารในภูมิภาค การประชาสัมพันธ์ การขยายเวลาบริจาคเงินทุนสนับสนุนการดำเนินงานของแอปเตอร์ในเฟส 2 ระหว่างปี 2518-2522 และการแก้ไขเอกสารแนบของความตกลงแอปเตอร์ ซึ่งประเทศสมาชิกต้องเร่งรัดให้สัตยาบัน เป็นต้น
การนำเสนอของผมนั้นต้องเสนอ 2 ครั้ง คือ ครั้งแรก ในที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเฉพาะของอาเซียน 10 ประเทศก่อน และอีกครั้ง คือเสนอในที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสของอาเซียน+3 ซึ่งรวมจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ จากนั้นหากมีผู้สนใจจะสอบถามก็ต้องตอบไป โชคดีที่การประชุมครั้งนี้ไม่มีท่านใดสงสัยประเด็นใด มีแต่ชื่นชมและขอบคุณแอปเตอร์ที่กรุณาประสานงานนำข้าวไปช่วยเหลือประชาชนผู้ทุกข์ยาก รวมทั้งขอบคุณประเทศผู้บริจาคข้าว จึงจบเสร็จสิ้นในส่วนการนำเสนอของแอปเตอร์ไปด้วยความเรียบร้อยและงดงามเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมาครับ
การประชุมกันในหัวข้อหรือระเบียบวาระอื่นๆ ผลเป็นอย่างไรผมและทีมงานแอปเตอร์ไม่อาจล่วงรู้ได้ เพราะเขาไม่อนุญาตให้เข้าไปร่วมประชุม หรือเข้าไปฟัง เนื่องจากไม่เกี่ยวข้อง พวกเราเลยต้องนั่งพักกันในห้องพิเศษที่เจ้าภาพจัดให้ รอกันอยู่อย่างนั้นแหละทั้งวัน ไม่ต่างจากตอนที่เมื่อครั้งหนึ่งต้องไปสแตนด์บายรอคอยเพื่อชี้แจงงบประมาณแผ่นดินที่รัฐสภาสมัยที่ทำงานที่กรมการข้าวเลยครับ
ชาญพิทยา ฉิมพาลี
chanpithya@apterr.org
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี